เข้าสู่สนามพระ อาทิตย์แรกของเดือน ๑๑ ซึ่งรู้สึกว่าวันเวลาผ่านไปเร็วมาก อีก ๒ เดือนเราก็จะหมดปีกันแล้วบรรยากาศของเมืองไทยตอนนี้ก็อยู่ในความเศร้าอาลัย จากการสิ้นพระชนม์ของ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ด้วยพระชนมพรรษา ๙๓ พรรษา ช่วงนี้จึงมีประชาชนไปถวายความอาลัยตามจุดที่รัฐบาลจัดให้ลงนามในสนามพระต่างๆ ทั้งเซียนและลูกค้าก็แต่งกายสีไว้ทุกข์ ขาวๆ ดำๆ และสีเข้ม อย่างพร้อมเพรียง ก็เลยมีการถามว่า “สมเด็จพระพันปีหลวง” ทรงสร้าง พระเครื่อง ไว้บ้างหรือไม่ก็ขอตอบว่า มีอยู่รุ่นหนึ่ง ที่น่าจะพูดได้ว่าเป็นพระของ สมเด็จพระพันปีหลวง คือ พระสมเด็จนางพญา สก. ปี ๒๕๓๕ จัดสร้างเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ (พระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ วัดถ้ำสิงโตทอง ราชบุรี ของ หลวงปู่โต๊ะโดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ตามที่ประธานจัดสร้าง ศ.ดร.อุกฤษ และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน กราบบังคมทูลเชิญ เป็นพระดี พิธีใหญ่ ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใส่ สก. พระนามาภิไธยย่อของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่องค์พระ ซึ่งทำพิธีพุทธาภิเษก ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ๑๕ วัด รวมพุทธาภิเษก ๑๖ ครั้งพระสมเด็จนางพญา สก. มี ๒ ชนิด ได้แก่ พระพิมพ์ เนื้อผง มี ๗ สี และ พระสมเด็จนางพญา สก. เนื้อทองคำ แบบหนัก ๒ สลึง ๑๗,๕๐๐ องค์ และ ๑ บาท ๗,๕๐๐ องค์ ใครมีไว้ก็โชคดี เพราะทองก็แพง และเป็นพระที่ “ในหลวง ร.๙–พระราชินี” เสด็จฯในพิธีด้วย พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ (ชำรุด) วัดระฆังฯ ของเฮียเปี้ย ท่าพระจันทร์.ส่วนสนามพระของเราวันนี้ เปิดตัวกันด้วย พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ของ เฮียเปี้ย ท่าพระจันทร์ พอเห็นก็ดีใจ เพราะพระงาม ฟอร์มทรงสมส่วน พิมพ์พระที่ติดชัดลึกเสมอกัน ผิวเนื้อที่เนียนตา เนื้อในที่อุดมด้วยมวลสาร ครบสูตรแบบ “เนื้อจัด” คุณภาพองค์รวมระดับแชมป์ สำคัญสุดเป็นองค์ “หน้าใหม่” ของสนามแต่พอว่า “ชำรุด” ก็เสียดาย แต่ส่องดูก็ยังไม่รู้ว่าชำรุดตรงไหน เพราะซ่อมไว้เรียบร้อย ต้องดูฟิล์มจึงเห็นเส้นรอยแตกร้าวยาวผ่านองค์แบบเป็นเนื้อเดียวกัน เส้นสายลายศิลป์ เนื้อเดิมยังอยู่ครบสมบูรณ์ พิมพ์พระดูชัดลึกโดยเฉพาะเส้นซุ้ม “ผ่าหวาย” ที่ใช้เป็น “องค์ครู” ได้สบายๆ พระขุนแผน แตงกวาผ่าซีก กรุวัดพระรูป ของสมชาย สัญญรัตน์.องค์ที่สอง เป็น พระขุนแผน แตงกวาผ่าซีก วัดพระรูป อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระกรุ-พระเก่า ต้นสกุล “พระขุนแผน” เมืองสุพรรณฯ ที่มีกรุพระเครื่องมากสุดเป็นอันดับต้นๆ ของแผ่นดินค้นพบในพื้นที่ทั่วอาณาเขตวัดพระรูป ที่มีประวัติกำเนิดมาแต่สมัยอู่ทอง เป็นวัดเก่าแก่ ผ่านความเจริญรุ่งเรือง ความเสื่อม กลายเป็นวัดร้างมาหลายครั้ง โบราณสถาน-วัตถุในวัด มีทั้งที่เป็นพุทธศิลป์สมัยทวารวดี องค์พระเจดีย์สมัยอู่ทอง รอยพระพุทธบาท ไม้จำหลัก กับพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางไสยาสน์ พุทธศิลป์สมัยอู่ทอง ฝีมือช่างชั้นครู เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติพระเครื่องที่พบใน กรุวัดพระรูป ได้ชื่อเป็นต้นสกุลพระขุนแผน ด้วยอายุพุทธศิลป์สมัยอู่ทอง มีทั้งเนื้อดินหยาบ-ละเอียด พุทธลักษณะเป็นพระพิมพ์รูปทรงกลมรีแนวตั้ง ด้านหน้าเป็นองค์พระประธานนั่งปางมารวิชัย พระพักตร์ยาว อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว อย่าง “พระยอดขุนพล” ด้านหลังมีเนื้ออูมนูนเรียบ แยกพิมพ์ได้เป็น พิมพ์ใหญ่ (ไข่ผ่าซีก)กับพิมพ์เล็ก (แตงกวาผ่าซีก) อย่างองค์ในภาพนี้ของ เสี่ยสมชาย สัญญรัตน์ เป็นพระงาม สมบูรณ์เดิมๆ ที่หายากมาก อานุภาพพุทธคุณเลื่องลือ ทั้งด้านคุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม เสริมอำนาจวาสนา ตามนาม “ขุนแผน” นักรบ นักรักในวรรณคดี พระนางพญา พิมพ์เทวดา วัดนางพญา ของชอบชาญ ซอประเสริฐ.อีกองค์เป็น พระนางพญา พิมพ์เทวดา วัดนางพญา พิษณุโลก ของ เสี่ยชอบชาญ ซอประเสริฐพระสภาพโชว์ได้ ใช้ดี ผิวมีริ้วรอยสัมผัสใช้ เปิดเห็นเนื้อใน ที่อัดแน่นด้วยมวลสารว่านยา เม็ดกรวด เม็ดทราย คราบฝ้ารากรุ ครบสูตรมาตรฐานแบบ “พระเนื้อจัด” เป็นพระแท้ทุกอณู ดูง่ายสัมผัสได้ถึงพลังความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันยากจะหาพบครบเครื่องแบบนี้ พระปิดตากรมหลวง เสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชวังนางเลิ้ง ของ Mr.Zhang Kaida.องค์ที่สี่ เป็น พระปิดตากรมหลวง เนื้อผงคลุกรัก เสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ วังนางเลิ้ง กรุงเทพฯ สุดยอดพระพิมพ์ปิดตาหมายเลข ๑ ชุดจิ๋วแต่แจ๋ว เป็นพระที่ หลวงปู่ศุข เกสโร พระอาจารย์ของ เสด็จกรมหลวงชุมพรฯ สร้างด้วยเนื้อผงพุทธคุณคลุกรัก เพื่อมอบเจ้านายในพิธีวันเกิด ณ วังนางเลิ้งเป็นพระพิมพ์เนื้อผงดำ รูปทรงสามเหลี่ยมมุมตัด ขนาด “จิ๋ว” เทียบได้กับเม็ดยาอม “ยินตัน” แต่ราคาสูงถึงหลักล้าน และหายากกว่าเงิน โดยเฉพาะองค์งามๆ ดูง่ายๆ สภาพสมบูรณ์เดิมๆ รักทองบอกอายุถึงยุคแบบองค์นี้ของ Mr.Zhang Kaida ที่มีรสนิยมในการเล่นพระ “ชั้นเซียน” เหรียญ ๗ รอบ พ.ศ.๒๕๑๙ เนื้อทองคำ หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน ของตั้ม สระบุรี.องค์ที่ห้า คือ เหรียญ ๗ รอบ เนื้อทองคำ พิมพ์ใหญ่ พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงพ่อย้อย ปุญญมี วัดอัมพวัน จ.สระบุรี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็น “พระแท้” วิชาอาคมเข้มขลัง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองสระบุรีพระเครื่อง ของขลังท่านได้รับความนิยมแพร่หลาย แต่หายาก อย่างเหรียญรุ่นแรกๆ ที่สร้างทันอายุ โดยเฉพาะเนื้อทองคำ ที่สร้างจำกัด อย่างเหรียญนี้ของ เสี่ยตั้ม สระบุรี--เป็นเหรียญสร้างออกคราวงานบุญฉลองอายุ ๗ รอบ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ ซึ่งมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ตามคำที่หลวงพ่อตั้งใจให้พรว่า “ให้ลาภ คุ้มภัย” พระราหูกะลาตาเดียวแกะ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ของ เพชร อิทธิ.สุดท้าย เป็น พระราหู กะลาตาเดียวแกะ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ๑ ใน ๕ เครื่องรางยอดนิยม ที่สายตรงขาดไม่ได้ชิ้นนี้ของ เสี่ยเพชร อิทธิ มีสภาพงามแชมป์สมบูรณ์ โดดเด่นเดิมๆ สัมผัสได้ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อถือได้ด้านหนุนนำดวงชะตา วาสนา บารมีให้เจริญรุ่งเรืองลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ซึ่งนักนิยมพระมืออาชีพไปชุมนุมกันในศูนย์พระใหญ่ ซึ่งต่างมีความกังวลว่าวงการพระเงียบเหงา การซื้อ-ขายน้อยลงมาก หลายคนคิดไปว่าจะเกิดเหตุ “ตลาดวาย” ไหมแต่ เฮียเจ้าของร้านแย้งว่า เป็นไปไม่ได้ที่ตลาดพระจะพัง เพราะคนไทยมีพระเครื่องอยู่ในสายเลือด ยังไงก็ต้องกลับมาคึกคัก ซื้อง่ายขายคล่องเหมือนเดิมแน่ และวิเคราะห์ว่า ที่การซื้อขายซบเซา เพราะบ้านเมืองมีทั้งปัญหาทั้งเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน ดังนั้น พวกเราต้องปรับตัว โดยต้องตัดใจ ลดราคาพระ รับสถานการณ์ไปก่อน จะได้มีการซื้อขายหมุนเวียนพูดจบก็ตบท้ายว่า ใครไม่เชื่อ มีพระหลักล้านองค์งามๆ แท้ดูง่าย ถ้ามาขายหลักหมื่น เฮียยินดีรับซื้อไม่อั้น เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม