ไม่ว่าจะเจออะไรตัวแม่เอาอยู่ ล่าสุด ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ไปเดินเฉิดฉายพรมแดงเมืองคานส์ในรอบ 4 ปี กับเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 76 หรือ Festival de Cannes 2023 มีหลากหลายกระแสที่พูดถึงเจอ ชมพู่ มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “ลอง ลีฟ เลิฟว์!” ณ ลาน Infinicity Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เลยถามถึงเรื่องที่ไปคานส์มา? “ก็ดีค่ะ ไม่ได้ไปหลายปีแล้ว ก็ขอบคุณที่ยังติดตาม รอบนี้เหนื่อยเพราะแก่แล้ว (หัวเราะ)”รอบที่แล้วอุ้มท้องน้องไป แต่รอบนี้เหนื่อย เพราะอะไร? “มันก็เหนื่อยทุกครั้งแหละค่ะ คราวนี้เราก็คิดว่า เอ๊ะ เราคงสบายตัวนะ น่าจะคล่องตัว ไม่ได้เอาลูกไป แต่ก็กลายเป็นว่าเหนื่อยอยู่ดี เพราะในเวลาจำกัดที่เราไป เราต้องทำอะไรหลายอย่างมากๆ”ครั้งนี้ตื่นเต้นกว่าใช่มั้ย? “ก็ประมาณนึงค่ะ แต่อาจไม่เหมือนทุกปีที่รู้ว่าจบปีนี้แล้วปีหน้าเราไปต่อ เหมือนเป็นปีแรกที่เรากลับไปหลังจากโควิด ช่วงแรกมันก็จะแบบว่าเราจะไปมั้ยว้า การเตรียมตัวก็อาจจะไม่ได้ถึงกระชั้นชิดมาก แต่ถ้าเทียบกับทุกปีก็อาจจะมีเวลาน้อยกว่าทุกปี”แฟนๆก็ฮือฮามีกระแสชื่นชม? “ก็โอเคค่ะ ขอบคุณทุกคนค่ะ (ยิ้ม)”ชุดสีแดงชุดสุดท้ายที่เป็นดราม่า ชมได้อ่านคอมเมนต์มั้ย? “ก็เห็นค่ะ ความรู้สึกเหรอคะ ก็...(นิ่งคิด) ใช้คำว่ารู้สึกว่าอะไรดีล่ะ ก็เมื่อเห็นภาพจากใน Getty Image ปกติเดินเสร็จปุ๊บแป๊บนึงภาพจาก Getty ก็จะออกแล้ว เราอยู่บนรถยังไม่ทันถึงโรงแรมเลยก็เห็นแล้ว เห็นภาพจาก Getty แล้วก็รู้แล้วว่ามันไม่ดี แต่มันก็มีปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งทำให้เราเข้าใจได้ว่าอาจเกิดขึ้นได้ ก็อาจเป็นปัจจัยที่เราคิดไม่ถึงว่าสามารถเกิดแบบนี้ได้ค่ะ” สิ่งที่เราชอบในชุดนั้นคืออะไรถึงเลือกมาใส่ในวันนั้น? “จริงๆก็ชอบทุกอย่างนะคะ ก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไม่เคยทำ เป็นอะไรที่ใหม่ ชอบก็คือชอบ”บั่นทอนเรามั้ย เพราะเรามั่นใจที่เลือกมาแล้ว? “บั่นทอนมั้ยเหรอคะ อืม (นิ่งคิด) เอาจริงไม่ได้รู้สึกแบบ...คือรูปไม่ดีก็คือรูปไม่ดี จบแค่นั้น เรายอมรับแล้วมูฟออน แต่บั่นทอนเสียใจร้องไห้มั้ย คงไม่ได้ขนาดนั้นหรอก เราปูนนี้แล้ว (หัวเราะ) มันผ่านมาเยอะมากแล้ว”ไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนหน้าเลยใช่มั้ย ว่าจะเจออะไรแบบนี้? “ถามว่าไม่ได้เตรียมใจมั้ยก็ไม่ได้คิด คือเราทำอะไร เราก็มองอะไรเป็น positive เราคงไม่ได้คิด เพราะเราต้องมองทุกอย่างเป็นแง่บวกอยู่แล้วถูกมั้ยคะ แต่ถามว่ามันเกิดขึ้นได้มั้ยก็เกิดขึ้นได้ ถามว่าอายุเท่านี้แล้ว อยู่มาขนาดนี้ นี่เป็น negative feedback ครั้งแรกที่ชมเคยเจอรึเปล่าก็คงไม่ใช่ ก็เกิดขึ้นได้แค่นั้นเอง”โจทย์ในการเลือกชุดมันยากมั้ย คนก็จับตามองว่าวันนี้จะปรากฏตัวในชุดไหน? “ยากมั้ยเหรอคะ มันก็แน่นอนแหละ ต้องทำความเข้าใจว่า เราไม่ได้อยู่ในจุดที่ว่าอยากได้อะไรแล้วเราก็จะจิ้ม เบื้องหลังมันมีอะไรที่คนไม่รู้มากกว่านั้น การที่ดีไซเนอร์จะตอบรับเรา เราไม่ใช่ริฮานนาที่จะมีคนเอาชุดมาเป็นร้อยเป็นพันมานำเสนอเรา เพราะฉะนั้นเราทำให้ดีที่สุดจากช้อยส์ จากทรัพยากรที่เราหาได้ เบื้องหลังของการหาและได้มาก็เป็นอะไรที่แบบคนดูไม่มีทางรู้ว่ากว่าจะได้มา ฉะนั้นในกระบวนการตัดสินใจ แน่นอนแหละการเห็นภาพจบและวิจารณ์มันง่ายกว่ามากกับกระบวนการคิดการตัดสินใจของเรา”คนคาดหวังว่า แม่ชมต้องเพอร์เฟกต์ ไม่มีที่ติ? “ก็เข้าใจค่ะ เราเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ณ วันที่อยู่ด้วยกันกับทีมที่ลองฟิตติ้ง ทุกอย่างมันก็ดูสมบูรณ์แบบในแบบของมัน”แม่ชมอาจจะแข็งแรงกับคำวิจารณ์แล้วทีมเราล่ะ? “จริงๆอยู่ด้วยกันก็เนเจอร์เดียวกัน เพราะทำงานด้วยกันมา ก็ไม่ได้อะไรค่ะ ก็มูฟออนแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ เพราะเรามีอะไรให้ทำอีกเยอะ” ถ้าย้อนกลับไปได้? “ก็คงเหมือนเดิม ก็คือตัดสินใจด้วยคอนดิชันบริบทตอนนั้น เพราะวันนั้นคือถามว่าถ้าย้อนกลับไปในบรรดาช้อยส์ที่มี ก็คิดว่าก็ยังเลือกชุดนี้อยู่ดีค่ะ เพราะฉะนั้นมีคำวิจารณ์ก็ไม่เป็นไร มูฟออน ปีหน้าก็เอาใหม่ค่ะ ไปต่อค่ะ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกใจทุกคน เอาที่เราสบายใจ”ถามถึงเรื่องที่ไปร่วมงานเดียวกับหยางหยาง พระเอกจีน? “ก็หล่อดีค่ะ (ยิ้ม) เขาขาว หล่อดีค่ะ”เห็นครั้งแรกคิดมั้ยว่าเด็กคนนี้หล่อจัง? “ใช่มะ เค้าเด็กมากเลยใช่มั้ย (ยิ้ม) ก็หล่ออะ ไม่มีอะไรจะพูด เราก็ชอบตี๋อยู่แล้วไง (ยิ้ม)”มีเซย์ไฮพูดคุยกันมั้ย? “ไม่ ก็ทักทายตามมารยาทนิดหน่อยค่ะ เวลาจะถ่ายรูปคู่กัน พีอาร์ก็จะแนะนำ พอรูปออกไปก็มีฟีดแบ็กมาทางเราว่า โอ๊ย ทำไมเจอล่ะ”มีคนอยากเป็นแม่ชมอยากสวมร่างในวันนั้น? “ได้นะ (ยิ้ม) รีวิวว่าหล่อจริงไม่จกตา”.