ไม่พลิกโผตัวเต็ง “นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์” สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ครูอาสา-วิทยากรพิเศษส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร คว้าตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 53 ครองมงกุฎ “อิสตรีวิจิตรา” พร้อมพ่วงอีก 2 รางวัลพิเศษ โดยมีอีก 2 ตัวเต็ง “มุก-อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร-นิดา-วนิดา ดอกกุหลาบ” คว้ารองฯ อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับที่ CentralWorld Live ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ก.พ.2565 สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ได้จัดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 บรรยากาศการประกวดรอบตัดสินเป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนคลับนางงามที่มาร่วมลุ้นและให้กำลังใจตลอดการประกวด อย่างคึกคัก การประกวดฯเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าสาวงามทั้ง 24 คนเปิดตัวด้วยการแสดงสุดอลังการ พร้อมแนะนำตัวทีละคน จากนั้นคณะกรรมการประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ได้แก่ MT01 ไข่มุก-ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข อายุ 25 ปี สูง 174 ซม. MT06 มุก-อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร อายุ 21 ปี สูง 168 ซม. MT08 ดาด้า-กีรดา อัครปรีดี MT10 พลอย-วรัมพร ปั้นอินทร์ อายุ 22 ปี สูง 177 ซม. MT11 เกรพส์-จันทรรัสม์ เอี่ยมเล็ก อายุ 26 ปี สูง 171 ซม. MT12 อร-อรณพรรณ ณ เชียงใหม่ อายุ 25 ปี สูง 174 ซม. MT15 โบนัส-ฑิฆัมพร ทุ่งทะเล อายุ 25 ปี สูง 166 ซม. MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ อายุ 25 ปี สูง 173 ซม. MT17 นิกกี้-อธิชา เรนนี่ อายุ 21 ปี สูง 170 ซม. MT18 นิดา-วนิดา ดอกกุหลาบ อายุ 25 ปี สูง 169 ซม. MT19 ไข่มุก-วาริศา ศรีนุกูล อายุ 25 ปี สูง 169 ซม. และ MT23 ฮันนี่-ภรณ์นภัส ปุณณสิริวัฒน์ อายุ 20 ปี สูง 167 ซม.จากนั้นเป็นการเพิ่มดีกรีให้เวทีด้วยการอวดเสน่ห์ใน “รอบชุดว่ายน้ำ” วันพีซสีชมพูสดใส เว้าหลัง และต่อด้วยการประกวด “รอบชุดราตรี” ที่สวยสง่าสะกดทุกสายตา ในรอบนี้คณะกรรมการประกาศผลผู้ผ่านเข้าสู่รอบ TOP 5 ได้แก่ MT18 นิดา-วนิดา ดอกกุหลาบ MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ MT06 มุก-อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร MT17 นิกกี้-อธิชา เรนนี่ และ MT01 ไข่มุก-ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข โดยสาวงามทั้ง 5 คน ได้แสดงไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามภายในเวลา 30 วินาที เป็นคำถามที่แต่ละคนต้องเลือกซองคำถามที่มี 5 ซองเอง จากนั้นเป็นการประกาศผล รองอันดับ 4 และ 3 ก่อน เพื่อให้อีก 3 สาวงามที่เหลือได้ไปตอบคำถามในรอบสุดท้าย ที่เป็นคำถามเดียวกัน ในเวลา 30 วินาที ทั้งนี้ ผู้คว้ามงกุฎเป็นนางสาวไทยคนที่ 53 ได้แก่ MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ ที่ได้ครองมงกุฎ “อิสตรีวิจิตรา” (The Adamas) ที่สุดแห่งความเลอค่า อีกทั้งรางวัลเงินสด 800,000 บาท และรางวัลอันทรงคุณค่าอื่นๆ นางสาวไทยคนที่ 53 ประจำปี 2565 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ MT06 มุก-อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร รองอันดับ 2 ได้แก่ MT18 นิดา-วนิดา ดอกกุหลาบ รองอันดับ 3 ได้แก่ MT17 นิกกี้-อธิชา เรนนี่ และรองอันดับ 4 ได้แก่ MT01 ไข่มุก-ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุขนอกจากนี้ เวทีประกวดนางสาวไทยยังมีการมอบรางวัลพิเศษ 5 รางวัล ในรอบพรีลิม ดังนี้ 1.รางวัล Miss Brilliant Beauty by True 5G ได้แก่ MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ 2.รางวัล Miss Perfect Beauty by Wave Clinic ได้แก่ MT23 ฮันนี่-ภรณ์นภัส ปุณณสิริวัฒน์ 3.รางวัล งามอย่างไทย by Aotura ได้แก่ MT18 นิดา-วนิดา ดอกกุหลาบ 4.รางวัล BEAUTY OF THE FUTURE AWARD ได้แก่ MT08 ดาด้า-กีรดา อัครปรีดี และ 5.รางวัล ขวัญใจเจ๊รวยของคนอำนาจเจริญ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ และ MT12 อร-อรณพรรณ ณ เชียงใหม่สำหรับนางสาวไทยคนใหม่ นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดและโตที่ภูเก็ต อายุ 25 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะคอมมูนิเคชัน อาร์ต เกียรติ นิยมอันดับ 1 ปัจจุบันเป็นเซลส์เมเนเจอร์ นางแบบอิสระ และเป็นครูอาสา ในตำแหน่งวิทยากรพิเศษส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ณ โรงเรียนวัดบางไผ่นารถ อ.บางเลน จ.นครปฐม เป็นพื้นที่ขาดแคลน เคยผ่านเวทีประกวด มาหลายครั้ง อาทิ ผู้เข้าประกวดดีกรี รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 และท็อป 12 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018