อยู่เฉยๆ ทำงานเลี้ยงลูกอยู่บ้านแท้ๆ เจอเพจปลอม กุข่าวแรง ประสบอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต ล่าสุดเจอหน้าคุณแม่คนสวย ยุ้ย–จีรนันท์ พาครอบครัวมาอุดหนุนร้าน “บ้ายอ ก๋วยเตี๋ยว” ของ มิกค์ ทองระย้า เลยสอบถามข่าวลือที่เกิดขึ้น สาวยุ้ย เล่าว่า...“เห็นข่าวแล้วค่ะ ที่บ้านวุ่นวายกันมากๆ ทั้งแม่ พี่สาวๆเพื่อนๆ รับโทรศัพท์กันตั้งแต่เช้าเลย แม่เล่าลุงตกใจจนมือสั่นเลย ตอนนั้นยุ้ยอยู่ที่บ้าน เพื่อนไลน์มาบอกก่อนมีข่าวแบบนี้ เพราะเพื่อนพี่ไลน์มาถามว่าเอาไว้วัดไหน (หัวเราะ) พอยุ้ยเข้าไปดูเพจก็รู้แล้วว่า จริงๆโดนหลายคน ไม่ได้ตกใจแต่เบื่อมากกว่า ไม่โอเคมากกว่า เป็นข่าวที่ทำร้ายคนรู้ข่าวมากกว่า เขาตกใจ ช็อก โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว พอเรารู้ข่าวเขาใช้ชื่อเสียงเราไปหลอกเรื่องเกิดอุบัติเหตุ หลอกให้คนมาเล่นพนัน จริงๆเป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้ตามไปกดลิงก์เว็บพนัน” คิดว่าจะดำเนินการอะไรไหม “เท่าที่ฟังจากพี่ๆที่โดนข่าวแบบนี้ เว็บนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เป็นแอ็กเคาต์ต่างประเทศเลยไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ยุ้ยมีความรู้สึกเอาเวลาตรงนั้นมาเลี้ยงลูก มาทำมาหากินดีกว่าไปนั่งไลฟ์ ชม.-2 ชม. ยังมีรายได้ เพียงแต่ยุ้ยออกมาไลฟ์ ออกมาพูดว่ายุ้ยปลอดภัย ให้หลายๆคนที่เป็นห่วงตกใจกับข่าวนี้ ให้ทุกคนเห็นว่าอย่าตกเป็นเหยื่อเว็บพนันเท่านั้นเอง ตอนนี้มิจฉาชีพมาหลายรูปแบบมาก”มีกระแสการล็อกบัญชี เราในฐานะแม่ค้าออนไลน์มีกังวล “กังวัลสิ เราเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ คนก็ต้องโอนเข้าบัญชี ยุ้ยว่ามันไม่ถูกนะมาบล็อกบัญชี มัน เป็นเงินที่เราควรจะได้ เราใน ฐานะแม่ค้าไม่รู้หรอกว่าเขาเอาบัญชีอะไรโอนมาให้เรา พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กี่คน กี่บัญชีล่ะที่เขาโอนเข้ามา ตรวจสอบยาก สิ่งที่ยุ้ยต้องระวัง มิจฉาชีพจะมาในรูปแบบโอนเงินไปส่งสลิปปลอม ยุ้ยโดนทุกวัน ต้องมีการเช็กสลิปปลอม โชคดีมีการเช็กก่อนถึงส่งของ ไม่งั้นเสียหายเยอะ โดนแม้กระทั่งของที่ส่งไป ถูกตีกลับมาแต่ข้างในเป็นผ้าขี้ริ้ว เป็นพาวเวอร์แบงก์เก่าๆ เอาของเราออกแล้วส่งของอย่าง อื่นกลับมาให้ ลูกค้าจะเจอของไม่ตรงปก พยายามพูดทุกไลฟ์อย่าเชื่อ ล่าสุดก่อนไลฟ์มีโทร.