“แพ้คำว่ารัก” คือเพลงสุดท้ายที่ทำให้เขาต้องแพ้พ่ายในการแข่งขัน เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายเดอะสตาร์ เมื่อ 10 ปีที่ล่วงผ่าน กลายเป็นบาดแผลลึก ใต้จิตสำนึกของเขาตลอดมาในโจทย์มินิคอนเสิร์ต 15 นาทีรอบชิงชนะเลิศ เขานำ “แพ้คำว่ารัก” มาร้องเป็นเพลงแรก ก่อนจะตามมาด้วยเพลงที่เขาได้รับการโหวตให้ร้องของศิลปินโปเตโต้ “ทนพิษบาดแผลไม่ไหว”แล้วปิดท้ายด้วย “มีแต่คิดถึง” ที่เขาสร้างความอัศจรรย์บรรเจิดด้วยการยกเปียโนหลังงามมาวางตระหง่านสะท้านเวที แล้วโชว์เล่นร้องคลอแสงดาวพราวพร่างเวที เป็นเพลงอำลาทุกอย่างในโชว์สุดท้ายที่เจมส์ตั้งชื่อว่า “เท็นเยียร์ส อาฟเตอร์” (10 Years After) “สิบปีผ่านไป...ความมุ่งมั่นฝันใฝ่ยังแข็งแกร่งท้าทายและงดงามเสมอ”“เจมส์-เจตพล กนิษฐชาต” แมงป่องพิจิกผู้หาญกล้าวัย 28 ดุริยางคศาสตรบัณฑิต ม.มหิดล ก้าวสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในชีวิต ด้วยความเพียรทรหด อดทนทระนงได้สำเร็จในที่สุด ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 66 เวลา 20.10 น.ความล้มเหลวเก่าๆของชีวิตต้อง “แพ้คำว่าชนะ” ของเขาแล้วในวันนี้ เป็นชัยชนะที่ “สมบูรณ์แบบ” ในทุกด้านทุกแง่มุม เป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่งดงามสง่างามที่สุดเป็น “เดอะสตาร์คนแรก” ที่สมบูรณ์แบบสง่างามที่สุด นับแต่เคยมีเดอะสตาร์ถือกำเนิดเกิดขึ้นในประเทศไทยสง่างามทั้งภาพลักษณ์ รูปลักษณ์ บุคลิกภาพ สติปัญญา วุฒิภาวะ และทุกโครงสร้างทางความคิด หาผู้แข่งขันคนใดมาเทียบเคียงได้ยากยิ่งเขาจะก้าวไปสู่ความเป็น “บุคลากรศิลปิน & นักแสดง” ที่ช่องวันผู้ให้กำเนิดตัดสายสะดือ จะต้องได้ปลาบปลื้มภาคภูมิใจไม่รู้จบขอแสดงความยินดี เปี่ยมปีติปราโมทย์ยิ่งต่อชัยชนะของเจมส์ เกริกกล้าอัจฉริยภาพ งามสง่าสถาพรดวงใจไปตลอดกาล.“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com