สานฝันให้เป็นจริง แจม-รชตะ หัมพานนท์ นักแสดง-ศิลปินหนุ่มมากความสามารถ ปล่อยซิงเกิลเดี่ยวเพลงแรกในชีวิต “อ่านแต่ไม่ตอบ (READ)” ค่าย One Music ถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงนุ่มๆละมุน กับความรู้สึกของคนเจ็บแต่ขอจบโดนใจคนอยาก “มูฟออน” กระแสปังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ทะลุเกิน 2 ล้านวิวอย่างรวดเร็ว แถมทำคลิปฉลองยอดวิวด้วยการเล่นใหญ่ บอย-ถกลเกียรติ บอสใหญ่ช่องวัน มาร่วมซีนทำเซอร์ไพรส์ด้วย กว่าจะถึงวันนี้ แจมเปิดใจกับเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เดินฝันต่อไปอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตนเอง ส่วนความรักแจง...ถ้ามีก็เห็นกันเอง อนาคตแต่งงานยังอีกไกล ใน “คนดังนั่งคุย”เป็นศิลปินแล้วความฝันของแจมถูกเติมเต็มแล้ว“ผมเป็นนักดนตรีมาก่อน มันเป็นความฝันของนักดนตรี เป้าหมายหลักๆ เป็นครูสอนดนตรีด้วยซ้ำ แล้วมันพลิกไปพลิกมาหลายๆอย่าง ถามว่าฝันสุดๆของนักดนตรีคืออยากมีเพลงเป็นของตัวเอง กับเพลงอ่านแต่ไม่ตอบ มาจากการที่ผมไปคอนเสิร์ต แฟนมีตเยอะ ทั้งในและต่างประเทศ ร้องแต่เพลงคนอื่น ทำให้เราอยากมีเพลงเป็นของตัวเองบ้างสักที เลยคุยกับทีมอยากทำงานเพลงของตัวเองเลยคุยโปรเจกต์ ช่วงที่คุยมีส่งไปเรียนร้องเพลงเพิ่ม แต่ก่อนเคยเรียน ขึ้นคอนเสิร์ตก็เรียนครั้งนึง พอเราได้ไปเรียนก็เรียนอีกเลเวลขึ้นไป ยากๆๆ เป็นนักร้องยากจังเลย จากนั้นพาโปรดิวซ์คุยกันจนเขารู้ตัวตนผมเป็นคนยังไง เขาบอกว่าเป็นผู้ชายตรงๆดี เจ้าคิดเจ้าแค้นดี (หัวเราะ) เขาอยากให้เป็นแนวประมาณให้กำลังใจคนที่จะมูฟออนแล้ว คนจะเชียร์มากกว่า เป็นแนวประชดประชัน ซึ่งไม่ใช่ตัวตนของผม จนพี่แต่งเพลงนี้มา ส่งเดโม่มาผมก็ฟัง เอออยากได้แบบนี้แหละ มันเพราะดี มีบางจุดขอแก้คำ พี่บอย-ถกลเกียรติ ช่วยดูกว่าจะถึงตัวมาสเตอร์ตัวสุดท้ายก็นานพอสมควรเลย หลายแนวจนสุดท้ายจบป๊อปร็อก”ทีแรกคิดว่าแจมจะออกแนวเพลงร็อกๆด้วยซ้ำ“ตอนแรกเป็นแนวป๊อปเศร้ากว่านี้อีก ยังดีมีดนตรีเข้ามาเป็นร็อกหน่อยๆ พอบอกพี่เค้าไปว่าก็ดีนะ ชาวร็อกจะบอกกันตรงๆ อ่านก็ไม่ตอบนะเพราะเธอมีเค้า ไม่มีสำนวนซับซ้อนอะไร เป็นซิงเกิลแรกผมก็อยากให้เป็นตัวตนผมมากที่สุด ใช่ก็บอกใช่ คนฟังจะได้กลิ่นอายปี 2000 ต้นๆ ยุคโปเตโต้ บอดี้สแลม ช่วงพีกๆ เพราะเรฟเฟอเรนซ์ที่ผมส่งไป 50% คือโปเตโต้ ผมชอบวงโปเตโต้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นไอดอล เราชอบเพลงแนวนี้ เลยออกมาเป็นป๊อปร็อก”ฟีดแบ็กหลังปล่อยเพลงล่ะ “โอ้ กระแสดีมากเลย ปล่อยเพลงวันแรกเรามีจัดงานด้วยที่สามย่านมิตรทาวน์ แฟนๆไปช่วยกันดู ปั่นวิวด้วยยอดเป็นแสน คือดีใจมาก มันกดดัน