ในหนังสือ คนไทยไม่ใช่คนไท แต่เป็นเครือญาติชาติภาษา ศาสตราจารย์ เจีย แยนจอง เล่าถึงกลองมโหระทึก ที่เผ่าฮั่นยึดได้หลังโจมตีชนเผ่าจ้วง ว่า นอกจากมีจำนวนมากแล้วใบหนึ่งที่ใหญ่ที่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ถึง 3 เมตร แต่ที่พิเศษยิ่งกว่า เสียงที่ดังจากการตีแต่ละครั้งฟังเหมือนเสียงจระเข้แม่น้ำแยงซีเกียงร้องกลองสำริด หล่อได้ใหญ่ถึงขนาดนั้น ก็ว่าน่าพิศวงแล้ว แต่เสียงตี ที่ว่าเหมือนเสียงจระเข้าร้อง นั่นซี!คนอ่านรุ่นผมตั้งข้อสงสัย ข้อแรก เสียงจระเข้ร้องเป็นไง? คนไม่เคยเลี้ยงคงไม่รู้อยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นจระเข้แม่น้ำแยงซีเกียง...เออ หนอ! มนุษย์ช่างตามไปสู่รู้ ว่าต่างจากเสียงจระเข้แม่น้ำอื่นผมเอากระดาษคั่น...หน้าข้อความนี้ไว้ ตั้งใจจะไปหาความรู้ต่อแต่ความรู้ที่ได้ต่อจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ กุสุมา รักษมณี ท่านเขียนไว้ในหนังสือ เฟซบุ๊กกุสุมา 80 กลายเป็นเรื่อง “น้ำตาจระเข้” อาจารย์บอกไว้ว่า จระเข้นั้น ตอนมันกินคนไป มันก็ร้องไห้ไปคนไทยที่อุตส่าห์แอบไปเห็น จึงเอามาใช้เป็นสำนวน น้ำตาจระเข้ เหมือนน้ำตาคนตอแหล แสร้งร้องไห้ความรู้แบบครู นี่ไม่ใช่จะหาได้ง่ายนัก อาจารย์กุสุมายังให้ความรู้เรื่องเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักกันแล้ว...คือจ้องหน่องอาจารย์เล่าว่า พอได้ยินคำว่า “จ้องหน่อง” ก็คิดถึงคุณย่าขึ้นมาทันที 70 กว่าปีมาแล้ว ได้ยินคุณย่าร้องเพลงกล่อมน้องเล็กๆ อยู่บ่อยๆ “ชาววังเค้านั่งในห้อง ชักจ้องหน่อง ก็ดังโน้งเหน่ง”อาจารย์กุสุมาไม่เคยรู้ ไม่เคยสงสัย จ้องหน่องเป็นอย่างไร? แต่ติดใจทำนองเอื้อนของคุญย่าจนจำติดหูมาทุกวันนี้ คุณย่าจะเอื้อนเสียงคำท้าย“โ..น้..ง..ง เ ..หน่..ง ง” รู้สึกได้ว่า เป็นเสียงเครื่องดนตรีเพราะดีเด็กๆคงหลับเพราะเสียงนี้แหละ ไม่ต้องรู้ความหมายหรอกส่วนผมนั้น...วาสนาที่เรียนมาน้อย...แต่มีแม่ดี แม่เรียนจบ ป.3 แต่คงเคยเรียนหนังสือเล่ม...ก.ข.และ ก.กามา เจอวางขายบนทางเท้า ตลาดแม่กลอง ราคาเดียวกับหนังสือพระอภัยมณี หน้าวัดเกาะ...ที่ปกเขียนว่า บาทขาดราคาเชิญมาซื้อ...แม่ก็ซื้อติดมือมากับหนังสือเสือใบ เสือดำ ป.อินทปาลิต แต่งมาให้ผมฝึกอ่านตอนนั้นเรียนชั้น ป.เตรียม ผสม ก.อะ กะ ก.อา กา ได้คล่องแล้วจำได้ดีถึงวันนี้ ตอนผสมตัวสะกด แม่กง ที่ขึ้นต้น ขึ้นกงดูจงแจ้ง ลูกมะแว้งแตงฟักทอง ลูกตำลึงแลหนึ่งสอง ไม้ตะบองและตะบึง...แต่ที่เร้าใจ คาใจ ก็คือ ตอน ชาววังนั่งในห้อง ชักจ้องหน่องดังโหน่งเหน่ง...จำได้ก็จริง แต่ก็ไม่รู้มาจนถึงวันนี้ เครื่องดนตรี จ้องหน่อง เป็นไง!อาจารย์กุสุมาบันทึกเรื่องนี้ไว้ เมื่อ 15 ก.พ.2553 เมื่อวานนี้ ไปประชุมชำระพจนานุกรมฯ มีคำอธิบายศัพท์ จ้องหน่อง เครื่องทำให้เกิดเสียงเป็นเพลงใช้ปากคาบแล้วกระตุกหรือชักด้วยเชือกให้สั่นดังเป็นเสียงดนตรี...อ้อ! เป็นอันว่า ผมรู้แล้ว จ้องหน่องเนื้อตัวหน้าตาเป็นยังงี้...แต่ที่ยังไม่รู้ต่อไป ก็คือเสียงที่ดัง โน้ง เหน่ง...นั้น เสียงจากเครื่องดนตรี เป็นอย่างไร?ถ้าเทียบกับเสียงจระเข้แม่น้ำแยงซีเกียงร้องแล้วก็ยังดีกว่า เพราะมีตัวหนังสือให้พอมโนตาม โหน่ง หรือ โน้ง เหน่ง...อย่างน้อย ก็ร้องตามได้ก็แล้วกันแต่คำที่พอมโนตามได้ก็น้ำตาจระเข้...ล่ะครับ...เห็นตัวอย่างจากทีวีแทบทุกวันไอ้หน้าด้าน คนที่รู้กันว่าทั้งโกงทั้งกิน...มันออกมาพูดเต็มปาก รักชาติ รักประชาชน ทำเพื่อประชาชน...ถุย! พูดไม่พอ น้ำตามันยังคลอออกมาได้ไอ้เวร!กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม