นครสวรรค์ยังวิกฤติ 3 แม่น้ำสายหลักเอ่อท่วมขยายวงกว้าง พบชุมชนริมเจ้าพระยาต้องทนอยู่กับน้ำมานาน สุขภาพจิตแย่ จนเริ่มเครียด หมอทหารจัดทีมลงเรือให้คำแนะนำถึงบ้าน ที่พิจิตร ถุงบิ๊กแบ็กกั้นถนนเลียบแม่น้ำน่านเอาไม่อยู่ น้ำทะลักท่วมหมู่บ้านกว่า 1.5 เมตร ชาวบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระทมหนักน้ำสูงกว่า 2 เมตรมิดพื้นชั้นสอง ชาวบ้านต้องต่อนั่งร้านใช้เป็นที่หลับนอน ส่วนพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจอฝนกระหน่ำ น้ำป่าไหลหลาก ถนนจมบาดาลเกือบ 1 เมตรสถานการณ์อุทกภัยวันที่ 9 ต.ค.ที่ จ.นครสวรรค์ แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยายังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 7,788 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1 แสนไร่ ขณะที่หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พล.ต.อภิเดช ผลทวี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 31 พร้อมด้วย พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายจิรประวัติ นำชุดแพทย์เคลื่อนที่ช่วยเหลือชาวชุมชนริมน้ำเจ้าพระยาบ้านเกาะเห็ด ต.นครสวรรค์ ออกให้บริการตรวจรักษาโรคที่มากับน้ำทั้งโรคน้ำกัดเท้า โรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงให้คำปรึกษาภาวะเครียด เนื่องจาก หลายคนต้องทนอยู่กับน้ำท่วมขังมานาน บางครอบครัวต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนชั้นสองทำให้สุขภาพจิตแย่ที่ จ.พิจิตร ผลกระทบจากแม่น้ำน่านกัดเซาะถนนเลียบแม่น้ำบ้านไผ่หลวง หมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จนพังทลายกว่า 10 เมตร เจ้าหน้าที่จากกองช่าง อบจ.พิจิตร นำเสาเข็มและบิ๊กแบ็กไปวางปิดกั้นน้ำ แต่เอาไม่อยู่ กระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดถนนขาดเพิ่ม ทำให้มวลน้ำไหลท่วมบ้านไผ่หลวงเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงกว่า 1.5 เมตร อีกทั้งมวลน้ำยังทะลักท่วมหมู่บ้านติดกันใน ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ถนนสายตะพานหิน-บางมูลนากถูกท่วมสูงกว่า 20 ซม. รถสัญจรลำบาก ขณะที่แม่น้ำยมไหลผ่าน อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง และ อ.โพทะเล ยังเอ่อท่วมในหลายพื้นที่ หนักสุดบ้านรังนก ต.รังนก อ.สามง่าม น้ำยังสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกส่วนสถานการณ์จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ปรับลดการระบายน้ำในอัตรา 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องสถานการณ์น้ำฝน และน้ำท่าเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ 11 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนลดลง 23 ซม. ขณะที่ชาวบ้านใน ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ได้รับผลกระทบจากคันดินบริเวณวัดสมอถูกน้ำเซาะพังทลาย น้ำไหลท่วมพื้นที่หมู่ 3 หมู่ 1 และหมู่ 6 ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน และผู้ประสบภัยกว่า 600 ครอบครัวต้องอพยพไปอยู่บนถนนคันคลองมหาราชนายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนางดำออก เปิดเผยว่า ในส่วนของความช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่อพยพมายังพื้นที่ปลอดภัยบนถนนที่น้ำท่วมไม่ถึง เทศบาลจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการดำรงชีพอย่างเร่งด่วน มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟให้บริการในทุกจุด จัดแท็งก์น้ำ 2,000 ลิตรให้บริการรวม 20 แท็งก์ตลอดแนวที่พักอาศัยให้มีใช้อย่างต่อเนื่องและสร้างห้องสุขาชั่วคราว 28 ห้อง เพื่อควบคุมเรื่องสุขอนามัยในพื้นที่อพยพ รวมถึงแจกน้ำหมักอีเอ็มช่วยย่อยสลายกำจัดน้ำเน่าเสีย ส่วนเรื่องอาหารได้เปิดครัวทำข้าวกล่องแจกผู้ประสบภัยสดใหม่ทุกวันด้าน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดน้ำท่วมแล้ว 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 6,386 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบ้านเรื่อนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำทั้งกินนอนและทำอาหารบนบ้านมานานนับเดือน หนักสุดบริเวณชุมชนหลังวัดจุฬามณี หมู่ 7 ต.บ้านกุ่ม บ้านเรือนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร บางหลังน้ำสูงจนถึงพื้นชั้นสอง ขณะที่การสัญจรเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวนางเฉลียว นัยยะกิจ อายุ 70 ปี ชาวบ้านชุมชนหลังวัดจุฬามณี ต.บ้านกุ่ม เผยว่า อยู่บ้านเพียงลำพัง ตอนนี้น้ำท่วมถึงพื้นชั้นสอง ต้องนำโต๊ะมาหนุนพื้นบ้านใช้เป็นที่วางข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ส่วนที่หลับนอนก็ได้ทำนั่งร้านสูง 1 เมตร โดยว่าจ้างช่างมาต่อเติมทำไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน เพราะที่บ้านน้ำท่วมทุกปี หากปีไหนน้ำมากจนถึงพื้นชั้นสองจะได้ใช้เป็นที่กินที่นอน จริงๆอยากจ้างช่างมาดีดบ้านใหม่ให้สูงกว่านี้ แต่ไม่มีเงิน เพราะอายุมากแล้วรายได้หลักมีแค่เงินผู้สูงอายุเท่านั้น น้ำท่วมรอบนี้หนักกว่าครั้งก่อน แต่ยังไม่มากเท่ากับมหาอุทกภัยในปี 2554 ปีนั้นน้ำสูงกว่าปีนี้ราวครึ่งเมตร อย่างไร ก็ตาม ถึงแม้น้ำจะมากกว่านี้ก็ยังพออาศัยอยู่ในบ้านได้ เพียงแต่การใช้ชีวิตจะลำบากกว่านี้ อยากให้น้ำแห้งเร็วๆจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติที่ จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากจากเขาสุวรรณคีรีเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม ถนนน้ำท่วมสูงประมาณ 80 ซม. รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ นายอรรถพล นพเกตุ นายก อบต.หนองแหน ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งระบายน้ำ นายอรรถพล เปิดเผยว่า ฝนตกรอบนี้ทำน้ำท่วมสูงหลายหมู่บ้าน ท่วมเกือบทั้งตำบล น้ำไหลบ่าตั้งแต่กลางดึกจนถึงเช้ามืด จุดที่หนักที่สุดคือหมู่ 7 เป็นชุมชนขนาดใหญ่ และมีหมู่บ้านจัดสรรที่มีคนอาศัยมาก ชาวบ้านและพนักงานโรงงานในนิคมเกตเวย์ไม่สามารถออกไปทำงานได้ ตอนนี้ได้ขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่พื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยระบายน้ำอย่างเร่งด่วนนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยจะลงพื้นที่จังหวัดในลุ่มน้ำภาคกลาง ประกอบด้วยจังหวัดชัยนาท นครสวรรค์ และพิจิตร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ส่วนการจ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจะกำชับจังหวัดรายงานสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบทุกวัน จากนั้นจะส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวบรวมประเมินความเสียหายและพยายามนำเข้าไปรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ การจ่ายเงินเยียวยาในลอตแรกอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะอนุมัติได้ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะทยอยโอนเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบเป็นรอบๆ แต่จะไม่รอให้สถานการณ์คลี่คลาย หากเป็นไปได้จะทยอยจ่ายให้ทุกสัปดาห์ตามข้อมูลที่จังหวัดส่งมา“ขอประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานท้องถิ่นเร่งเก็บข้อมูลสถานการณ์รายวันให้ครบถ้วน อย่างที่ จ.อ่างทอง น้ำท่วมหลายวัน แต่ข้อมูลยังไม่เรียบร้อย ข้อมูลไม่อัปเดต ดังนั้นในกลุ่มแรกที่จะจ่ายเงินจะตัดข้อมูลวันที่ 6 ต.ค.นี้ จากนั้นจะทยอยจ่ายต่อไป เชื่อว่าหน่วยงานท้องถิ่นลงพื้นที่จริงเก็บข้อมูลมาแล้ว เพราะไม่มีใครรู้ข้อมูลดีเท่ากับคนในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาเกิดความล่าช้า เพราะมีหลายขั้นตอน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำกันแบบลวกๆ ทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามกฎหมาย” นายภราดรกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่