ไม่คิดคนจะมาดูขนาดนั้นครับ”เพลงนี้เดินทางค่อนข้างเร็ว ยอดวิวเกิน 2 ล้านแล้ว ยิ่งทำให้ใจฟูขนาดไหน “เวลาเหนื่อยๆ เราย้อนกลับไปดูผลงานของเรามันจะหายเหนื่อย พอเล่นยอดวิวเราก็ดีใจแล้ว ดูคอมเมนต์มีคนชอบเพลงเราชอบๆ ดีใจแค่นี้หายเหนื่อย”เอ็มวีต้องเล่นด้วย “ตอนแรกไม่คิดเล่นเอง แต่ไหนๆ เพลงเราเล่นเองดีกว่า พระเอกเอ็มวี โอเคผมเล่นเอง คุยเนื้อเรื่อง เล่นเอ็มวีไม่ยากมากเราเป็นนักแสดงอยู่แล้วแต่เล่าเร็ว แต่ยากตรงใช้สายตาเยอะเพราะมันไม่มีพูดอะไรเลย”พอเรายืนตรงนี้ทำให้เราต้องเปลี่ยน แปลงตัวเองขนาดไหน“วันแรกๆเรายังเป็นเด็กบ้านนอกโง่ๆ ไม่กล้าคุยกับใครเลย ไม่กล้าคิดไม่กล้าบอก พอเราอยู่ไปเรื่อยๆ มีอะไรเราต้องบอก บางอย่างเรารู้สึกไม่ใช่ก็บอกไปเลย”กับคู่จิ้น ฟิล์ม-ธนภัทร ช่วงนี้ได้เจอกันบ่อยมั้ย “ไม่ได้เจอกันเลยครับ ที่เจอกันล่าสุดก็ในไลฟ์ติ๊กต่อกวันก่อน พี่ตั้ม-วราวุธ พี่ฟิล์ม- ธนภัทร เพราะพี่ฟิล์มมีถ่ายละครแม่หยัว ส่วนผมคิวโปรโมตเพลงและคิวถ่ายละครเรื่องใหม่”จะเห็นฟิล์มเข้าไปคอมเมนต์ในไอจีเราอยู่นะ เสมือนเป็น FC ท่านนึง “ใช่ครับ บางสตอรีก็จะมีอินบ็อกซ์มาคุยกัน”จากคอมเมนต์ฟิล์ม...จะอ่านแล้วตอบ แสดงว่ามีเหตุการณ์ดองแชตเกิดขึ้น “ใช่ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นผมดองแชตมากกว่า มีวันนึงพี่ฟิล์มทักมา ผมลืมตอบ เรื่องของเรื่องเพราะผมเอามอเตอร์ไซค์ไปจอดที่บ้านพี่ฟิล์มไว้แล้วตอนค่ำเค้าปิดบ้านไม่ได้ก็ต้องนั่งรถไปเอามอเตอร์ไซค์กลับบ้าน (หัวเราะ)”ทำไมกลายเป็นแจมอ่านไม่ตอบของแทร่ “ลืมครับ (ยิ้ม) ผมอ่านแล้วกำลังพิมพ์ตอบมีอย่างอื่นเข้ามาผมไปต่อกลายเป็นลืมตอบไปเลย มี ผจก.ทักมากำลังจะตอบ ปรากฏว่าย่าพิมพ์มาเราก็ตอบย่าก่อนเดี๋ยวนั้นเลย กลายเป็นลืมตอบ จริงๆ ขึ้นชื่อดองแชต อ่านไม่ตอบดูน่าเกลียดงั้นไม่อ่านเลยแล้วกัน (หัวเราะ) เพลงแรกอ่านไม่ตอบ เพลงต่อไปเป็นเพลงไรดี...โทร.มาไม่รับดีมั้ย? อันนี้เป็นปัญหาของผมเหมือนกันนะผมปิดเสียงเลยไม่ได้ยินคนโทร.เข้ามา”กลัวสายมิจฉาชีพเหรอ “ไม่ได้กลัว ผมรับสายมิจมากกว่าที่โทร.หาผมเรื่องธุระต่างๆอีก โทร.มา 2-3 รอบสนใจมั้ยคะนั่นนี่ ผมบอกอย่าโทร.มาครับ หลายรอบมาก มิจโทร. มาจังหวะที่ผมจับ โทรศัพท์อยู่พอดี บางครั้งธุระไม่ได้รับ ต้องโทร.กลับ แต่เวลาทำงานผมไม่ได้จับเลย” พอวันนี้เราเป็นทั้งศิลปิน–ดารา คำไหนที่ทำให้เราอิ่มใจมากกว่ากัน“ผมว่า...คำว่าศิลปิน มันรวมทั้งนักร้อง นักแสดง นักดนตรี ทุกอย่าง เวลาผมเขียนช่องกรอกเอกสารอาชีพอะไร ผมภูมิใจคำนี้มากอาชีพศิลปิน แต่ก่อนผมไม่รู้เขียนอะไร ฟรีแลนซ์อะไร? ไม่มีที่ไปที่มา นักแสดงก็ยังไม่เต็มตัว เขียนไปคนไม่รู้จักเราก็ไม่กล้าเขียน” เป้าหมายของการทำงานที่แจมวางไว้ล่ะ “เป้าหมายของผมอยากให้คนมองไม่ใช่นักแสดงที่ร้องเพลงได้ จริงๆ อาชีพแรกของผมเป็นนักดนตรีมาก่อน นักแสดงมาทีหลังค่อยมาเป็นนักร้อง ไม่ได้ยินใครพูดหรอก แค่เราไม่อยากให้ใครมองภาพเราเป็นแบบนั้น”ปล่อยเพลงแรกก็ปังมีไปมูที่ไหนมั้ย “ช่วงนี้ก็มีไหว้ มีขอพร ไปหล่อพระ ผมทำโปรเจกต์วันเกิด มีไปหล่อพระโบราณถวายวัดเลย ผมก็ขอทุกครั้ง วัดป่าเจริญธรรม ที่บ้านนาคำน้อย จ.อุดรธานี ไปสร้างพระปางป่าเลไลย์”อะไรดลใจอยากสร้างพระ “ผมอยากทำบุญใหญ่ คิดไว้ตั้งแต่เด็กอยากทำบุญ สร้างพระ สร้างวัดแต่ใช้เงินเยอะ เราเห็นวัดนี้มาตั้งแต่เด็ก บางทีไม่มีพระประจำพรรษาเลย เราไม่อยากให้เป็นวัดร้าง อยากให้อยู่แบบนี้คู่กับหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ก็เลยสร้างพระประดิษฐานที่โน่นเผื่อเป็นแลนด์มาร์ก คนไปท่องเที่ยวแถวนั้นแวะลงมาสักการะพระองค์นี้ก็ได้ ที่เราได้สร้างพระองค์นี้เราได้รับเกียรติจากอาจารย์เล็กเป็นช่างปั้นฝีมือดีระดับประเทศ เขามาปั้นให้ครับ”ปล่อยเพลงครั้งนี้เราได้ขอพรอะไรเป็นพิเศษมั้ย “ขอให้คนฟังเยอะๆ ตอนนั้นไม่ได้ขอเยอะ ขอแค่คนฟังล้านวิวก่อนถ้าดังมากๆขอ 10 ล้านนะครับ” ตอนนี้แจมกำลังทำบ้านใหม่“ใช่ครับ เพิ่งติดวอลเปเปอร์ ไม่จบสักที ไม่จบเองเพราะทีแรกทำบ้านสีมืด และงบบานไปเรื่อยๆ จากงบตั้งโง่ๆไว้แค่ 3 แสนแต่งบ้าน ตัวบ้าน 6.9 ล้าน ทยอยโปะไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องเอาเงินทุกบาทไปทุ่มขนาดนั้น ผมไม่ได้มีเงินเก็บอะไรขนาดนั้น ผมเพิ่งสร้างตัว ก่อนหน้าผมเอาเงินให้ย่าสร้างบ้านและใช้หนี้ให้ย่าด้วยก็หลายๆอย่าง”บ้านที่สร้างใหญ่โตอยู่คนเดียวหรือให้ครอบครัวย้ายมาอยู่ด้วยกัน “อยู่คนเดียวครับ ชอบอยู่คนเดียวตั้งแต่เด็ก”เป็นคนอินโทรเวิร์ตเหรอ “นิดๆครับ เลิกงานกลับบ้านก็จะกลายเป็นคนอินโทรเวิร์ต แต่ถ้าทำงาน ไปกองถ่ายก็ไม่ค่อยเล่นกับใครนะ เดินทักทาย สุดท้ายผมก็มานั่งเล่นอยู่คนเดียว” เห็นบ้านใกล้ 100 เปอร์เซ็นต์ เวลามองบ้านหลังนี้รู้สึกยังไงบ้าง “รู้สึกตลก หมดไปกี่บาทแล้วเนี่ย (หัวเราะ) มาไกลจัง ทำไมไม่เอาสีนี้ตั้งแต่แรก บ้านสีขาวดีๆ ผมก็ไปทำสีเทาเข้ม ทำให้บ้านดูมืดมาก ผมเปลี่ยนไฟทั้งหลังเลย สว่างขึ้นมาหน่อย ทำสีใหม่เรื่องใหญ่อีก สุดท้ายติดวอลเปเปอร์ ได้สีสว่าง โอ้ ดี ตอนแรกมันไม่เท่ ในห้องสีมืดๆเหมือนเดิม”บ้านหลังนี้อนาคตวางยาวๆเป็นเรือนหอด้วยมั้ย “ผมว่ายาวๆ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบย้ายที่ เป็นคนแบบนี้ สมัยเรียนอยู่หอ 5 ปี อยู่จนจบไม่ย้าย ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบย้ายไปนั่นไปนี่ ถ้ามีครอบครัวก็อยู่นี่ ถ้าอนาคตอีกนานๆ ถ้าจะซื้อใหม่ต้องรวมแล้วดีกว่า แต่ไม่ทิ้งหลังนี้มันเป็นความทรงจำ รถคันแรกผมยังไม่ขายเลยครับ รถคันแรกตั้งแต่ถ่ายเรื่องคุณชาย เป็นรถขนเงินขนทอง ผมเป็นคนไม่ชอบขาย ถ้าขายจริงๆต้องทำใจนิดนึง หวงสมบัติก็หวงกว่าจะได้มา แต่จริงๆผมหวงสตอรีมากกว่า เป็นความทรงจำ อย่างกีตาร์เป็น สมบัติอะไรที่หวงสุดๆ ผมทำตู้เก็บจริงจัง ห้องที่สวยสุดคือห้องกีตาร์ สวยกว่าห้องนอน ของผมกีตาร์บนเตียงมีตัวนึง ห้องนั่งเล่นก็มีตัวนึง”อัปเดตความรักกันหน่อยตอนนี้มีคนคุยๆมั้ย“เอาเป็นว่าถ้ามีก็เห็นกันเองแล้วกัน (ยิ้ม) ไม่อยากตอบเรื่องนี้เลย”ทำไมล่ะ อายุก็ขนาดนี้แล้ว “ตอบไปคนก็ไปขุดไปคุ้ย เราตอบไปว่าไม่มีก็ไปขุดว่ามี ใครอีก เอาเป็นว่าถ้ามีก็เห็นกันเองเพราะผมไม่ได้ปิดอะไรหรอก ผมว่าทุกคนมันมีโมเมนต์มีความรักนะแต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปประกาศให้ทุกคนรู้ มีหรือไม่มีเราก็ไม่จำเป็นต้องประกาศให้คนรู้ก็ได้ ทุกคนอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก ไม่มีว่าความรักแบบไหน คือผมก็มีแฟนคลับเนอะที่เขาให้ความรักมา ก็เป็นพาร์ตทำงาน ที่บ้านเรายังมีย่า พ่อ ส่วนพาร์ตคู่รักถ้ามีก็เห็นเอง ที่มันควรจะเป็นไปของมัน”ส่วนหนึ่งไม่อยากพูดเรื่องแฟนเพราะเกรงใจแฟนคลับจะหวงหรือเปล่า “ผมว่าแฟนคลับผมเข้าใจ เขาไม่น่าหวงอะไรที่มันไม่มีเหตุผลแบบนี้หรอก แฟนคลับผมเค้าโตๆกันหมดแล้ว เป็นรุ่นแม่ๆ รุ่นยายๆ ผมว่าเรื่องความรัก อย่างคนในวงการ ถ้ารู้เรื่องความรักคนก็จะโฟกัสเรื่องความรัก ไม่ได้สนใจเรื่องงาน ไปแซะนั่นนี่กัน ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบดราม่า ผมเป็นคนนอกวงการมาก่อนผมเห็นมา ผมไม่อยากมีปัญหาเรื่องพวกนี้ครับ”ความรักตอนนี้ไม่ได้ปิดตัวเองใช่มั้ย“ไม่ขอบอกว่าเป็นสถานะอะไรเลยแล้วกัน ผมอยู่โล่งๆคนเดียวของผม ถ้าวันนึงมันมีก็จะเห็นกันเอง”คุยกับใครก็ไม่ปิดใช่มั้ย “ไม่ได้ประกาศแต่ก็ไม่ได้ปิด เหมือนคนทั่วไป ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ถ้าเห็นก็เห็น ต้องมีคนเห็นอยู่แล้ว”มองในเรื่องอนาคตการสร้างครอบครัวอีกยาวไกลขนาดไหน “ผมยังไม่มองขนาดนั้น ผมยังไม่พร้อมกับการมีครอบครัวตอนนี้ ผมอยากเก็บสตางค์ไว้ก่อน ผมเกิดจากครอบครัวที่ไม่ได้พร้อมอะไรขนาดนั้น ผมอยากมีเงิน 30-40 ล้านก่อน โอเคตอนนั้นจะมีก็ได้ล่ะ แต่ตอนนี้ผมยังรู้สึกยังต้องระวังการใช้เงิน สำรองเงินในอนาคต อยากไปทำงานให้มันสุด ถึงเวลาจะมีใครค่อยว่ากัน ผมขอเคลียร์เรื่องนี้ออกจากหัวก่อน อยากทำงานไปก่อนครับ”.เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยานคลิกอ่าน “คนดังนั่งคุย” เพิ่มเติมอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่