เนื่องในโอกาสที่วัน “นวมินทรมหาราช” รำลึกถึงในหลวง ร.9 เวียนมาบรรจบอีกครั้งในวันนี้ ผมขออนุญาตกราบเรียนเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมกิจกรรม ถวายความอาลัยและรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่มีการจัดขึ้นทั่วประเทศ ดังที่เขียนไว้ใน “คอลัมน์ซอกแซก” เมื่อวานนี้อีกครั้งนะครับพร้อมกับขอชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ตามที่จะมีการ “ถวายพวงมาลา” แด่พระองค์ท่าน ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บริเวณสนามม้านางเลิ้งเก่า) ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 20.00 น. นั้นข่าวล่าสุดแจ้งว่าทาง ขสมก. ได้จัดรถโดยสารเฉพาะกิจให้ “บริการฟรี” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนด้วยนะครับ โดยจะมีรถโดยสารไป-กลับจาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งแต่ 06.00 จนถึง 20.00 น. ตลอดวันนี้นั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานี “อนุสาวรีย์ชัยฯ” เดินเท้าลงมาขึ้นรถโดยสารฟรีของ ขสมก. ไปอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ (สนามม้า นางเลิ้งเก่า) ได้เลยครับสำหรับกิจกรรมสำคัญอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะมีการจัดขึ้นในวันนี้ (13 ตุลาคม 2568) ได้แก่ การเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมบริจาคโลหิตแก่ สภากาชาดไทย ตามสถานที่ต่างๆทั้งที่เปิดรับบริจาคเป็นทางการถาวรอยู่แล้ว กับบริการเฉพาะกิจจากรถรับบริจาคเคลื่อนที่ ที่จะเคลื่อนย้ายไปรับบริจาคถึงชุมชนสำคัญๆขอเรียนยํ้าเพิ่มเติมว่า สำหรับบริการรับบริจาคโลหิตนี้ ถือเป็นโครงการสำคัญโครงหนึ่งของสภากาชาดไทย เพราะนอกจากเดือนตุลาคมจะมีวันสำคัญเพื่อรำลึกถึงรัชกาลที่ 9 นวมินทรมหาราช แล้วยังจะมีวันสำคัญรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 5 พระปิยมหาราช อีกด้วย ในวันที่ 23 ตุลาคมทางสภากาชาดไทยจึงเห็นสมควรรณรงค์ให้เดือนตุลาคม 2568 เป็นเดือนแห่งการบริจาคโลหิตไปตลอดทั้งเดือนสำหรับสถานที่รับบริจาคโลหิตนั้น ผมได้นำลงรายละเอียดในคอลัมน์ซอกแซกเมื่อวานนี้แล้ว...วันนี้ขอเรียนยํ้าสำหรับจุดหลักๆที่ไปง่ายๆเฉพาะใน กทม.ก็แล้วกันได้แก่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ และที่ห้างสรรพสินค้า ในเครือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป อันได้แก่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน, บางกะปิ, ท่าพระ, บางแค และศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ที่มีศูนย์รับบริจาคโลหิตในห้างเหล่านี้มาตั้งแต่เปิดห้างใหม่ๆ และทุกวันนี้ก็ยังเปิดดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นเครือข่าย ภาคเอกชน ที่รับบริจาคโลหิตได้มากที่สุดของประเทศไทยอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมขออนุญาตเน้นในการเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนไปร่วมบริจาคโลหิตเท่าที่สามารถจะบริจาคได้ ทั้งในวันนี้หรือตลอดเดือนตุลาคมนี้ และตลอดทุกๆเดือนต่อไปในภายภาคหน้า ก็เพราะสำนึกในพระคุณของ “โลหิต” ที่มีส่วนอย่างมากในการ “เยียวยา” รักษาอาการป่วยของผมในช่วงหลังๆนี้ล่าสุดเมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมาก็ต้องเข้าอีก เพราะเกิดอาการ Bleeding หรือเลือดไหลไม่หยุดขณะถ่ายอุจจาระ จนคุณหมอต้องให้เลือดแก่ผมติดต่อกันหลายวัน รวมแล้วถึง 7 ถุง มากกว่าทุกครั้งที่เข้าโรงพยาบาลรามาธิบดีด้วยโรคนี้จำได้ว่าลูกๆหลานๆพยาบาลได้มากล่าวในเชิงเชิญชวนด้วยความสุภาพนอบน้อม มิใช่การขู่เข็ญบังคับหรือทวงบุญคุณแต่อย่างใดว่า...คุณลุงช่วยบอกญาติมิตรหรือคนที่รู้จักให้ไปบริจาคโลหิตด้วยนะคะ เพื่อชดเชยกับที่คุณลุงต้องใช้เลือดหลายๆถุงในครั้งนี้ผมรับปากเธอในใจทันทีและก็ได้กระซิบเพื่อนฝูงญาติมิตรใกล้ชิดไปแล้วหลายๆคน และหลายๆครั้ง (เพราะผมเองอายุ 80 กว่าแล้ว หมดสิทธิ์บริจาคไปเรียบร้อย เพราะทาง สภากาชาด จะรับจากบุคคลอายุ 17-70 ปีเท่านั้น)เนื่องในวันอันเป็นมงคลยิ่งวันนี้ ผมขออนุญาตนำมากระซิบดังๆผ่านคอลัมน์อีกครั้ง...ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวาย “2 มหาราช” อันเป็นที่รักเคารพและเทิดทูนยิ่งของพวกเราชาวไทยในวันที่ 13 ตุลาคม, 23 ตุลาคม, ตลอดทั้งเดือนตุลาคม และตลอดปีตลอดไปเท่าที่จะมีโอกาสนะครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม