ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไต้หวันเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งเป็นผลจากการที่ไต้หวันได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เมื่อปี 2567 มูลค่าการลงทุนของผู้ประกอบการไต้หวันในไทยอยู่ที่ประมาณ 15,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 493,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นปัจจุบัน ผู้ประกอบการชาวไต้หวันเข้ามาลงทุนบริษัทในไทยกว่า 60 แห่ง และมีการจ้างงานกว่า 10,000 คน จำนวนบริษัทผู้ประกอบการไต้หวันในไทยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลักๆ คืออุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์และอุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ (PCB)แต่ผู้ประกอบการชาวไต้หวันในไทยก็เจอกับปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรด้านเทคโนโลยี ทำให้ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยประกาศ การจัดตั้งแพลตฟอร์มบริการด้านบุคลากรเทคโนโลยีไต้หวัน–ไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการลงทุนชาวไต้หวันในไทยโดยนายปีเตอร์ หลัน ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานฯ กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่า แพลตฟอร์มนี้จะช่วยเหลือบริษัทไต้หวันที่ลงทุนในไทยที่ต้องการส่งพนักงานคนไทยของบริษัทไปศึกษาเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีที่ไต้หวัน ทางสำนักงานฯจะเป็นตัวกลางติดต่อประสานงานระหว่างบริษัทไต้หวันในไทยที่ ต้องการส่งแรงงานคนไทยไปศึกษาต่อกับสถาน ศึกษาในไต้หวัน สามารถติดต่อที่สำนักงาน เศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ทางอีเมลแพลตฟอร์ม : tw.th.talent@ gmail.com หรือโทร. 0–2119–3555นายปีเตอร์บอกด้วยว่า ทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยหวังจะแก้ปัญหานี้เพื่อให้ภาคธุรกิจเทคโนโลยีของไต้หวันในไทยเติบโตรวดเร็วขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น โดยการจัดตั้งแพลตฟอร์มนี้นอกจากจะสอดคล้องกับแนวคิด “การทูตเชิงบูรณาการ” ของนายหลิน เจียหรง รมว.การคลังของไต้หวัน ยังเป็นการประกาศว่า สำนักงานฯ จะรวบรวมสรรพกำลังภาครัฐ สถาบันการศึกษาและผู้ประกอบการไต้หวันเพื่อหารือเพิ่มเติมกับฝ่ายไทยด้านการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีต่อไปโครงการแพลตฟอร์มนี้มีหลายฝ่ายเข้าร่วมแถลงข่าว เรามาติดตามตอนต่อไปว่า ผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายมีวิสัยทัศน์เรื่องนี้อย่างไรบ้าง.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม