ไม่ได้เป็นแค่โลโก้แแห่งความสนุก ฮา พิธีกรสาวมากความ สามารถ “เจนนี่ ปาหนัน” หรือเจนนี่-วัชระ สุขชุม แจ้งเกิดโด่งดัง จากการเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวสไตล์ไม่เหมือนใคร “เทยเที่ยวไทย” ทุกวันอาทิตย์ 23.00 น. ทางช่อง GMM25 ยังพร้อมเดินหน้าต่อในวงการบันเทิงด้วยแพสชันที่มุ่งมั่น และมองการบาลานซ์ชีวิตที่มีจุด เปลี่ยนในวัย 36 ปี ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่ "เจนนี่” รู้สึกดีกับตัวเองมากที่สุด จนขอลุกขึ้นมาถ่ายแฟชั่นโชว์เรือนร่างสุดแซ่บ เลือกใช้เวลาในชีวิตปัจจุบันให้มีความสุขเพราะไม่มีใครรู้อนาคตวันข้างหน้าระหว่าง ร่วมเดินทางในทริปจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร่วมกับทรูมูฟ เอช จัดกิจกรรม "ทรูมูฟ เอช พาบิน ตะลุยกิน อิน ฮอกไกโด กับเจนนี่ ก๊อตจิ ซีซัน 2" พาผู้โชคดีบินลัดฟ้าสู่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กับ 2 พิธีกรสุดฮอตจากรายการเทยเที่ยวไทย เลยได้นั่งพูดคุยเปิดใจ ได้ยินว่าปีนี้ “เจนนี่” แพลนบาลานซ์ชีวิตรับงานลดลง?“ปีนี้ตั้งใจเพิ่มพาร์ตต่างๆของชีวิตตัวเองมากขึ้นที่ไม่ใช่การทำงาน กะเทยมีความฝันเนอะ เราก็ฝันอยากมีบ้าน อยากมีรถนู่นนี่ เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราทุ่มให้งานมาก ปีที่แล้วก็ซื้อคอนโดแต่มันยังไม่เสร็จ ปีนี้เลยคิดว่าอยากแบ่งพาร์ตชีวิตทำงานมาทุ่มให้ด้านอื่นบ้าง เช่น คอนโดจะเคลียร์ให้เสร็จ ส่วนตัวอยากทำรีสอร์ตที่ต่างจังหวัด ปีใหม่ไปเที่ยว อ.ปาย มาด้วยก็รู้สึกมีไฟ อยากจะหาที่ทำรีสอร์ต เลยคิดว่าปีนี้อยากไปทุ่มให้ตรงนั้นมากขึ้นและดูแลตัวเอง ความสวยความงาม มีเวลาในการดูแลตัวเองมากขึ้น และรู้สึกอยากเพิ่มทักษะอะไรบางอย่างให้กับตัวเอง นอกจากการทำงาน จริงๆมันมีทักษะที่เราทำได้แต่เราอยากไปฝึกฝนเพิ่ม ตอนนี้เรากำลังเรียนเต้นที่เป็นสกิลใหม่ๆอยากให้รอดู และอีกอย่างที่เป็นความฝันมานานตั้งแต่สมัยเรียนคือทักษะเรื่องดนตรี เราก็จะฝึกฝนไปด้วย ก็อยากให้รอดูในปีนี้ งานที่ทำก็อาจจะไม่เชิงปรับเปลี่ยน แต่ก็เลือกที่เราอยากทำมากขึ้น”มันมีจุดเปลี่ยนตรงไหนที่อยากมีฝันแบบนี้?“เรื่องนี้มันมีมาสักพักใหญ่ๆ จุดเปลี่ยนแรกหนูมองว่าตั้งแต่หนูทำหน้าอกมา พอเราเห็นความเปลี่ยนแปลงของเรา ก็อยากเพิ่มการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงที่ทำให้มีไฟมากช่วงเดือน ต.ค. เดือนเกิดปี 65 เราได้คุยกับเพื่อนๆ เพื่อนส่งพอดแคสต์มาให้เราฟัง ฟังแล้วรู้สึกดี มันเริ่มจากการที่เราเป็นคนคิดมาก ใจเราอยากคุยกับจิตแพทย์นะ แต่ด้วยความที่เราไม่มีเวลา เราไปโรงพยาบาลรักษาร่างกายแต่ไม่มีเวลาปรึกษาด้านจิตใจ เคยไปพบครั้งนึงเพราะทางโรงพยาบาลส่งไป เพราะโรคกรดไหลย้อนรุนแรงที่เราเป็นอยู่ หนึ่งในสาเหตุมันคือความเครียด เกิดจากความเครียดรึเปล่า ลองไปคุยกับคุณหมอดูมั้ย เราก็ไปแล้วรู้สึกว่าอุ๊ย มันดีจัง แต่ได้เจอครั้งเดียว ใจเราอยากไปคุยกับนักจิตบำบัดอีก พอมาเจอพอดแคสต์ มันเหมือนเป็นนักจิตบำบัดทางอ้อม เราฟังมาเรื่อยๆ เช่น วิธีกำจัดความเครียด วิธีลดความคิดมาก ความสุขง่ายๆที่หาได้ในชีวิต แล้วเรามีความรู้สึกว่ามันดี มันเติมไฟ มันทำให้เรามีพลัง สำหรับเรารู้สึกว่าใครท้อหรือเจออะไรมา ลองหาพอดแคสต์ในเรื่องนั้นๆที่ทำให้เราท้อดู ง่ายๆมันเหมือนเรามีเพื่อนมานั่งบอกเรา” แล้วที่ลุกขึ้นมาแซ่บรับวันเกิดอายุ 36 ล่ะ?“คือเราอยากบอกให้โลกรู้ว่าเราสวย (หัวเราะ) เรามีความรู้สึกว่าพอเราป่วยแล้วเรามาดูแลตัวเอง แล้วเราเริ่มรักสวยรักงามมากขึ้น ถ้าถามว่าตอนไหนที่หนูสวยที่สุด หนูรู้สึกว่าตอนอายุ 36 เป็นช่วงอายุที่หนูสวยที่สุด เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะเริ่มแก่ลง หรือเราไม่รู้ว่าข้างหน้าเราจะตุยหรือเกิดอะไร เรารู้สึกว่าปีที่ผ่านมาคนใกล้ตัวเรา คนรอบข้างจากไปกันเยอะมาก เราฉุกคิดว่าชีวิตมันสั้นมาก ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ยอมรับเลยว่าปีที่ผ่านมาอยู่กับความรู้สึกนี้มาก ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากทำอะไรทำ อยากไปไหนไปเลย อยากพักก็พัก ทำสิ่งที่ทำให้มีความสุข รีบทำ เลยถ่ายรูป ไปเที่ยว และอยากฝึกสกิลต่างๆอย่างที่บอก เป็นที่มาของการใช้ชีวิตปัจจุบันตอนนี้ เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกดีกับตัวเองที่สุดแล้วในแง่กายภาพ แต่ส่วนเรื่องของจิตใจนิสัยมันก็ต้องพึ่งหลายอย่าง (หัวเราะ) หนูมองว่าเราไม่ใช่คนดีอะไร หรือเพอร์เฟกต์อะไร แต่เราก็พร้อมที่จะรับฟังและพร้อมที่จะเปลี่ยน พอเราพร้อมเปลี่ยนปุ๊บ เรามองว่าสิ่งที่เรามีอยู่ที่เรามองว่ามันดีอยู่แล้ว เราอยากจะทำให้มันดีขึ้นไปอีก เหมือนการเต้น คนบอกว่าเราเต้นได้ แต่ก็อยากทำให้มันดี เรื่องเพลงจริงๆหนูคุยกันมานาน แต่เรายังไม่มีเวลา อยากร้องเพลงก่อน แต่ยังไม่มีเวลา เราอาจจะปล่อยเพลงไม่ใช่ในชื่อเจนนี่ ปาหนัน ไม่อยากให้มองว่าเราใช้คำว่าเจนนี่มาทำเพลง อยากให้มองว่าเราเป็นศิลปิน เลยเป็นที่มาที่ยังไม่ได้ทำเพราะอยากเรียนร้องเพลง มีสกิลทางดนตรี ให้เราพร้อม หนูชอบไปเทศกาลดนตรีมาก เราก็มีฝันเล็กๆเนอะว่าถ้าได้ขึ้นไปยืนบนเวทีในเทศกาลดนตรีก็เริ่ดเนอะ” กับรายการ “เทยเที่ยวไทย” ที่เดินทางมาถึง 10 ปีแล้ว?