ทำเอาแฟนๆตื่นเต้นสุดๆกับการกลับมารวมตัวของศิลปินกลุ่มแนวดิสโก้ฟังก์ตัวพ่อของเมืองไทยวง “GROOVE RIDERS” (กรู๊ฟไรเดอร์) กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 17 ปี ที่รวมทุกคำว่า “ที่สุด” ใน “Ultra V presents GROOVE RIDERS RETURN OF THE GROOVE CONCERT” วันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68 ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี จำหน่ายบัตร 7 เม.ย.68 เวลา 10.00 น. ทาง Zipevent application เลยชวนทั้ง 4 สมาชิก บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, ก้อ–ณฐพล ศรีจอมขวัญ, กั้ง–อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท, มาตร–มาตรชัย มะกรูดทอง มาพูดคุย ถึงการกลับมารวมตัวอีกครั้ง? เริ่มจาก บุรินทร์ “ตื่นเต้นเซอร์ไพรส์มากเพราะว่าปรากฏการณ์แบบนี้เราไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเราจะได้กลับมารวมกันอีกครั้งหนึ่ง นอกจากพวกเราแล้วแฟนเพลงเราก็ตื่นเต้นด้วย ตั้งแต่เริ่มประกาศคนมาคอมเมนต์เยอะมาก แชร์กันไปถล่มทลายไม่นึกว่าจะได้เห็นอะไรอย่างนี้ จริงๆมันเริ่มมาจากการที่ผมนัดพี่ก้อกินข้าวคุยเรื่องอื่น อยู่ดีๆไอเดียนี้มันก็แว้บเข้ามา ก็เลยถามพี่ก้อว่า เฮ้ย ทำคอนเสิร์ตกันใหม่อีกรอบนึงมั้ย คุยกันพี่ก้อก็อยากทำเหมือนกัน เลยไปเล่ากับอีก 2 ท่าน คือพี่กั้งกับพี่มาตร สุดท้ายทุกคนตกลงปลงใจมา ดีใจ แล้วก็ตื่นเต้นมากๆที่จะได้ทำงานนี้ มันเหมือนยานอวกาศที่วันนั้นออกไปนอกโลกแล้วก็ไปเดินทางมา 17 ปี ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์มา ไปดาวหลายๆดวงมา ผมก็ไปดาวของผม พี่ก้อก็เดินทางไปอีกสายหนึ่ง พี่กั้ง พี่มาตร ก็ไปอีกสายหนึ่งสุดท้ายเราได้กลับมาเจอกัน ยานลำนี้กลับมาบนโลกอีกครั้ง มันเป็นอะไรที่พิเศษสำหรับเราและแฟนเพลงมากๆ เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้ผมมั่นใจเลยว่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดของพวกเรา Groove Riders แฟนเพลงทุกๆคนจะต้องเซอร์ไพรส์แล้วก็มีความสุขที่สุดทุกวินาทีจริงๆ”ตอนที่บุรินทร์พูดชวนปุ๊บสะกิดติดเลยมั้ยหรือมีความลังเล?ก้อ “ก็ยอมรับว่ามี เพราะว่าเราก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเวิร์กมั้ย แล้วก็มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าเพราะว่าเราห่างหายไป 17 ปี หลายๆอย่าง ประสบการณ์อะไรต่างๆเราต่างคนต่างไปคนละทางแล้ว บุรินทร์ก็มีอัลบั้มของเค้า ผมก็ทำโปรเจกต์ของผมอะไรเยอะแยะ แต่สุดท้ายเรากลับมาคุยกันแล้วเราก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นไปได้ แล้วที่สำคัญก็คือ เราทั้ง 4 คนก็คิดถึงเวลาที่เราเล่นดนตรีด้วยกัน อยู่บนเวทีเดียวกัน เป็นความรู้สึกที่มันใช้คำว่าเป็น Magic Moment ทุกครั้ง คือมันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก จริงๆเราก็เล่นดนตรีอยู่ตลอดเวลานะ บุรินทร์ก็เล่นของเค้า ผมก็เล่นของผม แต่ทุกครั้งที่เรากลับมาเล่นดนตรีด้วยกัน 4 คน มันมีอะไรบางอย่างที่มันบอกไม่ได้ด้วยคำพูด มันเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ” บุรินทร์ “มันหาที่ไหนไม่ได้ ความสุข ร่วมกัน 4 คนแบบนี้ มันคือสิ่งที่เราสร้างมาด้วยกัน” กั้ง “สำหรับผมเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้น คิดว่าเราต้องแยกย้ายกันแล้ว ไปทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ดีใจครับ ได้ยินปุ๊บ OK ลุย” มาตร “มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดี พอได้รับรู้ว่าจะมีคอนเสิร์ตนี้ก็ดีใจตื่นเต้นมาก”ทำไมถึงใช้เวลานานถึง 17 ปีถึงจะมีคอนเสิร์ตครั้งนี้?บุรินทร์ “ผมก็ยังงงอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าวันที่เราแยกกัน 4 คนน่ะเรายังงงเลยว่าเราแยกกันเพราะอะไร อันนี้เรื่องจริงนะ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย ซึ่งวันนั้นคือวันที่ผมไปทานข้าวกับพี่ก้อ เราพูดเรื่องนี้กันว่าเฮ้ยทำไมวงเรามันเป็นอย่างนี้ได้ไง” ก้อ “ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันมีจังหวะเวลาของมัน เหมือนอย่างที่กั้งว่านะครับ ผมว่าจริงๆแล้วทุกคนก็แทบจะคิดว่ามันจบแล้วมั้ง แต่ว่าพอถึงเวลาได้ไปเจอบุรินทร์ ได้กินข้าวกันมันเหมือนเป็นจังหวะที่มันถูกต้อง”คอนเซปต์ไอเดียของคอนเสิร์ตครั้งนี้?บุรินทร์ “คอนเสิร์ตครั้งนี้ผมมีโอกาสเป็นมิวสิกไดเรกเตอร์ด้วย จริงๆมันเป็นไอเดียสำหรับ Groove Riders ที่มันมีนานมากแล้วมาปรับให้ตรงกับยุคสมัยแล้วก็คือไอเดีย วิชวลต่างๆทั้งหมดมันเหมาะกับ Groove Riders จากประสบการณ์ที่เราสะสมกันมา ความแน่นของฝีไม้ลายมือเนี่ยผมว่าทุกๆคนเจริญเติบโตมาถึงจุดที่ผมมั่นใจว่าในช่วงเวลานี้คือช่วงที่ดีที่สุดของเรา เป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา แล้วก็มีอะไรที่นึกไม่ถึงว่าคน 4 คนนี้จะทำ ทุกคนถามมาว่าแขกรับเชิญคือใคร คือส่วนตัวผมการที่ 4 คนมารวมกันได้ก็พิเศษมากแล้ว แขกรับเชิญเรามีแน่นอนและรับรองว่าเป็นตัวพ่อตัวแม่ของวงการมาทั้งนั้น”ถามถึงความพร้อมตอนนี้?ก้อ “คอนเสิร์ตเรามีวันที่ 12 ก.ค. เราเริ่มซ้อมกันตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว รวม 8-9 เดือน” ใช้เวลานานมาก? ก้อ “โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเตรียมพร้อมแล้วเรา 4 คน ไม่ได้เล่นมา 17 ปี เราก็ต้องกลับมา make sure ว่าทีมเวิร์กของเรายังแข็งแกร่งเหมือนเดิมเพราะสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของ Groove Riders คือทีมเวิร์ก พวกเราทั้ง 4 คนจะเหมือนกับหลอมรวมเป็นแผ่นเดียวกัน มันเป็นโชว์ที่เฉพาะตัว”17 ปีนั้นมันเกิดแฟนๆกลุ่มใหม่ขึ้นบ้างมั้ย?บุรินทร์ “เป็นเรื่องเล่าที่น่ารักและก็บอกว่าทั้งดีใจทั้งตกใจคือหลังๆเนี่ยผมไปเล่นคอนเสิร์ต เฟสติวัลงานต่างๆจะเริ่มมีแฟนเพลงที่อายุ 14-15 ปียืนร้องอยู่หน้าเวทีแล้วก็ร้องได้ทุกเพลง เค้าบอกว่าแม่ให้ฟังค่ะ คือผมไม่ได้เสียใจเลยนะแล้วดีใจด้วยซ้ำ คำว่าแฟชั่นมันมาแล้วมันก็ไป แต่สไตล์มันจะอยู่ตลอดไป มันเหมือนศิลปะที่ดี มันไม่มีรุ่น ไม่มีเจ็น กี่ร้อยปีมันก็ยังอยู่ได้ เสพกันได้ทุกเพศทุกวัย ก็ดีใจที่เพลงของเราสามารถมาถึงจุดนี้ได้ ก็แฮปปี้ครับ” ก้อ “เมื่อตอนที่ปลายปีที่ผมต้องเอาเพลงตัวเองกลับมาฟังอีกครั้งเพื่อที่จะแกะเพลงตัวเองเล่น ผมฟังอัลบั้ม The Lift ของเรา ฟังแล้วยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลยว่านี่มันผลงานเมื่อปี 2007 จริงๆเหรอ ยังเป็นอัลบั้มมาสเตอร์พีซสำหรับพวกเรา”หายไป 17 ปีเคยคิดว่าวงคงเลิก ปิดตำนานมั้ย?ก้อ “ผมคิดว่าลึกๆในใจเราก็รู้สึกว่าเราก็อยากจะกลับมาเล่นดนตรีด้วยกันในขณะเดียวกันเราก็เหมือนกับทำใจยอมรับประมาณนึงแล้วล่ะว่าเออชาตินี้เราคงจะไม่ได้กลับมาทำงานด้วยกัน เป็นเรื่องที่ใช้คำว่ายากมาก ถ้ามันไม่ยากมากมันไม่ต้องรอถึง 17 ปี” บุรินทร์ “ผมถึงได้มีความสุขแบบตอนนี้ พูดจริงๆมันคือปรากฏการณ์บางทีที่ไม่เคยคาดฝัน” กั้ง “ใช้คำว่าอะไรดี คือคำว่าที่สุดไปหมด เราเริ่มด้วยกัน ทัวร์ด้วยกัน แยกย้ายกัน ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเล่นด้วยกันมั้ย การกลับมาก็คือที่สุด”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่