นายซัลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ แถลงเมื่อ 11 ก.พ.ว่า ดูเตร์เตตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงทางทหารสำคัญกับสหรัฐฯ ที่เรียกว่า “ข้อตกลงกองกำลังผู้มาเยือน” (วีเอฟเอ) โดยนายทีโอโดโร ลอกซิน จูเนียร์ รมว.ต่างประเทศฟิลิปปินส์ ส่งจดหมายแจ้งความจำนงถึงสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมะนิลาแล้ว และจะมีผลบังคับภายใน 180 วันหลังสหรัฐฯ ได้รับแจ้ง แต่ทั้งสองฝ่ายอาจตัดสินใจรักษาข้อตกลงไว้ปาเนโลแถลงโดยอ้างคำกล่าวของดูเตร์เตว่า ถึงเวลาพึ่งพาและเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการทหารด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาประเทศใดๆ ตนขอยกเลิกข้อตกลงวีเอฟเอแม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต้องการให้คงไว้ ทั้งนี้ การสั่งยกเลิกวีเอฟเอมีขึ้นหลังสหรัฐฯ ยกเลิกวีซ่าของนายโรนัลด์ เดลา ซูซา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าหน่วยทำสงครามกับยาเสพติดของดูเตร์เต หลังวุฒิสมาชิกที่โจมตีดูเตร์เตถูกจับกุมนับเป็นครั้งแรกที่ดูเตร์เตยกเลิกข้อตกลงกับสหรัฐฯ หลังขึ้นกุมอำนาจได้กว่า 3 ปี ซึ่งเขาแสดงความไม่พอใจสหรัฐฯและขู่ลดความสัมพันธ์ด้านการทหารกับสหรัฐฯ ลง เขายังประณามสหรัฐฯว่าหน้าไหว้หลังหลอก ปฏิบัติต่อฟิลิปปินส์เหมือนสุนัขล่ามโซ่ และอ้างว่าสหรัฐฯ เก็บอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในฟิลิปปินส์ ดูเตร์เตยังตำหนินโยบายการทหารของสหรัฐฯ และไปชื่นชมจีนกับรัสเซียแทน แม้รมว.ต่างประเทศและรมว.กลาโหมฟิลิปปินส์เตือนในวุฒิสภาว่าการยกเลิกวีเอฟเอจะบ่อนทำลายความมั่นคงของฟิลิปปินส์และส่งเสริมการรุกรานของจีนในทะเลจีนใต้ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างสหรัฐฯ อดีตเจ้าอาณานิคมกับฟิลิปปินส์ เริ่มตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1950 ภายใต้ “สนธิสัญญาป้องกันร่วม” (เอ็มทีดี) และ “ข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือป้องกัน” (อีดีซีเอ) ซึ่งทั้ง 2 ข้อตกลงนี้ยังคงอยู่ ส่วนวีเอฟเอซึ่งลงนามกันในปี 2541 ให้สถานะทางกฎหมายพิเศษแก่ทหารสหรัฐฯ ที่หมุนเวียนไปประจำการในฟิลิปปินส์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและซ้อมรบร่วมซึ่งจัดขึ้นปีละหลายสิบครั้งวันเดียวกัน ชาวอิหร่านหลายล้านคนออกมาเฉลิมฉลองวันครบรอบ 41 ปี การปฏิวัติอิสลามอิหร่านในเมืองใหญ่น้อยกว่า 5,000 เมืองทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเตหะราน ซึ่งประชาชนหลายแสนคนไปชุมนุมที่จัตุรัสเสรีภาพและอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่นั่น การเฉลิมฉลองปีนี้มีขึ้นขณะความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯทวีขึ้น หลังทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 กับอิหร่านในปี 2561 จากนั้นสหรัฐฯ ใช้โดรนลอบสังหารพลตรีกัสซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่านในอิรัก และอิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงถล่มฐานทัพในอิรัก ทำให้ทหารอเมริกันบาดเจ็บกว่า 100 นาย.