คลื่นมหาชนแห่รับขวัญ “โอปอล-สุชาตา” “มิสเวิลด์” คนแรกของไทยในรอบ 72 ปี ในการกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน หลังรับตำแหน่ง “มิสเวิลด์ 2025” โดยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เนืองแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนร่วมขบวนแห่บนรถบุปผชาติที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามจากท้องฟ้าจำลองไปยังศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โดย “โอปอล” ขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลัง มอบโอกาสให้ไปสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ รวมถึงเชื่อมั่นในตัวเธอ ยอมรับตื่นเต้นมากช่วงตอบ คำถามเพื่อเอาชนะใจกรรมการ โดยพยายามตอบให้ออกมาจากใจไม่ได้ตอบด้วยความทรงจำ คาดอยู่ไทย ราวสองสัปดาห์ก่อนบินไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดนผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 14 มิ.ย. เนืองแน่นไปด้วยคนไทยและกองทัพสื่อมวลชน ทั้งในและต่างประเทศนับหมื่นคน ที่มาร่วมงาน Homecoming Opal Miss World 2025 อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อต้อนรับการกลับเมืองไทยครั้งแรกของ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” หลังจากที่ไปคว้าตำแหน่ง มิสเวิลด์ 2025 เป็นนางงามไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ที่เดินทางจากประเทศอินเดียด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 603 มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 09.25 น. จากนั้นได้เดินทางไปพักผ่อนที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี สุวรรณภูมิ เพื่อรอเวลาเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายจากนั้นเวลา 13.50 น. โอปอล-สุชาตา เดินทางมาพร้อม มิสจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ ด้วยรถตู้เบนซ์ เลขทะเบียน 457 ถึงอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 มีนางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) นายไบรอัน แอล มาร์คาร์ จากเทโร เอนเตอร์เทนเมนต์ เจ้าของลิขสิทธิ์มิสเวิลด์ ไทยแลนด์ นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเดอะมอลล์ นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด และนายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รอให้การต้อนรับเมื่อโอปอล-สุชาตา ออกมาจากรถก็ได้รับเสียงเชียร์เสียงเรียกจากแฟนคลับชาวไทยที่มารอต้อนรับดังกึกก้อง บางคนมาจากต่างจังหวัด ตั้งใจมาต้อนรับอย่างเต็มที่ พร้อมพร็อพ “มงกุฎสีฟ้า” อันเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งมิสเวิลด์ รวมทั้งใส่เสื้อสกรีนภาพโอปอล ในการปรากฏตัวครั้งแรกของมิสเวิลด์คนไทยคนแรก “โอปอล-สุชาตา” ปรากฏตัวพร้อมมงกุฎ Miss World 2025 และสง่างามในชุดราตรีคัตติ้งไหล่เบี่ยงรับสายสะพาย ผลงาน custom made สุดเอกซ์คลูซีฟจาก SIRIVANNAVARI เนรมิตด้วยผ้ามัวเร่ (Moiré) อันหรูหราในโทนสีงาช้าง ประณีตด้วยเทคนิคงานจับเดรปสไตล์กูตูร์ และเพิ่มความโดดเด่นด้วยงานปักอันพิถีพิถันจาก SIRIVANNAVARI Atelier & Academy ที่เพิ่มมิติและความโดดเด่นให้กับชุดราตรี มาพร้อมเครื่องประดับ เป็นเซตจิวเวลรีชั้นสูงจากคอลเลกชัน Heirlooms of Elegance และ Amour Éternel รังสรรค์โดย SIRIVANNAVARI x Beauty Gems ทุกชิ้นเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่งดงามด้วยดีไซน์ร่วมสมัย และเลอค่าในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้นางสาวรติรส จุลชาต ผู้แทนพระองค์ฯ นำช่อดอกไม้พระราชทานมอบแก่ “สุชาตา ช่วงศรี” เพื่อร่วมแสดงความยินดีในฐานะมิสเวิลด์คนแรก และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วย โดยพิธีการเริ่มด้วย โอปอลพร้อมด้วยผู้แทนพระองค์ฯ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้นถวายความเคารพเบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสร็จแล้วโอปอลรับมอบช่อดอกไม้พระราชทานจากผู้แทนพระองค์ฯ แสดงความยินดีกับผู้ได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์คนแรกของประเทศไทย ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกับคณะผู้บริหารบนเวทีหลังจบพิธีการ โอปอลขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณประชาชนชาวไทย ว่าขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลัง ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เด็กผู้หญิงคนนี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศนี้ และขอบคุณพ่อแม่ และทุกคนที่สละเวลามาต้อนรับในวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณมากๆที่ได้รับเกียรตินี้“ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนที่สละเวลามา แล้วเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้มาทางบ้านได้มีโอกาสต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นไปพร้อมกับทุกๆคน และที่สำคัญขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณคนไทย พี่ๆทุกที่สละเวลามา พวกเรารู้ว่าหลายคนเดินทางมาเหนื่อยมาก บางคนเดินทางมาเป็นวัน บางคนนั่งตัดกระดาษ บัตรขูดจนตาปวดมือเจ็บ บางคนก็ตัดชุดในระยะเวลาอันสั้น เพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจที่ได้มารับทุกคนในวันนี้ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ” โอปอลกล่าวในตอนหนึ่งพร้อมระบุว่า ตนจะไม่สามารถนำความฝันนี้กลับมาได้เลย ถ้าไม่ได้เริ่มต้นจากความเชื่อมั่น ความเชื่อใจและความหวังที่ทุกคนมีในตัวของเราโอปอลกล่าวอีกว่า พูดเสมอว่าความหวังสำหรับเราไม่ใช่การผลักดัน ไม่ใช่ pressure แต่มันคือพลังที่ทำให้เรามาถึงวันนี้ได้ เพราะหมายความว่าทุกคนเชื่อมั่นในตัวเรา เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนดีใจ แล้วภาคภูมิใจไปกับความสำเร็จครั้งนี้ด้วยกัน มงกุฎนี้ไม่ใช่ของตนคนเดียว แต่คือของพวกเราทุกคน เชื่อว่าด้วยพลังของพอร์ต ด้วยพลังของ Miss World Organization ด้วยพลังของคนไทยทุกคน เราสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลกใบนี้ ให้กับคนอื่นต่อไปได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อโอปอลกล่าวจบ บรรดาแฟนคลับต่างส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วอาคารสนามบิน นับเป็นบรรยากาศที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ จากนั้นโอปอลพร้อมด้วย มิสจูเลีย มอร์ลีย์ ได้นั่งเก้าอี้บนเวทีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวนับร้อยคน โอปอลกล่าวเริ่มต้นว่า ขอบคุณทุกคนมากๆที่คอยติดตามเชียร์โอปอลตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่การประกวด เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ใครหลายๆคนอยากให้เริ่มต้น แล้วมันเป็น Happy Ending มากๆ ต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆที่เชื่อมั่น แล้วขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนั้นโอปอลได้เล่าถึงตอนการประกวดในการตอบคำถามที่ชนะใจกรรมการจนคว้ามงกุฎมาได้ว่า ที่ทุกคนชอบบอกว่าตนดูไม่ตื่นเต้นเลย แต่ว่าความจริงแล้วตื่นเต้นมาก แค่เก็บอาการเก่ง เฉยๆ ฮึบแล้วพอพูดได้มันจะค่อยๆไปของมันเอง เพราะว่าสุดท้ายแล้วคือเราไม่ได้ตอบด้วยความทรงจำ เราพยายามตอบให้ออกมาจากใจ เพราะฉะนั้นต่อให้เราลืมหรืออะไร สุดท้ายก็จะมีอะไรให้เราพูด เพราะว่ามันออกมาจากใจเรา สำหรับภารกิจที่เมืองไทยคงจะอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศต่างๆทั่วโลก ต้องดูคิวงานที่เป็นอินเตอร์เนชั่นแนลด้วยว่าประเทศต่อไปที่จะไปคือที่ไหน ต้องไปเมื่อไหร่ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ เชื่อว่าในเส้นทางการเป็นนางงามครั้งนี้ สามารถที่จะมอบความสุขให้กับหลายๆคนได้ เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นเกียรติและรู้สึกภูมิใจมากๆ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันจนถึงวินาทีนี้ที่เป็นวินาทีที่เราได้ฉลองความสำเร็จจากนั้นโอปอลได้ออกมาพบปะทักทายแฟนๆ ชาวไทยหลายพันคนที่แห่มาร่วมแสดงความยินดีกับตำแหน่งมิสเวิลด์คนแรกของไทยแบบเนืองแน่น ณ บริเวณทางออกประตู 10 ด้วยความใกล้ชิด ท่ามกลางรอยยิ้มแห่งความสุขของทุกคนที่มารอรับโอปอลกลับบ้าน ก่อนที่โอปอลจะขึ้นรถโรลส์-รอยซ์ เปิดประทุนสุดหรู รุ่น Rolls Royce Dawn เลขทะเบียน 8131 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปร่วมขบวนพาเหรดต่อไป โดยตั้งต้นที่ท้องฟ้าจำลอง ถนนสุขุมวิทต่อมาในเวลา 16.43 น. ขบวนรถโอปอล มาถึงท้องฟ้าจำลองและมีการเปลี่ยนชุดอีกรอบเพื่อร่วมขบวนแห่ นำขบวนโดยวงดุริยางค์ ต่อด้วยรถบุปผชาติ โดยมี โอปอล-สุชาตา เผยโฉมความสง่างามพร้อมมงกุฎและสายสะพายประจำตำแหน่ง นั่งบนรถบุปผชาติโทนสีฟ้าที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ภายใต้หลังคาที่จำลองเป็นมงกุฎเพชรสีฟ้า สัญลักษณ์ของเวทีมิสเวิลด์ ตามด้วยรถคันที่ 2 มีมิสจูเลีย มอร์ลีย์ นายไบรอัน แอล มาร์คาร์ จากเทโร นางศุภลักษณ์ อัมพุช และนางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ต่อด้วยรถคณะนางงามจาก TPN GLOBAL อาทิ นางสาวไทย คณะมิสเตอร์โกลบอล และคณะนางงามรุ่นพี่ อาทิ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ พร้อมด้วยคณะ ผู้สนับสนุนการจัดงาน ที่มาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์การแห่ฉลองต้อนรับมิสเวิลด์คนแรกของประเทศไทยในรอบ 72 ปี ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มาร่วมต้อนรับ พร้อมยลโฉมความงามของมิสเวิลด์ 2025 และ “มงกุฎเพชรสีฟ้า” อันทรงคุณค่า ตลอดเส้นทางเมื่อขบวนเคลื่อนถึงศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โอปอลได้เดินพรมแดงบนสกายวอล์กจากเอ็มโพเรียมเข้าสู่งาน Homecoming Opal Miss World 2025 ณ UOB LIVE BANGKOK ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายในงานมีแฟนคลับมาร่วมงานกว่า 3,000 คน โอปอลได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องประสานเสียงรุ่นเยาว์กว่า 50 คน ในการแสดง Light The Passion Share The Dream เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจจากความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์สู่คนรุ่นใหม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่