หน่อไม้ปี๊บ นับเป็นอาหารที่ต้องระมัดระวังในการซื้อหามาทาน เนื่องจากเคยมีข่าวคราวครึกโครมถึงอันตรายของหน่อไม้ปี๊บเมื่อหลายปีมาแล้วสาเหตุมาจากการปนเปื้อนของเชื้อก่อโรคที่ชื่อ คลอสทริเดียม โบทูลินั่มเชื้อชนิดนี้ หากอยู่ในสภาพของสปอร์ มันสามารถปนเปื้อนกระจายอยู่ทั่วไปในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ น้ำทะเล และอาจปนเปื้อนต่อไปยังผลิตผลทางการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ อาหารทะเล เมื่อเรานำผลผลิตที่ปนเปื้อนมาผลิตเป็นอาหาร สปอร์ก็จะปนเปื้อนอยู่ในอาหารนั้นด้วยปกติสปอร์ของ คลอสทริเดียม โบทูลินั่ม จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่เมื่อมันอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ได้แก่ สภาวะที่ไม่มีอากาศโดยเฉพาะก๊าซออกซิเจน เช่น อาหารที่บรรจุอยู่ในกระป๋องที่มีความเป็นกรดต่ำ (ไม่เปรี้ยว) สปอร์จะงอกและเจริญ แบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอาหาร ซึ่งขณะที่เชื้อเจริญนี้เอง มันจะสร้างสารพิษชนิดที่มีอันตรายรุนแรงมาก ออกมาปนเปื้อนในอาหารได้หากได้รับสารพิษชนิดนี้เข้าสู่ร่างกาย จะมีผลต่อระบบประสาทอย่าง รุนแรง ทำให้มีอาการเริ่มตั้งแต่อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย ปาก คอ ลิ้นแห้ง ม่านตาไม่ตอบสนอง ตามองเห็นภาพซ้อน กลืนยาก หายใจขัด กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบการหายใจล้มเหลว จนเสียชีวิตในที่สุดอาหารที่มักพบสารพิษชนิดนี้ปนเปื้อน ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง ผักกระป๋อง ข้าวโพดกระป๋อง แกงสำเร็จรูปกระป๋อง หน่อไม้อัดปี๊บ ที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนไม่สมบูรณ์วันนี้สถาบันอาหารสุ่มตัวอย่างหน่อไม้ปี๊บจำนวน 5 ตัวอย่างจาก 5 ย่านการค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อนของเชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินั่มผลปรากฏว่า ทุกตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อนเลยแต่อย่าชะล่าใจ ขอแนะให้นำหน่อไม้ปี๊บมาต้มในน้ำเดือดนาน 10–15 นาที เพื่อทำลายสารพิษ ก่อนนำมาทานหรือปรุงเป็นอาหารทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย.