ร่าง “สนธยา อัครศรี” เหยื่อตัวประกันฮามาสกลับถึงมาตุภูมิแล้ว หลังถูกยิงเสียชีวิตและนำร่างไปไว้ในฉนวนกาซากว่า 2 ปีรมว.แรงงาน “ตรีนุช เทียนทอง” นำทีมไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนส่งให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด จ.หนองบัวลำภู ยันรัฐพร้อมเยียวยาครอบครัวเต็มที่ เผยยังเหลือเหยื่อรายสุดท้ายหนุ่มแรงงานชาวหนองคายที่อิสราเอลแจ้งเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่พบร่าง ด้านพ่อแม่สุดเศร้าเฝ้ารอรับศพลูกชายกลับสู่แผ่นดินเกิดหนุ่มแรงงานชาวหนองบัวลำภูที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและยิงเสียชีวิตในอิสราเอลนานกว่า 2 ปี กลับถึงบ้านเกิดแล้ว เมื่อเย็นวันที่ 23 ต.ค.ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงานนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และ ดร.อโลนา ฟิชเชอร์-คัมม์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ไปรอรับร่างนายสนธยา อัครศรี อายุ 30 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู ที่ไปทำงานประเทศอิสราเอล ก่อนถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและยิงเสียชีวิตเหตุความไม่สงบในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 และถูกนำไปเก็บไว้ในฉนวนกาซานานกว่า 2 ปีทั้งนี้ร่างนายสนธยาเดินทางมากับสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY083 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 16.35 น. หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ เจ้าหน้าที่นำร่างที่บรรจุในโลงไม้เคลื่อนมาตั้งทำพิธี เพื่อแสดงความอาลัยบริเวณอาคารคลังสินค้าในเวลา 17.30 น. มี น.ส.ตรีนุช และคณะร่วมวางพวงหรีดและยืนไว้อาลัย 1 นาที ก่อนเคลื่อนร่างขึ้นรถตู้สุริยาหีบศพออกเดินทางกลับภูมิลำเนา จ.หนองบัวลำภูน.ส.ตรีนุชกล่าวว่า เป็นอีกวันหนึ่งที่รู้สึกเศร้ากับการสูญเสียพี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ แต่ไม่สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยขณะยังมีลมหายใจ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอัครศรี ขอให้กำลังใจคุณพ่อและคุณแม่และลูกสาวนายสนธยาที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก รัฐบาลจะดูแลการเยียวยาและสิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างเต็มที่ เช่น เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล หลังจากที่ได้รับร่างกลับมา มีเงินช่วยเหลือค่าชดเชยการไว้ทุกข์ประมาณ 80,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ จ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท เงินชดเชยรายเดือน 80,000-120,000 บาท เงินช่วยเหลือประจำปี 40,000 บาท เงินช่วยเหลืออื่นๆ เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร เงินช่วยเหลือทางจิตวิทยา อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้มีเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้างเรียกว่าปิซูอิม อยู่ระหว่างขอรับเอกสารที่เกี่ยวข้องจากทายาทรมว.แรงงานกล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้จ่ายเงินสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของกรมการจัดหางาน กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศให้กับครอบครัวไปเรียบร้อยแล้วจำนวน 40,000 บาท การช่วยเหลือในส่วนของสำนักงานประกันสังคมที่เป็นเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพให้กับทายาทอีกจำนวน 10,042 บาท รวมถึงเงินช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินสำหรับครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลในส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อีกจำนวน 3,000 บาทน.ส.ตรีนุชกล่าวด้วยว่า สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสวันที่ 7 ต.ค.2566 รวมทั้งสิ้น 42 ราย ส่งร่างกลับประเทศไทยแล้ว 41 ราย ส่วนอีก 1 ราย คือ นายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ทางการอิสราเอลยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่พบร่าง ขณะนี้มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในอิสราเอล 40,461 คน ส่วนใหญ่ทำงานภาคเกษตรกว่า 31,786 คน ก่อสร้างกว่า 6,307 คน ภาคอุตสาหกรรม 508 คน ภาคบริการ 1,830 คน และอื่นๆอีก 30 คนส่วนบรรยากาศที่บ้านโคกม่วย หมู่ 3 ต.บ้านพร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู ญาติต่างเฝ้ารอการกลับมาของนายสนธยา เหยื่อตัวประกันกลุ่มฮามาส แม้ความหวังที่อยากให้กลับมาตัวเป็นๆจะหายไป หลังทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ไม่กี่วันที่ผ่านมาแจ้งเรื่องศพนายสนธยา อย่างไรก็ตาม ทุกคนในครอบครัวทั้งดีใจและเสียใจไปพร้อมๆกัน ดีใจที่จะได้ศพกลับบ้านและเสียใจนายสนธยาต้องจากไปนายนิพนธ์ อัครศรี และนางอมร อัครศรี พ่อแม่นายสนธยา เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่าตลอดเวลาที่ลูกชายถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมเพื่อนแรงงานชาวไทยรวมเวลา 2 ปีกับ 13 วัน ยังมั่นใจเสมอว่าลูกจะกลับมา แม้ปีที่แล้วมีเจ้าหน้าที่มาเก็บดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับศพแรงงานที่พบ แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ลึกๆว่าลูกชายจะไม่เป็นอะไร อีกทั้งกลุ่มแรงงาน จ.หนองบัวลำภู หลายคน ที่อยู่ในแคมป์เดียวกันและถูกจับพร้อมกัน แต่แยกกันอยู่ต่างทยอยกลับมาอย่างมีชีวิตทุกคนก็ยิ่งมีความหวังสูงว่าจะได้ปล่อยตัวเหมือนกัน แต่พอทราบข่าวการรับศพลูกชายกลับเมืองไทย ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมานอนไม่หลับกันเลยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่