คดีเขากระโดงกับคดีฮั้ว สว.ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในยุครัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จน คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ต้องประกาศจะไม่ใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กดดัน สั่งการ หรือชี้นำข้าราชการเกี่ยวกับคดี ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ล่าสุดคุณวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งมีข่าวว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ได้ลงนามหนังสืออนุมัติให้สำนักงานอาณาบาลยื่นฟ้องเพิกถอนเอกสิทธิ์ในที่ดิน 2 แปลงในเขากระโดง และจะทยอยฟ้องแปลงอื่นตามมาอีกเมื่อได้เห็นความพยายามของ รฟท.ในการติดตามทวงคืนที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดิน 2 แปลงแรกที่ยื่นฟ้องในยุครัฐบาลพรรคภูมิใจไทยคือ ที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 ซึ่งตระกูลชิดชอบเป็นผู้ครอบครอง ผมก็ขอชื่นชมความกล้าหาญของ รฟท. และอยากให้ประชาชนร่วมส่งกำลังใจไปให้ ส่วนผลคดีจะออกหน้าไหน ก็อยู่ที่ศาลเป็นผู้ให้ความยุติธรรมที่ดินบริเวณทางแยกเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ เป็นที่ดินรถไฟอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่สงวนไว้เพื่อกิจการรถไฟ ตามมาตรา 3 (2) และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.จัดวางการรถไฟแลทางหลวง พ.ศ.2464 หวงห้ามมิให้บุคคลใดครอบครองหรือออกเอกสารสิทธิทับซ้อน แต่หลายสิบปีที่ผ่านมามีประชาชนและเอกชนเข้าไปครอบครองออกเอกสิทธิ์ทับซ้อนกว่า 1 พันรายที่ผ่านมา รฟท.ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ในพื้นที่เขากระโดง ทั้งยื่นฟ้องคดีและร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆของรัฐ โดยมีเอกสารยืนยันจากคณะกรรมการกฤษฎีกา หนังสือลงวันที่ 17 มี.ค.2541 และผลการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. ที่ชี้ว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่สงวนไว้เพื่อกิจการรถไฟตั้งแต่ปี 2462นอกจากนี้ รฟท.ได้ทำการคัดค้าน และฟ้องแย้งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท. ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 ทั้งยังเป็นโจทก์ฟ้องศาลอุทธรณ์ภาค 3 จนมีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 จึงได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกทับที่ดินรถไฟโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กรมที่ดินก็ไม่ดำเนินการต่อมา รฟท.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ให้กรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกับที่ดินแปลงอื่นจำนวน 995 แปลง แต่กรมที่ดินระบุว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนว่าที่ดินเป็นของ รฟท. จึงเห็นว่าไม่สมควรเพิกถอนโฉนด และสั่งยุติเรื่องอย่างไรก็ตาม รฟท.ได้ยื่นฟ้องกรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดิน และปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครอง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งยุติเรื่อง และอีกด้านก็ทำหนังสือถึง สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะทนายของรัฐ ให้ยื่นฟ้องเพิกถอนเอกสิทธิ์แทน แต่ผ่านมากว่า 6 เดือนก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักงานอัยการสูงสุดทางเลือกเดียวของ รฟท.คือให้สำนักงานอาณาบาลยื่นฟ้องทวงคืนที่ดินเอง และการเลือกฟ้อง 2 แปลง ที่ดินเลขที่ 3466 และเลขที่ 8564 นำร่องก่อน เพราะเชื่อน่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานครบถ้วน ผ่านการตรวจสอบใน ป.ป.ช.มาแล้วคนของ รฟท.มีความรักและหวงแหนที่ดินรถไฟอยู่แล้ว น่าเสียดายที่การเริ่มต้นไล่ฟ้องคดีครั้งนี้กลับถูกบางฝ่ายปั่นกระแสว่าฟ้องประวิงเวลา ทำให้บั่นทอนกำลังใจอย่างยิ่ง ถ้าใครใจร้อนอยากปิดเกมเร็ว ผมแนะนำเอาทัวร์ไปลงที่กรมที่ดินจะตรงเป้ากว่า เพราะอำนาจการเซ็นเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่ที่อธิบดี.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม