หลังจากสำนักพระราชวังประกาศให้ประชาชนได้ทราบถึงการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมแล้ว... ต่อมาก็มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมจัดพระราชพิธีให้สมพระเกียรติ รวมทั้งวางกำหนดข้อปฏิบัติโดยทั่วๆไป ทั้งของฝ่ายราชการและประชาชน เพื่อความเหมาะสม โดยสรุปดังนี้ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไปให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไปสำหรับ ประชาชน ทั่วไป และ ภาคเอกชน ขอให้พิจารณาดำเนินการ ตามความเหมาะสมพิจารณาจากประกาศของทางรัฐบาลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่า มีความชัดเจนทุกประการว่าจะทำอย่างไร? ระยะเวลาเท่าใด? เฉพาะในส่วนของข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจเท่านั้น เพราะถือว่าข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ เป็นกลไกของรัฐบาลโดยตรง ในขณะที่ คำว่า “ราชการ” ก็แปลว่าภารกิจ หรืองานของ “พระราชา” อยู่แล้วแต่ในส่วนของภาคเอกชน และประชาชนนั้น มิได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลจะมาออกคำสั่งอย่างโน้นอย่างนี้จึงอาจจะดูไม่เหมาะสมนัก ท่านจึงใช้คำว่า “ขอความร่วมมือ” กับขอให้ปรับรูปแบบให้ “เหมาะสม” เอาไว้อย่างกว้างๆช่วงนี้ภาคเอกชน และภาคประชาชนจะมีการจัดงานรื่นเริงเยอะแยะมาก เพราะย่างเข้าสู่เทศกาลแห่งการท่องเที่ยว และการจัดงานใหญ่ตามประเพณีดั้งเดิม...งานแรกที่รออยู่ ก็กิจกรรม “ลอยกระทง” ซึ่งเป็นกิจกรรมตามวัฒนธรรมประเพณี ที่ระยะหลังมีการฟื้นฟูและโหมประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมงานอันยิ่งใหญ่งานนี้กับคนไทยอย่างกรณีจังหวัดสุโขทัยก็จะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้แล้ว ที่เรียกว่า งาน “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” ซึ่งจัดยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากในแต่ละปีรวมทั้งจังหวัดอื่นๆที่จะทยอยตามมา และตามแผนเดิม ส่วนมากก็จะทุ่มเทจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้ากันทั่วประเทศหรือแม้แต่งาน “วิจิตรเจ้าพระยา 2568” ที่จะจัดอย่างอลังการริมฝั่งเจ้าพระยาถึง 45 วัน โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชนทุกๆงานเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างมาก และทุกวันนี้นักท่องเที่ยวก็เริ่มหวนกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกแล้ว แน่นขนัดไปทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และเชื่อว่าจะหลั่งไหลเข้ามาอีกในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึง...ทอดยาวไปถึงเทศกาลปีใหม่ทุกๆงานมีการวางแผนล่วงหน้า และมีการลงทุนลงรอนไปบ้างแล้ว จึงมีคำถามและคำปรึกษาหารือในหมู่ภาคเอกชนว่าจะทำอย่างไรดี จึงจะถือว่า “เหมาะสม” ตามที่รัฐบาลแถลงไว้ผมก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิดว่า สำหรับการแสดงแสงสีเสียงนั้น ที่เตรียมการอย่างเอิกเกริกไว้แล้ว ก็ว่ากันไป...แต่หากจะมีการจัดเตรียมเพิ่มเติม เพื่อแสดงความรักความอาลัย ก่อนการแสดงชุดใหญ่จะเริ่ม เช่นเดียวกับการแสดงในระดับโลก เมื่อเกิดมีกรณีทุกข์โศกขึ้น เขาก็จะขอเวลาไว้อาลัยก่อน หรือยืนสงบชั่วครู่หนึ่ง...ก็น่าจะพอรับได้ และนักท่องเที่ยวก็คงเข้าใจส่วนที่เป็นการบันเทิง หรือบริการสนุกสนานต่างๆ หากอยู่ในขอบเขตไม่เลยเถิดเกินไป ไม่อุจาดบาดตาเกินไป ก็น่าจะถือได้ว่าเป็นความเหมาะสมอีกประการหนึ่งผมเห็นด้วยกับคำขอร้องของรัฐบาลในประเด็นที่ว่า ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรักษาบรรยากาศแห่งความสงบเรียบร้อย เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ว่าไปแล้วเราก็ผ่านเหตุการณ์แห่งความทุกข์ความเศร้าโศกในลักษณะคล้ายๆกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเราก็ผ่านมาด้วยดี และทางด้านการท่องเที่ยวก็มิได้เสียหายอะไรเลยหวังว่าครั้งนี้ก็คงจะ “บริหาร” และ “จัดการ” ให้ผ่านไปได้ด้วยดีอีกครั้งหนึ่งนะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม