สานฝันให้เป็นจริง! สำหรับ FortFTS ฟอร์ด–ฐิติพงศ์ เซ่งง่าย นักแสดงหนุ่มฮอต ที่โด่งดังจากซีรีส์วาย ล่าสุดเดบิวต์ซิงเกิลแรก “เป็นเธอเท่านั้น” ในฐานะศิลปิน และ นั่งแท่น Executive Producer อย่างเต็มตัวของค่าย Kickstar.t Entertainment (คิกสตาร์ ที เอนเตอร์เทนเมนต์) เรียกว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชนจนไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องความรัก ใน “คนดังนั่งคุย”เป็นมายังไงถึงเป็นโปรเจกต์นี้ได้“ตั้งใจไว้นานแล้ว เมื่อ 2 ปีที่แล้วว่าอยากมีเพลงเป็นของตัวเองสักเพลง พยายามทำมาตลอดจน 2 ปีเพิ่งสำเร็จ” เพลงนี้คอนเซปต์ตั้งใจจะสื่อสารอะไร “พอยต์แรกอยากทำเพลงเศร้าเพราะผมชอบทำเพลงเศร้าเลยหาพล็อตเพลงเศร้า ยอมเธอทุกอย่างไม่ว่าเราจะได้อะไรกลับมาเราก็ยอม” พอทำเพลงเศร้าต้องจินตนาการขนาดไหนเพราะชีวิตดูแฮปปี้ “ผมพยายามหาแรงบันดาลใจหลายอย่าง จากซีรีส์เรื่องแรก จากตัวละคร จากบางอย่างในชีวิตจริง จับต้นชนปลายให้ได้มากที่สุด ด้วยประสบการณ์ไม่มีด้วยเลยค่อนข้างใช้เวลานาน” ถึงขั้นเขียนเพลงนี้เองด้วย“ครับ เขียนเองหมดเลยแต่ส่งให้พี่เปิ้ล โปรดิวซ์ ช่วยเรียบเรียงให้”จริงๆทักษะการเขียนของฟอร์ดเป็นยังไง“เป็นศูนย์เลยครับ (ยิ้ม) ไม่เคยเขียนเพลงเลย อาจจะเป็นเพราะผมชอบฟังเพลงเก่าด้วย ศัพท์ในหัวแบบนั้นนึกออกก็เขียน”ทำไมเลือกเปิดตัวในฐานะศิลปินด้วยเพลงเศร้า“ผมฟังเพลงเศร้าได้ทุกเวลา ทุกโอกาส เวลามีความสุขก็ฟัง ส่วนตัวถ้าเลือกทำเพลงก็อยากทำเพลงเศร้า ชอบมู้ดความเศร้า เพลงแรกเลยเบาๆก่อน อารมณ์เพลงของพี่ปาน ธนพร คิดว่าต่อไปให้มันสว่างขึ้นหน่อย ถ้าเทียบเป็นอัลบั้ม เพลงผมก็อยากให้มีความหลากหลาย ชื่อเพลงตั้งใจให้ต่อกันแล้วจบประโยค ผมขึ้นต้นว่า “เป็นเธอเท่านั้น” แล้วตั้งใจจะต่อให้จบประโยคเป็นเมสเสจที่จบในหนึ่งอัลบั้ม” หลังจากปล่อยซิงเกิลออกไปแล้วเป็นยังไง“ปลื้มครับ ดีใจทุกคนชมเพลงเพราะ เพลงดี โล่งอก ทั้งเพลงและพาร์ตเอ็มวีด้วย ตอนแรกกลัวคนไม่ฟังเพลงด้วยซ้ำกลายเป็นทำมาช่วงแรกๆคนที่ฟังซ้ำบ่อยๆ คือผู้จัดการ แกมีดราฟต์แรกก็ฟังซ้ำๆ เปิดฟังทุกวัน ช่วงแรกที่ยังไม่ปล่อยเพลงแกเผลอฮัมเพลงขึ้นมาต่อหน้าแฟนคลับตกใจที่เธอฮัมขึ้นมา ในมุมของผมถือว่าซัคเซสไปหนึ่งขั้นแล้ว”ระหว่างที่เพลงทำไม่เสร็จ มีแอบท้อจนพักไปบ้างไหม “มันเป็นเหตุผล 2 ปี ที่มันเกิดขึ้น เหมือนผมได้ดราฟต์แรกมาไปหาพี่โก้ มิสเตอร์แซกแมน เนื้อยังไม่ถูกใจอยากลองให้พี่เขาแต่งเพลง ส่งไปส่งมาก็ยังไม่ชอบ สุดท้ายเป็นที่เรา ให้จบที่เราก่อน ให้พี่เปิ้ลเรียบเรียงให้สมบูรณ์แบบ” เป็นคนต้องเป๊ะ ต้องดีทุกมุม“อาจจะก็ได้ครับ (หัวเราะ) มันมีภาพในหัวไปแล้วมันขึ้นมาเอง อะไรที่เข้ามาไม่ตรง พยายามต่อต้าน แม้แต่พี่โก้ มิสเตอร์แซกแมนเอง ก็จะไม่เอาเนื้อ จะไปเพลงอื่นแต่ลากกลับมาได้ เพราะเมโลดี้เพลงนี้มันติดในหัวผมไปแล้ว ในช่วง 2 ปี ถ้าติดหูก็เลยทำให้มันจบจะได้ไม่คาใจ จะซัคเซสหรือไม่ซัคเซสไม่เป็นไรอย่างน้อยๆเสียงในหัวอยากให้ทำก็ทำไป” ตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าศิลปินแล้ว “ใช่ครับ ผมรู้สึกในพาร์ตร้องเพลงผมอยากเอาเพลงไปใช้ออกอีเวนต์ อยากเอาเพลงตัวเอง อย่างน้อยเวลาไปตามงานเราครีเอตโชว์ของตัวเองได้ ไปมา 2-3 สเตจ พยายามให้ต่างกันด้วยความเป็นเพลงเราเองสามารถดีไซน์ยังไงก็ได้ พอเป็นเพลงของตัวเองสื่อสารได้ง่ายและตรงที่สุด ในฐานะเป็นศิลปิน” เวลาถูกเรียกศิลปิน–นักแสดงคำคำไหนที่ทำให้เราอินและใจฟูสุดๆ“ส่วนตัวผมนักแสดงยังเป็นท็อปแรงก์อยู่ครับ ยังชอบเป็นนักแสดง ชอบการได้เป็นตัวละคร แต่ว่าในพาร์ตนักแสดงถูกพ่วงด้วยพาร์ตศิลปินตลอดเวลาอยู่แล้ว”หลังจากนี้เรื่องงานเราวางแผนต่อยังไง“จริงๆผมเปิดค่ายใหม่ด้วยครับ ตั้งใจค่ายนี้ในอนาคตผลิตสื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ ทำเพลง ทำซีรีส์ จัดอีเวนต์ จัดมีตติ้ง มีผมเป็นผู้บริหาร และเป็นศิลปินคนแรกด้วย”เป็นคนร้อยโปรเจกต์อยู่นะ “ครับ มีอยู่ในหัวตลอดเวลา ตอนนี้ยังทำได้ยังล้มบนฟูก เป็นช่วงที่ยังมีแฟนคลับซัพพอร์ต ยังพอมีกำลังทรัพย์ลงทุนไปถึงขาดทุนไม่ถึงกระอักเลือด ถือว่าเอาเงินที่จะไปเที่ยวมาสร้างสรรค์ผลงานแล้วกัน ในอนาคตปีหน้าถ้ามีทุนอยากทำซีรีส์เองสักเรื่องเหมือนกัน อยากปั้นน้องๆ ชวนน้องๆมาชวน ไปเรื่อยๆ ทักไปคุย” เตรียมตัวเป็น ผู้จัดซีรีส์ ลุยเบื้องหลัง แล้วงานเบื้องหน้าล่ะ “ผมว่าทำควบคู่กันได้ ผมทำ 2 อย่างมาตลอด ทำเบื้องหลังมาตลอดแค่ทำให้ตัวเอง แต่ในความเป็นจริงเราสามารถทำเบื้องหลังเพื่อปั้นคนอื่นได้เหมือนกัน เรายังทำเบื้องหน้าของตัวเองได้เหมือนกัน มันยังไปด้วยกันได้” ทำไมถึงต้องทำงานเยอะ งานหนักขนาดนี้ มีเป้าหมายอะไร “มันคือความมั่นคง เป็นช่วงที่ยังมีไฟ ผมไม่รู้ว่าอีก 3 ปี ผมจะมีไฟแบบนี้อยู่หรือเปล่า? ในวันมีแรงทำ แรงกาย แรงใจ มีทุนทรัพย์ ทำไปก่อนดีกว่า”เห็นชีวิตทำแต่งานๆ ส่วนตัวไปเที่ยวไม่ค่อยเห็น“ใช่ครับ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว ผมใช้วิธีทำงานด้วยเที่ยวด้วยมากกว่า พาทีมไปเที่ยวเหมือนได้ไปเที่ยวแล้ว ยังสนุกกับการทำงานยังไม่ได้อยากเที่ยวขนาดนั้น จริงๆเราไปแฟนมีตเหมือนได้ไปเที่ยวได้เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว มันยังมีความสุขในการทำงานอย่างนี้ก็ทำไปก่อน ยังไม่ได้รู้สึกว่าต้องเที่ยวเท่านั้นถึงโอเค ไม่ได้โหยหาต้องเที่ยวขนาดนั้น แต่ถ้ามีเวลาว่าง 2-3 วันไปเที่ยวก็ได้ วันไหนหยุดอยู่บ้านผมก็จัดบ้านทำโน่นทำนี่อยู่ดีเพราะคนอื่นทำไม่ถูกใจ (หัวเราะ)” เคยถามตัวเองไหมทำไมเป็นคนแบบนี้“ผมว่าเป็นการฝึกวินัยในตัวเองด้วย มันทำให้เราไม่ขี้เกียจ บางทีก็ปล่อยๆ ทุกวันนี้ยังคิดว่าตัวเองขี้เกียจเกินไปหรือเปล่า ทำเพิ่มหน่อย บางอย่างผมว่าเต็มที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้”กับคู่จิ้น พีท–วสุธร ยังคุยกันทุกวันอยู่ไหม“ต่างคนต่างโตขึ้นครับ อยู่ด้วยกันมาเกือบ 5 ปี ต่างคนต่างมีวิชันในการทำงานของตัวเอง แต่ละพาร์ต กลับมาทำด้วยกันก็ยังซัพพอร์ตกันได้ดีเสมอ ตอนนี้ต่างคนต่างเดินในทางตัวเอง วันนึงใครต้องการความช่วยเหลือก็พร้อมที่จะช่วยเหลือกัน ต่างคนมีวิธีทำงานตามแนวทางของตัวเอง” เท่าที่สนิทกันพีทจะเป็นคนแนวไหน“ถ้าสังเกตพี่พีทจะเป็นคนทำอะไรเรื่อยๆ ค่อยๆคิด ถึงลงมือทำ เขาเป็นคนที่ทำอะไรช้าๆ แต่ความช้าบางอย่างทำให้ผมเก็บมาคิด เก็บมาใช้ได้ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราทำต้องเร็วอยู่ดีเลยรู้สึกว่าผมใช้วิธีศึกษาให้มากขึ้น ดูพอดแคชต์ ดูข่าวมากขึ้น” ทุกวันนี้ได้ใช้ในสิ่งที่ร่ำเรียนมา “ได้ใช้ครับ ผมจบวิศวะ สิ่งที่สอนคือลอจิก วิธีการคิดและการวางแผน ใช้สิ่งที่มันหล่อหลอมมาใช้ กระบวนการความคิด ระบบการจัดการ เรียบเรียงข้อมูลในหัว”อายุเข้าเบญจเพสมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ขนาดไหน“ผมเพิ่งรถชนมาเองครับ ชนหนักที่สุดในชีวิต คือขับไปชนเค้า เป็นทางแคบๆ มุมเสาเลยมองไม่เห็น เป็นทางส่วนบุคคลในหมู่บ้าน หลังเกิดเหตุ โทร.หา รพ. โทร.หาประกัน เป็นห่วงคู่กรณีจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก” ตัวเราเชื่อเรื่องวัยเบญจเพส กังวลไหม“มีไปทำบุญบ้าง พาร์ตนี้ความสามารถส่วนหนึ่ง โอกาสส่วนหนึ่ง โชคชะตาก็ส่วนหนึ่ง บุญก็ส่วนหนึ่ง ซัพพอร์ตกันทุกอย่าง ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่เก่งผิดที่มันก็ไม่โตในวงการ เก่งแต่ไม่มีโอกาส ไม่มีโชคชะตาช่วยเรา อาจจะไม่โตก็ได้ หลายๆ อย่างเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้วกัน เราเป็นชาวพุทธ” จะบอกว่าถึงเราเป็นคนรุ่นใหม่แต่สายมูเราก็ฉ่ำ “ใช่ (หัวเราะ) นิดนึง อย่าลบหลู่ อย่างน้อยๆ ที่นับถือไหว้พระพิฆเนศในบ้าน อย่างทำเพลงนี้ก็มีไหว้ขอพรองค์พ่อ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองแล้วสบายใจ เป็นความเชื่อ อะไรที่เราสบายใจอยากให้เราเคารพบูชา ขอพรท่านให้ช่วยนำทาง”เป้าหมายในชีวิต“ถ้าเป็นพาร์ตนักแสดง-ศิลปินอยากโตขึ้น อยากทำ คือพาร์ตเบื้องหลังด้วย” ในหัวมีแต่งานจริงๆในเรื่องความรักปิดเงียบไปเลย “ใช่ๆ เหมือนทำงานจนชินไปแล้ว ยังไม่รู้สึกว่าตื่นแล้วเหนื่อยกับการทำงาน ยังชอบการได้ทำงานใหม่ๆ ยิ่งเห็นงานออกมาแบบนี้ ยิ่งแฮปปี้ เร็วๆนี้มีงานแฟนมีตทำต่อ งานวันเกิดตัวเองก็ใกล้แล้วก็จัดอีกรอบนึง” ปีนี้มีโชว์เหาะเหินเดินอากาศ “มีแน่นอน เป็นสกิลติดตัวแล้ว ถ้าเราทำได้แฮปปี้ก็อยากจะโชว์ ปีนี้เพิ่มสกิลใหม่ในโชว์แปลกใหม่มากขึ้น” แฟนคลับได้ตะลึง “ใช่ๆ อยากให้เขาคุ้มค่ามาดูโชว์ใหม่ๆ มากกว่าการร้องเพลง การเต้น เรารู้เต้นไม่ได้เฟอร์เฟกต์ แต่พาร์ตโชว์ฟอร์แมนซ์ เรารู้ตัวเป็นคนบ้าพลัง กลัวแค่เต้นดูไม่โตขึ้นเลย” ดูชอบทำอะไรโลดโผน “ใช่ ชอบหาอะไรทำแปลกๆใหม่ๆ ให้กับโชว์ของตัวเอง เป็นคนหาทำ ปีนี้เช่นกันมีอะไรใหม่ๆ”.เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยานอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่