พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปส่ง “พระราชินี” เข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 รอบชิงชนะเลิศ พร้อมพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน “พระราชินี” ทรงทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ นักกลยุทธ์ของเรือ “ทีมเรือใบวายุ” THA72 และด้วยพระปรีชาสามารถทำให้เข้าเส้นชัยด้วยคะแนนดีที่สุดในการแข่งขันเรซที่ 8 มีคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 คว้าถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งไปครองเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 08.22 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ณ โรงแรมบียอนด์ กะตะ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มี พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายประมุขพิสิฐ และนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร เครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ และนักกีฬาเฝ้าทูล ละอองธุลีพระบาทรับเสด็จจากนั้น เสด็จไปยังห้องบรรยาย ทรงรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการแข่งขันเรือใบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณชายหาดกะตะ หน้าโรงแรมบียอนด์ กะตะ เพื่อประทับเรือพระที่นั่งไปส่งเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ยังเรือใบหมายเลขใบเรือ THA72 เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเรือใบ THA72 เรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมบียอนด์ กะตะ ที่ประทับต่อมาเวลา 10.25 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ในทีมเรือใบวายุ รุ่นไออาร์ซี ซีโร่ (IRC Zero) หมายเลขใบเรือ THA72 เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยทรงทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ หรือนักกลยุทธ์ของเรือ ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการบิน จึงทรงทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมอันแปรเปลี่ยนในทะเลได้อย่างแม่นยำ เพราะหัวใจสำคัญของการแข่งขันกีฬาเรือใบคือต้องใช้ลม เพื่อดันใบเรือให้แล่นไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยพระปรีชาสามารถและพระวิริยะอุตสาหะ อีกทั้งยังทรงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของสมาชิกบนเรือทุกคน ทำให้เรือใบวายุเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ในเรซที่ 8 รวมการแข่งขัน 8 เรซ ทีมเรือใบวายุมีคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่ง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธานที่ทรงสืบสานกีฬาเรือใบของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ซึ่งกีฬาเรือใบถือเป็นกีฬาระดับสากล ที่ทรงส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจแก่นักกีฬาเรือใบรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนให้ได้ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาต่อยอดการเล่นเรือใบสู่การแข่งขันในระดับสากลที่จะทำให้กีฬาเรือใบมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป โดยในปีนี้มีนักแข่งขันเรือใบจากทั่วทุกมุมโลก และเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยเรือใหญ่ เรือเล็ก และเรือคนพิการ จำนวนรวม 120 ลำ และมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวนกว่า 365 คน จากประเทศต่างๆ อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สวีเดน เบลเยียม จีน เยอรมนี สิงคโปร์ มาเลเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้นเมื่อจบการแข่งขัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนิน กลับมายังชายหาดกะตะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ประทับรอ ณ ที่นั้น ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะนักกีฬาเรือใบ THA72 และคณะทำงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเวลา 15.16 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องกานดา ฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือเอก กรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรการจัดงาน แด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือเฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยเสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายธอมัสอาร์เตอร์ วิทคร๊าฟท์ เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการแข่งขัน และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้ชนะการแข่งขันประเภทต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัล และผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน รับพระราชทานโล่ที่ระลึก ตามลำดับ กระทั่งสมควรแก่เวลา จึงเสด็จออกจากห้องกานดา ฮอลล์ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานครอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่