เข้ามาจะคืนหม้อแปลงไฟฟ้านะ บอกเลขที่บัญชี ขอบัตรประชาชน ยุ้ยก็เอะใจ เริ่มไม่ใช่เลยกดวาง ให้สแกน แอดไลน์แล้วด้วยนะ พอคุยเสร็จปุ๊บ สะดวกแชร์หน้าบัญชีตอนนี้ไหม โดนแล้วเหรอกำลังไลฟ์ ใจเต้นแรงมาก” อัปเดตชีวิตคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง “มีความสุขมากค่ะ แต่เหนื่อยมากแต่เป็นความเหนื่อยที่มีความสุข เราตั้งใจวางแผนชีวิตแบบนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เลี้ยงลูกแบบฟูลไทม์ ทำงานก็คือการไลฟ์ขายของอย่างเดียว วันละ 1-2 ชม.” ตอนนี้น้องตะวันอายุเท่าไหร่แล้ว “1 ขวบ 5 เดือน เร็วเนอะ เราเหมือนเพิ่งฝังตัวอ่อน เพิ่งท้อง เพิ่งคลอดเลย” จะขวบครึ่งแล้วเริ่มมองหาเนิร์สเซอรี่เอาไว้หรือยัง “ก็มองไว้แล้วค่ะ จริงๆจองไว้แล้วแต่ยังไม่ตัดสินใจ ตั้งใจจะให้เข้าเรียน ตอน 3 ขวบครึ่ง ที่ไปดูเป็นที่มวกเหล็ก สระบุรี จะเป็นโรงเรียนนานาชาติ เพราะอยากให้เขาได้ภาษา ทั้งยุ้ยกับธันน์เป็นคนไม่เก่งภาษาเลย ก็เลยอยากให้ลูกเก่งภาษา” ไปอยู่ตรงนั้นแล้วงานวงการของยุ้ยกับธันน์ล่ะ “เป็นเรื่องของอนาคต คิดว่าให้เวลากับลูกไปก่อน จริงๆยุ้ยมีอัดรายการค่อนข้างเยอะ คุยกับธันน์ อาจจะต้องสลับกันไปๆมาๆ ถ้ายุ้ยขึ้นมา ธันน์ก็ต้องดูลูก จริงๆบ้านกรุงเทพฯขึ้นมาตลอด จะอยู่ที่นี่ 15 วัน สระบุรี 15 วันสลับกัน พอขึ้นกรุงเทพฯพาลูกเที่ยวทุกวัน พาไปสวนสัตว์ คาเฟ่ พาไปฮาร์เบอร์แลนด์ที่เขาชอบ มีความรู้สึกอยากให้ลูกใช้ชีวิตให้มีความสุขเต็มที่ แล้วเรามีเวลาให้เขาเต็มร้อย”เหมือนเติมเต็มให้ตัวเอง “จริงนะ เพราะยุ้ยกับธันน์ไม่ได้มีชีวิตแบบนี้ ทั้งคู่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เด็กๆก็อยากให้ลูกมีในสิ่งที่เราไม่เคยมี ได้ในสิ่งที่เราไม่เคยได้ ได้เที่ยวกับพ่อแม่ ที่ผ่านมาเราอยู่กับการทำงานจริงๆ ตอนนี้เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากๆ ตื่นมาโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ปกติจะตื่นตี 4-5 ไปกองละครเป็นแบบนี้มา 20 กว่าปี ใช้ชีวิตค่อนข้างเหนื่อยมากๆ พออยู่กับลูกก็ตื่นพร้อมลูก ลูกปลุก เขาตื่น 11 โมงเลยนะ รู้ใจแม่มากเลย (หัวเราะ)” มีไหมเขาตื่นแต่ยุ้ยไม่ตื่นนอน “มีค่ะ เขาก็มาปลุกยุ้ยเปิดเสื้อกินนมเอง (หัวเราะ) จริงๆเขาตื่นแต่เช้า พอยุ้ยไม่ตื่นเขาก็นอนกินนมแล้วนอนต่อจน 11 โมง เลี้ยงแบบบุพเฟ่ต์ เลยแฮปปี้มีความสุข พาไปเที่ยว ไปคาเฟ่ แค่เหนื่อยดูแลเขา เปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ไม่ต้องไปกองถ่ายเท่านั้นเอง คิดไว้ถ้าลูกเข้าเรียนคงเฝ้าลูก ก่อนหน้าไม่เคยมีภาพในหัวเลย ตอนนี้เข้าใจแล้วเราเป็นห่วงเขามากๆ เข้าใจเลยนะหัวอกคนเป็นพ่อแม่ เหมือนหัวใจเราไปอยู่ที่เขา ละสายตาไม่ได้”จะมีลูกอีกสักคน “ไม่แล้วค่ะ ด้วยอายุและไข่ก็น่าจะไม่มีแล้ว ยากค่ะ กว่าจะได้เขามาเหนื่อยอยู่แต่ก็คุ้ม เป็นเหมือนของขวัญเลยค่ะ”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม