เพื่อไทยนัด 31 ต.ค. เลือกหัวหน้าพรรค คนใหม่ สส.เล็ง “จาตุรนต์-จุลพันธ์” รับไม้ต่อ หลัง “แพทองธาร” ไขก๊อกพ้น หน.พรรค “อิ๊งค์” แจงเหตุผลเปิดทาง พท.ยกเครื่องใหม่โดยอิสระ สร้างพรรคให้สมบูรณ์แบบ เพื่อชนะเลือกตั้งมายกเครื่องพลิกฟื้นประเทศไทย ลั่นยังเป็น หน.ครอบครัว พท.สู้ไปกับพรรค “สุริยะ” ปัดขึ้นคุมบังเหียน ยันไม่มีขนคนออก มีแต่จะเติมเข้าให้ครบ 200 ที่นั่ง ฮึ่มฟ้องหมิ่นฯ “ไทกร” ปูดข่าวเท็จ “อนุทิน” ขอบคุณสปิริต “วรภัค” ลาออก ยันไม่ตั้ง รมช.คลังใหม่ โบ้ยไม่ยึดเป็นบรรทัดฐานดูเป็นกรณีไป “โสภณ” มั่นใจไม่กระทบรัฐบาล “ทรงศักดิ์” มั่นใจ ภท.กวาด สส.เกิน 150 ที่นั่ง “วิโรจน์” ขึงขังพร้อมซักฟอกแก๊งสแกมเมอร์ หาก รบ.ไม่ปราบ จริงจังหรือมีเอี่ยวสนับสนุนเครือข่ายโจรออนไลน์พรรคเพื่อไทย (พท.) ประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. รับทราบกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. ระบุเหตุผลต้องการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในพรรค พท.โดยเร็ว เพื่อให้ยกเครื่องพรรคได้โดยอิสระสมบูรณ์แบบ สามารถชนะการเลือกตั้งแล้วไปยกเครื่องพลิกฟื้นประเทศไทยต่อไปพท.ประชุมด่วน “อิ๊งค์” แจ้งลาออกเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการเรียกประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.เพื่อแจ้งถึงการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งแต่ช่วงเช้าแกนนำพรรค อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และ สส.ทยอยเดินทางเข้าร่วมการประชุม โดย น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึงพรรคเวลา 08.35 น. ยิ้มทักทายสื่อมวลชนก่อนขึ้นไปประชุมกับกรรมการบริหารและ สส.ยังเป็น หน.ครอบครัวสู้ไปกับพรรคจากนั้นเวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธารออกแถลงการณ์ว่า เรียนเพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผู้สนับสนุนพรรคและพี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท.ด้วยความตั้งใจเป็นการเริ่มต้นยกเครื่องพรรคตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ กล้าหาญในการเปลี่ยนแปลง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่สังคมโลกเปราะบาง อ่อนไหว คาดเดาได้ยาก ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่สุดในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงพรรค พท.เป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ จำเป็นต้องยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการและวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พรรคชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงพรรค พท.ต้องเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด จึงเลือกการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ และสร้างพรรคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ แม้ลาออกในวันนี้ แต่ยังเป็นสมาชิกพรรค เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และจะร่วมกับพวกเราทุกคน สร้างพรรค พท.ยุคใหม่ ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างประชาชน และทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อประเทศชาติที่รักของเราทุกคน“สุริยะ” ฟ้องหมิ่น “ไทกร” ปั้นข่าวเท็จนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้งพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ตระกูลจึงบีบแพทองธารลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. หากไม่ลาออกจะพา 70 สส. ออกไปอยู่พรรคใหม่” ว่า เป็นข่าวเท็จ สร้างความเสียหายให้ตนและนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองหัวหน้าพรรค พท. ได้ปรึกษากับพรรคแล้วจะตั้งทนายของพรรคฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาท เป็นคดีอาญา จะไม่ยอมความเป็นอันขาด ตนเกิดมาจากพรรคไทยรักไทย ขณะนั้นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรค แต่งตั้งตนเป็นเลขาธิการพรรค หลังจากนั้นเมื่อมาอยู่พรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งให้ตนเป็นรองนายกฯและ รมว.คมนาคม ได้รับความกรุณาจาก น.ส.แพทองธาร เป็นไปไม่ได้ ตนจะพา สส.ไปอยู่ที่อื่น ยืนยันเป็นการใส่ร้าย จะฟ้องร้องจนถึงที่สุด ลั่นไม่มีขนคนออกมีแต่จะเติมเข้านายสุริยะกล่าวอีกว่า คงไม่ได้พา สส.ออกไปไหน แต่จะเอาเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อให้ครบ 200 คน ตามที่เคยประกาศไว้ ที่มีกระแสข่าวที่มีชื่อตนจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ คงไม่รับ ต้องหาคนรุ่นใหม่ อายุมากแล้ว พรรคคงพิจารณาถึงบุคคลเหมาะสมเพื่อจะนำพาพรรคไปสู้ศึกการเลือกตั้ง ไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคพร้อมสนับสนุนแน่นอน เมื่อถามย้ำว่าจะลบภาพตระกูลชินวัตรออกจากพรรค พท.ได้หรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าพรรค พท. ผูกพันกับตระกูลชินวัตร นายทักษิณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมา ประชาชนสนับสนุนมาตลอด ทำเรื่องที่เป็นคุณูปการทั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เราคงปฏิเสธตระกูลชินวัตรไม่ได้ เพราะสร้างคุณูปการให้พรรค แต่ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากนี้พรรคจะหาบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร โดยเป็นคนภายในพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในตระกูลชินวัตรมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค31 ต.ค.เฟ้น หน.ใหม่ “อ๋อย-หนิม” มีลุ้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริหารพรรค พท.ชุดปัจจุบันต้องพ้นตำแหน่งไปด้วย แต่จะรักษาการจนกว่าจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรครักษาการ ได้เลือกนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรองหัวหน้าพรรค พท.ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคไปก่อนจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง โดยกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่แทน น.ส.แพทองธาร และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันที่ 31 ต.ค. เวลา 10.00 น. ยังไม่มีการหารือกันอย่างเป็นทางการว่าจะผลักดันใครขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ที่ สส.พรรค พท.หยิบยกชื่อมาพูดคุยกันมี 2 คน คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ที่โดดเด่นเรื่องหลักการประชาธิปไตยและนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมช.คลัง ที่โดดเด่นการเป็นคนรุ่นใหม่ “ท็อป” โต้ข่าวลือย้ายนั่ง “หน.พท.”ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุม สส.พรรคชาติไทยพัฒนา ครั้งที่ 18/2568 ว่า ได้หารือนัดประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 2 ธ.ค.และจะประชุมใหญ่สามัญประจำปีวันที่ 13 ธ.ค. เตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้ง ติดตามสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน พรรค ชทพ.ที่มี สส.ทั้ง 10 คน ยืนยันพวกเรายังเหนียวแน่น อยู่ร่วมทำงานการเมืองด้วยกัน ที่มีกระแสข่าวลือหลังกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. มีชื่อตนจะไปเป็นหัวหน้าพรรค พท.แทน ต้องให้เกียรติพรรค พท.ด้วย ยืนยันตนยังเป็นหัวหน้าพรรค ชทพ.อยู่ มีข่าวเช่นนี้ออกมาไม่เป็นประโยชน์ต่อใคร ไม่ให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ขอปฏิเสธว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง แต่ละพรรคต่างมีแนวทางและมีข้อบังคับพรรคต้องดำเนินการ ไม่ใช่อยู่ๆจะเอาคนนั้นคนนี้มาเป็นหัวหน้าพรรคได้“อนุทิน” ยังไม่เห็นข่าว “อิ๊งค์” ลาออกเมื่อเวลา 08.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 09.37 น. เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มี พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ที่ปรึกษาของนายกฯ รอต้อนรับ เมื่อเดินทางถึงนายอนุทินรับการแสดงความเคารพ และตรวจแถวกองตำรวจเกียรติยศจำนวน 1 กองร้อยจากนั้นเวลา 11.12 น. นายอนุทินเดินลงมาที่บริเวณชั้น 1 พร้อม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผบ.ตร.ทั้ง 3 คนหยุดยืนพูดคุย 5 นาที ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าได้สั่งการเรื่องสแกมเมอร์อย่างไรบ้าง นายอนุทินชี้ไปที่ ผบ.ตร. พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวให้ท่านพูด ผมมีนัด” ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เห็นข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากหัวหน้าพรรค พท.แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวเพียงสั้นๆว่า ยังเลย ประชุมแต่เช้าขอบคุณสปิริต “วรภัค”ต่อมาเวลา 15.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินให้สัมภาษณ์กรณีนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ลาออก ว่า ยังไม่ได้คุยกัน ได้รับจดหมายชี้แจงจากนายวรภัคมา 3 แผ่น พร้อมชูเอกสารดังกล่าวให้สื่อมวลชนเห็น ก่อนกล่าวว่าเดี๋ยวจะอ่านในรถ เนื่องจากวันที่ 21 ต.ค.ได้แจ้งให้นายวรภัคทำรายงานเข้ามา แต่เมื่อสักครู่ทราบนายวรภัคได้แถลงแจ้งว่าจะลาออกก็เสียดาย เดี๋ยวคงจะโทร.หา แต่ต้องขอบคุณนายวรภัคที่แสดงสปิริต ที่คุยกันวันที่ 21 ต.ค. นายวรภัคไม่ได้ปรารภอะไร เมื่อถามว่ายืนยันไม่ได้กดดันให้นายวรภัคลาออก นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีใครกดดัน นายวรภัคคงคิดถึงภาพรวม รู้จักท่านมาหลายปีเป็นเพื่อนกัน พอเห็นสไตล์การทำงาน เมื่อถามว่าจะกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีรัฐมนตรีมีสปิริต คิดถึงองค์รวม เพราะตอนนี้จะถือว่าท่านมีความผิดก็ไม่ได้ พอมีการกล่าวหาเช่นนี้มาท่านแสดงสปิริตไม่ยึดเป็นบรรทัดฐานดูเป็นกรณีไปเมื่อถามว่าจะแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนนายวรภัค หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ตั้งใคร เวลาเรามีจำกัด 31 ม.ค.69 ยุบสภาเชื่อว่านายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง บริหารงานได้ เราช่วยกันบริหาร เมื่อถามว่ากรณีนายวรภัคจะเป็นบรรทัดฐานให้รัฐมนตรีคนอื่นที่มีข้อครหาแบบนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเรื่อง เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีถูกเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์อีก นายอนุทินตอบว่า ไม่กังวล อย่างที่บอกตอนแต่งตั้งรัฐมนตรี เราตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างแล้ว ถ้าใครมีประวัติถูกดำเนินคดีเราไม่ตั้ง เมื่อถามว่ากังวลจะมีการร้องเรียนตามหลังหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร เมื่อถามย้ำว่าก่อนแต่งตั้งนายวรภัคเป็นรัฐมนตรี มีเสียงทักท้วงหรือไม่ และกังวลจะถูกร้องย้อนหลังหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มีใครทักท้วงและไม่กังวลอะไรผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรภัคส่งข้อความและเหตุผลการลาออกไปยังกลุ่มไลน์ของ ครม.ที่มีนายอนุทินอยู่ในกลุ่มถึงเหตุผลการตัดสินใจ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่ง รมช.คลัง“โสภณ” เชื่อไม่กระทบ รบ.ครบ 4 เดือนนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ลาออกจากตำแหน่งหลังถูกเชื่อมโยงกลุ่มสแกมเมอร์ว่า ไม่มีผลกระทบต่อ ครม. เป็นอำนาจนายกฯบริหารจัดการ เมื่อถามว่า ครม.กดดันให้นายวรภัคลาออกหรือไม่ นายโสภณร้องโอ๊ย แต่ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐบาลนี้อาจยุบสภาก่อนครบ 4 เดือน นายโสภณกล่าวว่า บอกแล้วไม่มีอำนาจพูด เป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า การเมืองธรรมดารัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ธรรมดา รัฐบาลอยู่ได้แน่ ครบ 4 เดือนแน่นอน ถ้าเขาให้อยู่นายกฯยกเลิกพนันไพ่โป๊กเกอร์วันเดียวกัน นายอนุทินในฐานะ รมว.มหาดไทย เซ็นคำสั่งที่ 3179/2568 เรื่องวางหลักเกณฑ์พิจารณาอนุญาตให้เล่นการพนัน สาระสำคัญให้งดการอนุญาตการเล่นพนันไพ่โป๊กเกอร์ หรือไพ่เผโดยเด็ดขาด สืบเนื่องจากนายอนุทินแถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภา มีนโยบายด้านสังคมให้ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ไม่สนับสนุนการประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนันและการพนันที่แฝงมาในรูปกีฬา เช่น โป๊กเกอร์ จึงอาศัยอำนาจมาตรา 17 พ.ร.บ.การพนัน ยกเลิกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 2253/2568 และให้งดการอนุญาตโดยเด็ดขาด มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจ่อบินมาเลย์ถกอาเซียน 25–28 ต.ค.นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า วันที่ 25 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย จะไปเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องในวันที่ 26-28 ต.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย จะร่วมหารือเต็มคณะผลักดันความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ การแก้ปัญหาข้ามแดนและการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน นายกฯจะผลักดัน 4 ประเด็นหลักคือการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค การสร้างภูมิภาคที่มั่นคงปลอดภัย การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน และจะหารือผู้นำสำคัญภายใต้กรอบการประชุมอาเซียน อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และอินเดียภท.มั่นใจกวาด สส.เกิน 150 ที่นั่งเมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช. มหาดไทย แกนนำพรรคภท. พร้อมนายสิริภพ ดวงสอดศรี ผอ.พรรค ภท. นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ สวมเสื้อพรรคต้อนรับ 2 ว่าที่ผู้สมัคร สส.หนองคาย คือ พล.ต.ท.ไพศาล ลือสมบูรณ์ เขต 1 และเขต 2 ทพญ.จิดาภา สุนทรธนากุล เลขานุการ รมช.มหาดไทย โดยนายทรงศักดิ์กล่าวว่า มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า จ.หนองคาย จะได้ยกจังหวัดแน่นอนทั้ง 3 เขต เชื่อว่าพรรค ภท.จะได้เกิน 150 ที่นั่ง ทั้งนี้ พรรค ภท.ได้เปิดตัวนายเจริญ ชลาลัย เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ตราด“ธรรมนัส” ลั่นพร้อม ลต.100 เปอร์เซ็นต์ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. ระบุไทม์ไลน์ยุบสภาอาจเร็วขึ้นกว่าเดิม หากมีปัจจัยแทรกว่าไม่มั่นใจความหมายที่นายกฯพูด แต่เราเป็นนักการเมืองเราพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ มีตัวแทนแต่ละจังหวัดแต่ละเขตครบ และพร้อมส่งผู้สมัครทั้ง 400 เขต เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค พท. ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทราบข่าว แต่ไม่ทราบสาระสำคัญ เราดูแลพรรคเราให้ดี อย่าไปยุ่งพรรคอื่น“วิโรจน์ ”พร้อมซักฟอกแก๊งสแกมเมอร์นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงทิศทางการตรวจสอบการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์และเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ว่า เป็นเรื่องต้องติดตามใกล้ชิด ผลักดันให้รัฐบาลดำเนินมาตรการจริงจังและต่อเนื่อง ตนและนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ติดตามต่อเนื่อง พยายามผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ถึงที่สุด เมื่อถามว่าแนวโน้มใช้มาตรการสภาฯเทียบกับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิโรจน์กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่สามารถชี้แจงได้ โดยเฉพาะเมื่อมีข้อสงสัยว่ามีการเกี่ยวพัน หรือเป็นผู้ร่วมกระทำผิด สนับสนุนการกระทำความผิดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาหาผลประโยชน์และก่อความเสียหายในราชอาณาจักรได้ เป็นเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความชัดเจน ทั้งมิติการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ และการประสานงานกับพันธมิตรระหว่างประเทศ เพื่อยับยั้งแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ปกป้องประชาชนและรักษาชื่อเสียงและความมั่นคงของประเทศ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการกระทำผิดข้ามพรมแดนของเครือข่ายอาชญากรไซเบอร์และการค้ามนุษย์ขยายอุทธรณ์คดี 112 “ทักษิณ” ครั้งที่2 ที่ศาลอาญา ศาลมีคำสั่งอนุญาตขยายอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ยื่นขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ในคดีอาญาหมายเลขแดง อ.2331/2568 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์สื่อทีวีเกาหลีใต้ โดยอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์ถึงวันที่ 21 พ.ย. ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เจ้าของสำนวน ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ศาลอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ 22 ต.ค.ก่อนมาอนุญาตขยายอุทธรณ์ครั้งที่2 อีกครั้ง การจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่อยู่ระหว่างประมวลข้อมูลเสนออัยการสูงสุดพิจารณาต่อไปสั่งไต่สวนพยานบุคคลคดีสอย “อ้วน–ทวี”วันเดียวกัน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณาคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ ตามที่ สว.เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา กล่าวหานายภูมิธรรมและ พ.ต.อ.ทวี แทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบคัดเลือกสว.หรือคดีฮั้ว สว. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าให้มีการไต่สวนพยานบุคคล โดยศาลรัฐธรรมนูญจะกำหนดประเด็นและพยานบุคคลที่จะไต่สวนในการประชุมครั้งต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่