น้ำลด แต่อารมณ์ความรู้สึกยิ่งชวนหดหู่ ยอดผู้เสียชีวิตมหาอุทกภัยภาคใต้ทะยานหลักร้อยศพ ตามการแจ้งยอดภายหลังเข้าเคลียร์พื้นที่ของเหล่าอาสาสมัคร และมูลนิธิต่างๆที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จะหยุดนิ่งเมื่อใด ภาพสะเทือนใจต่อหน้า ประชาชนจมน้ำเสียชีวิตคาบ้าน หลายศพเจ็บป่วย แต่ไม่สามารถนำตัวออกมารักษาได้จากสภาวะน้ำท่วมแตะหลังคาสังเวยมหาอุทกภัยถล่ม 10 จังหวัดด้ามขวานจมน้ำมิด พื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตกอยู่ใต้บาดาลหลายคืน พังยับทั้งเมือง ร้ายแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนเดือดร้อนกันแสนสาหัส อาคารบ้านเรือน รถยนต์จมมิดน้ำ ข้าวของเครื่องใช้เสียหายยับเยิน ประเมินมูลค่าความเสียหายยังไม่ได้ เศรษฐกิจในพื้นที่พังยับ กระทบความเชื่อมั่นเมืองท่องเที่ยวหายวับไหลตามสายน้ำไปพร้อมแต้มบุญ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยพายุอารมณ์ประชาชนรุมประณามรัฐบาล ล้มเหลวการบริหารจัดการภัยธรรมชาติ อ่อนปวกเปียกตั้งแต่การแจ้งเตือนภัย การระบายน้ำ การอพยพประชาชน การแจกจ่ายเสบียงอาหาร ป้อแป้พังกันทั้งระบบแม้ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควบคุมลำบาก แต่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีชีวิตรอดอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่เป็นหน้าที่หลักรัฐบาล กลับล่าช้า ไม่สามารถใช้กลไกการบริหารงานช่วยประชาชนให้ปลอดภัยได้ปล่อยชาวบ้านลอยคอแช่น้ำ หนีตายไปอยู่บนหลังคา อดข้าว อดน้ำ สัญญาณสื่อสารล่ม เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังก้องไปทั่วผืนน้ำ ต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดกันตามยถากรรมบทบาทการบริหารราชการแผ่นดินกลับตาลปัตร แทนที่รัฐบาลจะเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งพาของผู้ประสบภัย กลายเป็นภาคประชาชน และมูลนิธิต่างๆเป็นหัวหอกช่วยเหลือประชาชนสะท้อนภาวะผู้นำล้มเหลว “นายกฯหนู” ไม่สามารถฝากความหวังในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ ประชาชนติดตาอยู่แค่แอ็กชันผัดข้าวโชว์คะแนนความเชื่อมั่นรัฐบาลภูมิใจไทยลดฮวบ หลังขมุกขมัวมาตั้งแต่การแก้ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ ปราบทุนเทาข้ามชาติล่าช้า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคาราคาซัง ล่าสุดมาติดลบปัญหามหาอุทกภัยภูมิคุ้มกันรัฐบาลบกพร่องต่อเนื่อง จากที่ชาวบ้านฝากความหวังเป็นผู้นำภาวะวิกฤติ รับช่วงกอบกู้ประเทศ แต่ผลลัพธ์ส่อเค้าไม่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนจากที่มีแต้มต่อมาก กุมความได้เปรียบเกมอำนาจ มีโอกาสสูง ได้จัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งสมัยหน้า แต่เจอมหาอุทกภัยลดความเชื่อมั่น ต้นทุนหายเกือบหมดหน้าตักน้ำเสียงที่เคยดุดันขู่ยุบสภา หากถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้เงียบกริบ ต้องกุลีกุจอรีบเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 10—11 ธ.ค.นี้ เร่งเครื่องผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2 ให้เสร็จก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญรอบใหม่ในวันที่ 12 ธ.ค.ไม่กล้าบุ่มบ่าม หักดิบพรรคประชาชน ฉีกเอ็มโอเอแก้รัฐธรรมนูญเส้นทางแก้รัฐธรรมนูญเจอทางสะดวก แนวโน้มราบรื่นไปถึงการโหวตวาระ 3 ช่วงปลายเดือน ธ.ค. อย่างที่พรรคเพื่อไทยยอมใส่เกียร์ถอย ขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลังแก้รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 ไปแล้วแผนยุบสภาเร็วสะดุด ไม่เป็นไปตามคำขู่ อย่างน้อยต้องรอการแก้ไขสถานการณ์วิกฤติอุทกภัยภาคใต้เข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น“นายกฯหนู” ต้องอยู่ลากรัฐบาลต่อ ฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายมหาอุทกภัย ปรับโหมดบริหารอารมณ์ ความรู้สึกคนในสังคมใหม่กู้คะแนนและความศรัทธาที่เสียไปกลับคืนมาโดยเร่งด่วน แก้เกมปรากฏการณ์ Rain Bomb พัดความเชื่อมั่นรัฐบาลหายไปกับสายน้ำเพราะเหตุการณ์น้ำท่วมใต้เลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบกับคะแนนนิยมพรรคภูมิใจไทยที่มีฐานเสียงสำคัญในโซนด้ามขวานสถานการณ์วิกฤติที่ค่ายส้มจ้องพลิกเป็นโอกาส ส่ง สส.ลงพื้นที่หาดใหญ่ช่วยเหลือคนในพื้นที่ แชร์แต้มเจ้าถิ่นได้เป็นกอบเป็นกำ หวังปักธง จ.สงขลา ในการเลือกตั้งรอบหน้าหากเร่งยุบสภาก็เข้าทางฝ่ายค้านปรามาสรัฐบาลสีน้ำเงินล้มเหลวแก้น้ำท่วม ผสมโรงไปกับล่าช้าปราบแก๊งสแกมเมอร์ สร้างภาพจำทางลบในสายตาประชาชนมากขึ้นไม่ใช่แค่ถูกตราหน้ายุบหนีซักฟอก แต่เป็นยุบหนีปัญหาประเดประดัง เข้าทางฝ่ายค้านไล่ประจานความล้มเหลว ทั้งน้ำท่วม สแกมเมอร์ ความมั่นคงชายแดน สร้างภาพจำติดลบในสายตาประชาชนหนักขึ้นวิกฤติความเชื่อมั่นตัวผู้นำที่ต้องเร่งกอบกู้กลับมาโดยเร็ว โดยมีแต้มโซนด้ามขวานเป็นเดิมพัน!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม