“คัลแมกี” แผลงฤทธิ์ฝนถล่มลำพูน น้ำป่าไหลท่วมบ้านเกือบ 2 เมตร ซัดกำแพงพังทั้งแถบ ส่วนที่สุโขทัยน้ำทะลักท่วมถนนหน้าโรงพยาบาลต้องจัดรถหกล้อรับส่งชาวบ้านและใช้เปลหามคนไข้ลุยน้ำไปรักษา ด้านจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาวิกฤติ หลังเขื่อนเพิ่มการระบายน้ำ ชาวปทุมธานี-นนทบุรีเร่งเสริมคันกั้นน้ำป้องเขตเศรษฐกิจเต็มที่ ขณะที่สมุทรปราการ-สมุทรสงครามอ่วมหนักเจอทะเลหนุนสูงเอ่อท่วมถนนตลาดหนักกว่าทุกปีอิทธิพลพายุคัลแมกีทำหลายจังหวัดฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 8 พ.ย. ที่ จ.ลำพูน เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยน้ำเย็นและห้วยปู่นาคเอ่อท่วมบ้านห้วยน้ำเย็น ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน บางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดกำแพงบ้านพังครืนลงมาทั้งแถบ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าไผ่ลงพื้นที่ช่วยอพยพเด็กเล็กไปอยู่ในที่ปลอดภัย ชาวบ้านผู้ประสบภัยเผยว่าฝนตกหนักตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา กระทั่งช่วงเช้าน้ำในลำห้วยเอ่อท่วมบ้าน น้ำมาเร็วและไหลแรงจนแทบตั้งตัวไม่ทันที่ จ.สุโขทัย น้ำในคลองแม่รำพันและทุ่งทะเลหลวงยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไหลบ่าท่วมพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ขยายวงกว้างท่วมถนนสายสุโขทัยเมืองเก่าตั้งแต่สี่แยกคลองโพธิ์ไปจนถึงหน้าศูนย์ กศน.ตำบลบ้านกล้วย รถเล็กสัญจรไม่ได้ ถนนสายนี้ยังเป็นที่ตั้ง รพ.สุโขทัย วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม วิทยาลัยนาฏศิลป์สุโขทัยและวัดกำแพงงาม โดยเฉพาะ รพ.สุโขทัย ที่อยู่ติดกับคลองแม่รำพันน้ำท่วมถนนหน้าโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายและผ้ายางมาวางกั้นน้ำและนำคนไข้ใส่เปลหามข้ามแนวคันกันน้ำเข้าไปด้านในโรงพยาบาล พร้อมทั้งจัดรถหกล้อสูงคอยบริการรับส่งประชาชนที่ไปใช้บริการตรวจรักษาไว้ 2 จุด ที่หน้าธนาคารกสิกรไทยสาขาสุโขทัยและอีกจุดหน้าห้างบิ๊กซีฯสุโขทัย ขณะที่มูลนิธิพลายชุมพลนำเรือยนต์ขับเรือฝ่ากระแสน้ำสูงกว่า 3 เมตร เข้าไปอพยพผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านหางคลอง หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย ไปส่งโรงพยาบาลจ.นครสวรรค์ พื้นที่รองรับน้ำจากภาคเหนือ ล่าสุดระดับน้ำแม่น้ำสายหลักทั้งแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยวันละ 30-40 ซม. หลังเขื่อนตอนบนหลายแห่งกักเก็บน้ำไว้เกินความจุต้องเร่งระบายน้ำ ทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 2 ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง นครสวรรค์ ถูกน้ำท่วมหนัก บ้านที่อยู่ริมน้ำถูกน้ำเซาะตลิ่งจนทรุดตัวพังลงมา ทหารมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ ไปช่วยย้ายข้าวของเครื่องใช้และซ่อมแซมบ้านที่พังเสียหาย ส่วนเขตเทศบาลนครนครสวรรค์มีชุมชนถูกน้ำท่วมรวม 7 ชุมชนกว่า 846 ครัวเรือน ได้แก่ ชุมชนเกาะยม ชุมชนตลาดใหม่ ชุมชนวัดตะแบก ชุมชนสถานีรถไฟปากน้ำโพ ชุมชนบางปรอง ชุมชนชอนตะวัน และชุมชนตลาดใต้ หนักสุดชุมชนเกาะยมระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้เรือสัญจรเพียงอย่างเดียวที่ จ.อุทัยธานี ฝนที่ตกหนักช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำแควตากแดดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน อีกทั้งน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์และน้ำจาก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ไหลมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงจนถึงชั้นสอง ชาวบ้านต้องอพยพออกมาอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชั่วคราว ส่วน ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยธานี ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นท่วมถนนเลียบแม่น้ำ รถ จยย.และรถเก๋งไม่สามารถวิ่งผ่านได้ขณะที่บรรดาร้านอาหารชื่อดังกว่า 10 ร้านที่มีเมนูปลาหลากหลายชนิดก็ต้องปิดให้บริการโดยปริยายจนกว่าน้ำจะลดเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ด้านเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงระบายน้ำท้ายเขื่อนที่ 2,700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่ อ.สรรพยา ลงไปมีน้ำสูงขึ้น โดยเฉพาะ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเข้าออกหมู่บ้าน หลายครอบครัวหนีน้ำมาอาศัยริมถนนสายคันคลองมหาราช ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนางดำออกถูกน้ำท่วมในตัวอาคารสูงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เจ้าหน้าที่ต้องตั้งเต็นท์ชั่วคราวตรวจรักษาชาวบ้านกันริมถนน นายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนางดำออก เผยว่า ผลพวงจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม ทำให้คันดินกั้นน้ำหมู่ 6 และหมู่ 7 ทรุดตัว ตอนนี้น้ำไหลท่วมพื้นที่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกหลังคาเรือน ตั้งแต่หมู่ 1 ถึงหมู่ 7 เหลือเพียงหมู่ 8 ที่อยู่นอกพื้นที่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 1,500 ครัวเรือนจ.อ่างทอง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตำแหน่ง ผวจ.อ่างทอง พร้อมด้วยนายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง ลงพื้นที่แก้ปัญหาแม่น้ำเจ้าพระยาเซาะพนังกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ เขตเทศบาลตำบลป่าโมก และถนนทางหลวงหมายเลข 33 (ป่าโมก-สุพรรณบุรี) บริเวณเชิงสะพานป่าโมก เจ้าหน้าที่นำบิ๊กแบ็กเร่งอุดรอยรั่วบริเวณสะพานป่าโมก ขณะที่โรงพยาบาลป่าโมก ที่ถูกน้ำไหลท่วมหน้าตึกกายภาพบำบัดเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาเวชภัณฑ์ไปไว้บนที่สูง และทำแนวคันดินกั้นบริเวณโรงพยาบาลที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านในชุมชนหัวแหลม หมู่ 4 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบน้ำไหลท่วมบ้านเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้และหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ถนนหนทางและบ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้บาดาล นางสาวน้ำอ้อย ปรีชา อายุ 64 ปี ชาวบ้านผู้ประสบภัยเผยว่า น้ำท่วมบ้านมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งก่อนเพิ่งจะลดไปได้ไม่นานและได้เข้าไปทำความสะอาดล้างขัดบ้านเตรียมจะซ่อมทาสีใหม่แต่ก็มาถูกน้ำท่วมอีกครั้ง รอบนี้น้ำเยอะมากและมาเร็วรู้สึกเหนื่อยและท้อมาก ลำพังเงิน 9,000 บาท ที่ได้รับเยียวยาคงไม่คุ้มกับค่าซ่อมหน้าต่างประตูและกระจกที่แตกเสียหาย แต่ก็ต้องทำใจยอมรับเพราะรัฐบาลให้ได้แค่นี้จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปทุมธานีเร่งเสริมแนวกระสอบทรายริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณใต้สะพานปทุมธานี 1 ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี ไปถึงสวนเทพปทุม ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่ปิดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชน แหล่งธุรกิจที่สำคัญและเป็นสถานที่ตั้งหน่วยงานราชการต่างๆ ส่วนอ.สามโคก ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วม ต.คลองควาย และ ต.บางกระบือ นายศรัณย์ เกตุทอง นายอำเภอสามโคก ร่วมกับ พ.ต.อ.เทพฤทธิ์ ชาวนาวิก ผกก.สภ.สามโคก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่นำรถยนต์และทรัพย์สินหนีน้ำมาไว้บนถนน กำชับสายตรวจดูแลสอดส่องมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำเติมทุกข์ประชาชน ด้าน จ.นนทบุรี หลังเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำในอัตรา 2,700 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมบริเวณลานเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรีเร่งนำกระสอบทรายไปวางเสริมแนวคันกั้นน้ำ เพื่อเพิ่มความสูงของแนวคันกั้นน้ำตามจุดต่ำและพื้นที่เสี่ยง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนชั้นใน พร้อมทั้งเฝ้าระวังตามแนวคันกั้นน้ำติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระยะทางยาว 10 กม. ตลอด 24 ชม.ส่วน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เกิดน้ำทะเลหนุนท่วมถนนหลายสาย ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า โดยเฉพาะถนนสาย 303 ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล ตั้งแต่สามแยกพระสมุทรเจดีย์ไปถึงตลาดกรอกถั่วงอก มีน้ำท่วมมิดทั้งถนนระยะทางกว่า 3 กม. กลายเป็นคลองขนาดใหญ่ บางจุดน้ำสูง 70-90 ซม. เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่าและทหารเรือได้นำรถยนต์ขนาดใหญ่มาวิ่งบริการประชาชนที่สัญจรไปมา มีตำรวจจราจร สภ.พระสมุทรเจดีย์ คอยอำนวยความสะดวก และแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว เนื่องจากตามประกาศกรมอุทกศาสตร์แจ้งว่าวันที่ 9 พ.ย.น้ำทะเลจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.60 เมตรเช่นเดียวกันตลาดแม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมหนักจากปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้แม่น้ำแม่กลองเอ่อท่วมพื้นที่เศรษฐกิจริมแม่น้ำ โดยเฉพาะบริเวณตลาดและถนนเพชรสมุทร น้ำสูง 30-40 ซม. ทะลักเข้า บ้านเรือนประชาชน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ต้องปิดถนนเพชรสมุทรเพื่อป้องกันอันตรายพร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร นายนารเมธ ลักคนาศิริ รองนายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม เผยว่า น้ำทะเลหนุนท่วมตลาดแม่กลองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ปีนี้หนุนสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ได้เตรียมกระสอบทรายกว่า 5,000 ถุง ไว้แจกจ่ายประชาชนและติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 5 ตัว เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดด้านกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่องพายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 19 ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “คัลแมกี” (KALMAEGI) ปกคลุมบริเวณด้านตะวันตกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่างและจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือในระยะต่อไปจากอิทธิพลดังกล่าวส่งผลให้ช่วงวันที่ 8-9 พ.ย.บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่มและพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่