งานนี้ “ก๊อตจิ-ทัชชกร” อีกหนึ่งพิธีกรคนเก่งร่วมวงเล่าว่า “เราดีใจที่หลายคนบอกว่าดูรายการเทยเที่ยวไทยเพื่อเป็นความสุขอยู่ หลายคนที่อยู่ต่างประเทศยังดูอยู่ แรกๆคนที่ดูจะบอกว่าดูแล้วคิดถึงบ้าน พอดูแล้วหายคิดถึง บางคนที่มีช่วงเวลาชีวิตที่ยากลำบาก เลิกกับแฟน มีปัญหา มีความทุกข์ จะสอบบ้าง ดูเทยเที่ยวไทยแล้วช่วยฮีล ช่วยให้มีความสุข พอได้รับฟีดแบ็กเหล่านี้มาเราก็ดีใจที่เรายังเป็นคนที่ทำให้เค้ามีความสุขอยู่ เอาจริงๆรายการอยู่มานานเป็นสิบปี มันมีฟีดแบ็กต่างๆมากมาย เราเห็นที่บางคนบอกว่าอาจจะสนุกน้อยลง หรือมีความเปลี่ยนแปลง” เคยมีประชุมกันเรื่องนี้มั้ย? เจนนี่ “ไม่เคยได้ประชุมขนาดนั้น แต่มีกรุ๊ปที่ส่งคอมเมนต์ดูกัน เราอ่านหมดนะ อันไหนที่ติเราก็ปรับปรุง อันไหนที่ชมก็เป็นพลังให้เรา” ก๊อตจิ “เรามองว่ามันก็เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปด้วย เป็นการผลัดเปลี่ยนสังคมยุคสมัย แต่โชคดีที่ผู้ใหญ่ยังให้ความไว้วางใจเราว่าเรายังไปต่อได้ ยังมีลูกค้าที่รักชอบเราและมองว่าเรายังให้ความสุขกับผู้คนได้ เราก็ขอบคุณตรงนี้มากๆ และรวมทั้งหลายๆคนที่คอมเมนต์มาว่ารายการสนุก ยังดูอยู่ รายการยังเป็นเพื่อนของเค้าอยู่”เจนนี่ “เราขอบคุณที่เค้ายังมองว่าเรายังเป็นเพื่อนเค้าอยู่ เพื่อนก็มีหลายระดับ รายการเราอาจจะเป็นเพื่อนประถม และตอนนี้เค้าเติบโตมีเพื่อนมหาวิทยาลัยเป็นรายการใหม่ๆ แต่พอมีเวลาว่างเค้าก็ยังนึกถึงกัน อยากบอกว่าเพื่อนคนนี้ยังอยู่” 10 ปี เราต้องปรับเปลี่ยนพัฒนารายการยังไงบ้าง?ก๊อตจิ “บางช่วงก็มีการปรับเปลี่ยน เราจะดูกระแสช่วงนั้นๆ กับยุคสมัย เรื่องมุกต่างๆรายการเทยเที่ยวไทยมันสดมาตั้งแต่ปีแรกๆ ถามว่า 10 ปีมันมีมุกซ้ำมั้ย หรือมีการเล่นทำนองเดิมมั้ย ก็ยอมรับว่ามี แต่มันก็จะมีเรื่องราวใหม่ๆที่ทำให้เราเล่นมุกได้ แซวใหม่ได้ บางทีก็มีโปรเจกต์พิเศษต่างๆที่มีแขกรับเชิญมานานๆครั้ง อย่างล่าสุดงานลูกค้า ที่มีพี่ปาล์มมี่มาจอยรายการก็กลายเป็นไวรัลฮือฮา สนุกมาก พี่มี่น่ารักมาก”เจนนี่ “เราก็ยังเป็น 4 คนที่ทุกคนจำ และมีทำรายการเพิ่ม จริงๆ ตอนนี้พยายามขยายฐานแฟนคลับออนไลน์ มีการคิดรายการในเพจเทยเที่ยวไทย แอนด์เฟรนด์ส ทั้งรถ 2 แต๋ว แร้งลง เชียร์ลีดเดอร์ ที่ออกมา และมีทอล์กกะเทย โดยเอาเทยเที่ยวไทยและเพื่อนๆทั้งปิงปอง และมาดามมดมาทำด้วยกัน อยากฝากติดตามตรงนี้ด้วยค่ะ”รู้สึกยังไงที่เราเป็นความสุข ความอารมณ์ดีของคนอื่น?“ความรู้สึกของการเป็นตัวแทนของคนอารมณ์ดี เราก็รู้สึกว่าเราเป็นธรรมชาติของเรา มันออกมาเองจริงๆ บางทีเวลาใครเข้ามาเราจะนิ่งก่อนเพราะดูก่อนว่าเข้ามาแบบไหน เราก็มีหลายเหตุผล จริงๆเราก็บ้าๆบอๆ เข้ามาทักได้เลย ถามว่าการให้ความสุขของเรามีฟีดแบ็กกลับมามั้ย มันก็ได้รับอยู่ตลอด บางทีเค้าแท็กมาหรืออยู่ในโซเชียลบอกว่าเจอเราแล้วน่ารัก เฟรนด์ลีมาก เราย้อนกลับไปบางทีมันแค่คำทักทายสั้นๆ สิ่งเล็กน้อยที่เราพูดไปเป็นช่วงเวลาเล็กๆที่เจอกัน เราก็รู้สึกว่าเค้าแฮปปี้” เรื่องหัวใจบ้าง พอเจนนี่กลายเป็นสาวฮอต คนอยากเข้ามารู้จักเราเยอะขึ้นมั้ย?“จริงๆหนูว่าไม่มีนะ ไม่มี ในที่นี้หนูไม่รู้ว่าใครเข้ามาอะไรยังไง คือถ้าเข้ามาไม่ชัดเจนหนูจะปัด ถ้าเข้ามาแล้วบอกว่าชอบเรานะด้วยความที่เราเป็นคนไม่ได้มั่นใจเราก็จะตีความว่าเค้าอาจจะชอบเราในฐานะแฟนคลับ หรือชื่นชอบผลงาน เอาจริงๆ เรื่องความรักหนูไร้เดียงสามาก หนูไม่ได้กลัวนะ คือเอาจริงๆ เห็นหนูลงโซเชียลว่าอยากมีแฟนอะไรอย่างนั้น ในความเป็นจริงก็ไม่ได้มานั่งส่องนะว่ามีใครทักมาบ้าง หนูรู้สึกว่าพอถึงเวลาเราจะรู้เองว่าคนนี้ใช่นะ ส่วนเรื่องกลัวคนไม่จริงใจเข้ามาไม่ต้องกลัว เพราะคนรอบข้างหนูจะรู้ว่าหนูไม่โอเคกับอะไรแม้แต่เรื่องเล็กน้อยหนูจะปัดทิ้งเลย หรือถ้าคุณเข้ามาแล้วรู้สึกว่าเค้าหวังผลประโยชน์แค่นิดเดียวหนูก็จะเบะปาก ตัดทิ้ง หนูสกรีนออกได้ด้วยตัวเอง”ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าซุ่มมีคนคุยอยู่แต่หมอดูทักว่าห้ามเปิด?“ด้วยความที่คนรอบข้างเรา ผู้จัดการเราเอามาแซว เอาไปพูดออกรายการแล้วนักข่าวก็เลยมาถาม” ถ้าเรามีรักก็ไม่อยากเปิด?“จริงๆเปิดหรือไม่เปิดหนูไม่ได้ซีเรียส หนูแค่อยากมีความรัก ถ้าเรามีความรักแล้วเปิดได้เราก็จะเปิด แต่ถ้าเราเปิดไม่ได้เพราะหมอดูไม่ให้เปิดหรือเหตุการณ์อะไรก็ตามทำให้เปิดไม่ได้ หนูก็ไม่ได้ซีเรียส ความรักเป็นเรื่องของสองคน แต่เราอยู่ตรงนี้หลายคนอาจจะอยากรู้ ถ้าเราให้คนอื่นรู้ไม่ได้เราก็ไม่ซีเรียส แค่เราสองคนรักกันหนูก็แฮปปี้ เดี๋ยวถ้าได้แต่งงานเมื่อไหร่หนูจะประกาศทั่วโลก (ยิ้ม) จริงๆอยากให้ทุกคนมีความรักอย่างที่ต้องการ”ต้องเป็นคนแบบไหนที่เราจะแพ้ทาง?“ถ้าถามสเปกหนูเป็นคนแพ้อะไรที่มันน่ารัก นิสัยน่ารัก ยิ้มน่ารัก หน้าตาน่ารักหนูแพ้หมดหนูรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราใจฟู บางทีคนหล่อ ไปนานๆ ก็อาจจะเบื่อได้ แต่ถ้าเรื่องนิสัยถ้าเค้าเป็นคนที่ดูแลและเทกแคร์แบบดีสุดๆ หนูคือแพ้เลย”.เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย
