4 เดือนกับอีก 4 ปี...นั่นเป็นความฝันของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเริ่มเป็นผู้นำประเทศทุกอย่างดูจะสวยหรูไปหมด เศรษฐกิจได้ทีมงาน “คนนอก” ก็สอบผ่านฉลุย ต่างประเทศก็ขึ้นหม้อติดชาร์ต ปัญหาไทย-เขมรก็เข้าสู่เส้นทางสันติภาพ ก็เลยไม่แปลกที่จะเห็น “เสี่ยหนู” ยิ้มมุมกว้างไปได้สวยแต่พลันที่ “สแกมเมอร์” โผล่เข้ามาในบัญชี โดยมีชื่อรัฐมนตรีคนหนึ่งพันอยู่แถมด้วยการเปิดโปงว่าตำรวจไทยคือแก๊งอาชญากรรายใหญ่พันเรื่องเว็บพนันเรตติ้งเลยลดลงอย่างฮวบฮาบน่าใจหายถึงกับพูดกันว่า “ไม่รอด” แล้วกระมัง!ไล่จนมาถึงการที่ฝ่ายค้านจะเปิดซักฟอกรัฐบาล “อนุทิน” ดูไม่ค่อยจะมั่นใจนัก ต้องเปลี่ยนคำพูดเป็นรายวันวันหนึ่งบอกว่าถ้ายื่นก็ “ยุบ” เพราะมีอำนาจอยู่ในมืออีกวันบอก “ไม่ยุบ” แล้วถ้าซักฟอกก็ต้องไม่ลงมติ!ต่างๆเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าผู้นำรัฐบาลเริ่มออกอาการแปรปรวนทางภาวะจิตใจ ไม่มีความมั่นใจว่าจะเดินเกมการเมืองต่อไปอย่างไรเพราะเกมแบบนี้ต้องชัดเจนและมั่นคง เนื่องจากเป็นเส้นทางการดำรงอยู่หรือไปไม่รอดได้หากไม่มีความชัดเจนฝ่ายค้านก็เลยได้ทีข่มขวัญด้วยรูปแบบต่างๆดังนั้นฉากต่อจากนี้ไปจึงมีความสำคัญยิ่งสำหรับ “เสี่ยหนู” จะเอาอย่างไรแน่ต้องชัดเจน วันหนึ่งอย่างหนึ่งอีกวันเปลี่ยนอีกแล้วเพราะวันนี้คือวันข้างหน้า หลังเลือกตั้งจะได้ไปต่อหรือไม่ก็อยู่ตรงนี้แหละ...นักสังเกตการณ์การเมืองบางคนให้ความเห็นว่า “อนุทิน” นั้นยังมีโอกาสสูงกว่าคนอื่นๆที่จะได้ไปต่อ เหนือกว่าพรรคประชาชนด้วยเพราะมีความพร้อมมากกว่า พูดง่ายๆว่ายังสดอยู่แม้จะเทาๆไปบ้างก็ตามพรรคประชาชนนั้นยังไม่มีอะไรใหม่ นอกจากสโลแกนใหม่ “มีเรา ไม่มีเทา” คือเป็นพรรคที่สะอาดไร้คนโกงทุจริตแต่อย่างอื่นยังไม่มีอะไรใหม่!นอกจากการพุ่งเป้าโจมตี “ธรรมนัส” เป็นรายวัน ถ้าไม่ลาออกเองนายกรัฐมนตรีก็ต้องปลดออก หวังจะเป็นจุดขายมีผลงานให้กองเชียร์เห็นแต่ถ้าไม่มีนโยบายเจ๋งๆที่เข้าตาชาวบ้านก็คงไปไม่ถึงฝั่งแน่อีกทั้งการจะได้เป็นแกนนำรัฐบาลหากไม่ได้ 250 เสียงขึ้นก็คงยาก เพราะพรรคการเมืองนั้นคงไม่อยากร่วมงานด้วย เนื่องจากมีเงื่อนไขเยอะพูดง่ายๆคือเรื่องมาก...ว่างั้นเถอะสำหรับพรรคการเมืองอื่นๆคงไม่สามารถได้เสียงเกินครึ่งแม้แต่ “เพื่อไทย” ที่บอกว่าคนรุ่นใหม่ต้องได้ 200 เสียง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหลือก็ “ภูมิใจไทย”...นี่แหละหรือ “กล้าธรรม” ที่หาญกล้าท้าชิง ถึงเวลานี้ก็ยากเสียแล้วขนาดหัวหน้าพรรคยังเอาตัวแทบไม่รอดแล้วจะไปเหลืออะไรเหนืออื่นใดจากนี้ “อนุทิน” จึงต้องเชื่อมั่นและมั่นใจให้มากกว่านี้ ต้องไม่มีความผิดพลาดให้ปรากฏ เพราะกำลังเดินเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้วต้องเรียกคะแนนคืนกลับมาให้ได้ถ้ายังคิดจะไปต่ออีก 4 ปี!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม