ต้องรีบงัดฟอร์มเทพในเวทีโลก เพราะที่ประเดิมออกงานใหญ่เจรจาความมั่นคง ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” เหมือนจะรับเละ ปิดจบเส้นทางสู่สันติภาพกับเพื่อนบ้านก็จริง แต่มีเรื่องร้อนที่ตามมากระหึ่มส่วนสำคัญเพราะรัฐบาลไม่บอกกล่าว ไปงุบงิบมุบมิบลงนาม “เอ็มโอยู แร่หายาก” เปิดช่องยกแผ่นดิน ทรัพยากร ให้มหาอำนาจฮุบผลประโยชน์มีผลกระทบสารพัดหนำซ้ำเรื่องการทำข้อตกลงการค้า แลกอัตราภาษีของสหรัฐฯ จะคุ้ม–ไม่คุ้ม กับผลกระทบเศรษฐกิจไทย สินค้าไทย และทุกภาคส่วนในประเทศแต่ที่แน่นอนเจอยิงคำถามชุดนี้ ทำผู้นำอึกอักแบบที่ไม่ค่อยเห็นหมดมุก “อนุทิน เชิญยิ้ม” ไปชั่วขณะแล้วสไตล์ก็คงทดแทนกันไม่ได้ กรณีที่ “หลังบ้าน” จะมารับไม้ต่อ เล่นมุกหยอกนักข่าวจนถูกมองว่าคุกคาม ในห้วงกำลังถูกจับตาคิวแฉโพย เกมคุมสื่อคอนโทรลกระแสปมร้อนๆ ของค่ายสีน้ำเงิน ยังไม่ “เจือ” ยังไม่ “จาง”ฉะนั้น เมื่อถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ตามมา การประชุมเอเปกที่ประเทศเกาหลีใต้ ผู้นำประเทศไทยเหมือนได้โอกาสแก้มือ เลยฮึดฟอร์มสดโอกาสดีไม่ได้มาบ่อย เมื่อชาติเจ้าภาพเชิญร่วมโต๊ะกับ 8 ผู้นำประเทศ “นายกฯอนุทิน” ไม่ทิ้งขว้างเวลาดีนาทีทอง เสร็จดินเนอร์ปรี่เข้าไปประชิดตัว เปิดเจรจานอกรอบกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯทันทีโชว์ลีลาการทูตแบบตีซี้ ขอลดอัตราภาษีการค้าของประเทศไทยกับภาพที่เห็นก็ถือว่าสัญญาณดี ผู้นำสหรัฐฯเช็กแฮนด์ชื่นมื่น แต่ก็มีข่าวรายงานตามมา เซลส์แมนโลกเจ้าเล่ห์ เรื่องของฟรีไม่มีในโลกอยู่แล้ว “ยูจะเอาอะไรมาแลก”นั่นก็เป็นโจทย์ให้ “อนุทิน” ต้องทำการบ้านหนัก โดยไม่ผลีผลามเพราะคนดูข้างเวทีจับจ้องกันอยู่กระนั้นก็ดี เมื่อ “นายกฯอนุทิน” ทำดีก็ต้องปรบมือตีมือ ให้เครดิตสำหรับคิวนี้ เมื่อภาพ “งานภายนอก” เจรจาความเมือง เริ่มเห็นแววสุกใสสกาววาว โวเป็นผู้นำอินเตอร์ได้เหมือนกันแต่เมื่อข้างนอกสุกใส ในประเทศก็อย่าเป็นโพรงจน “เน่าใน”โดยเฉพาะปมร้อนที่กำลังลาม “ทุนเทา” ระบาดหนักในบ้านเมือง ถึงขั้นแผ่อิทธิพลครอบคลุมทุกภาคส่วน แม้แต่ “ศูนย์อำนาจ” ทั้งหน่วยงานราชการ ฝ่ายบริหาร-ฝ่ายนิติบัญญัติ มีการปล่อยกระแส เปิดชื่อย่อ ตั้งข้อสงสัยความเกี่ยวโยงกับแก๊งมิจฉาชีพข้ามชาติ สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามเมือง เข้ามาประเทศไทยใกล้กลายเป็นอีก“ศูนย์กลางโจรเทา” เข้าไปทุกทีฉะนั้น เมื่อเสียโอกาสจากคิวประชุมสู่สันติภาพ ต่อด้วยประชุมอาเซียนที่มาเลเซีย และประชุมผู้นำเอเปกที่เกาหลีใต้ ที่น่าเสียดาย ผู้นำประเทศไทยไม่ใช้เป็นโอกาส ยกปมปราบ “โจรของโลก” ให้เป็นวาระเบิ้มๆที่เห็นก็แค่เสนอเป็นวาระร่วมอาเซียน ปราบสแกมเมอร์จิ๊บจ้อย“อนุทิน”ต้องดันต่อให้บึ้มกระหึ่มโลกเพราะที่ผ่านมา เอาแค่ไม่ซักไซ้ถามชื่อ“นักการเมืองไทยพันแก๊งสแกมเมอร์”จากผู้นำสหรัฐฯ ก็เท่ากับเสียโอกาสจะได้รู้เช่นเห็นชาติ ไม่มีช่องล็อกจุดอ่อน กำจัดจุดเสี่ยงเพิ่มเติมวันนี้เลยปล่อยให้ฝ่ายค้านค่ายส้ม “รังสิมันต์ โรม”สส.พรรคประชาชน ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนฯ และพรรคพวก ต้องเหนื่อยตรวจสอบไล่สาวเส้นเงิน โยงเส้นโจรกันเป็นรายวันฉะนั้น ถ้าหาก“นายกฯอนุทิน” ไม่อยากให้เครดิตประเทศต้องเน่าเฟะ ควรต้องร่วมมือล้างบางเรื่องนี้อย่างน้อยต้องส่งสัญญาณ เปิดทาง ขยับกลไกรัฐกวาดล้างก่อนบ้านเมืองพังพินาศ เพราะ“ทุนโจรเทา”คลุมเมือง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม