ไม่ต้องมีก็ได้...พลันที่มีการเปิดตัวรัฐมนตรี “คนนอก” ยิ่งแสดงวิสัยทัศน์และแถลงนโยบายในเวทีรัฐสภา ยังไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำ ก็ได้รับการชื่นชมเซ็งแซ่ด้วยความพึงพอใจพลอยให้รัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนไปเต็มๆ“เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ”-“ศุภจี สุธรรมพันธุ์”-“สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว”3 คนนี้คือรัฐมนตรี “คนนอก” ที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้และเป็นที่ยอมรับของประชาชนในแวดวงต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนก็ต้องถือว่านายกรัฐมนตรีมีความสามารถในการจูงใจให้คนเหล่านี้เข้ามาร่วมงานอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและรัฐบาลความพึงพอใจที่ว่านี้ถึงกับแสดงออกว่าไม่จำเป็นต้องมีนักการเมือง ให้บุคคลเหล่านี้บริหารประเทศก็ไปได้แล้วถ้าถามความรู้สึกของนักการเมืองก็คงจะต้องแสดงความน้อยเนื้อ ต่ำใจพอสมควรที่ไม่เห็นความสำคัญก็ต้องไปถามตัวเองว่าทำไมประชาชนถึงคิดอย่างนั้นความจริงมากกว่านั้น ในความต้องการของประชาชนก็คงอยากได้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆที่มีคุณภาพเยี่ยงนี้แหละ...แต่เผอิญว่าการบริหารประเทศในระบบการเมืองอย่างนี้ก็ต้องผสมผสาน ไม่สามารถแยกส่วนกันได้เพราะนักการเมืองนั้นมาจากการเลือกตั้งของประชาชนจึงต้องเป็นส่วนหัวจากนั้นก็ไปเลือกบุคคลเข้ามาบริหารประเทศร่วมกันอยู่ที่ว่าจะสามารถเลือกตั้งรัฐมนตรีที่มีคุณภาพอย่างนี้ได้แค่ไหนเท่านั้น เพราะต้องไม่ลืมว่าในรัฐบาลนั้นมีบุคคลที่มาจากพรรคการเมืองต่างๆหลายพรรค แม้แต่พรรคเดียวกันก็ต้องสร้างสมดุล มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาได้เพราะ “นักการเมือง” กับการได้เป็น “รัฐมนตรี” นั้นคือรางวัลของชีวิต ซึ่งแต่ละคนต่างก็ใฝ่คว้าด้วยกันทั้งนั้นแต่ข้อสำคัญอยู่ที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาลว่าจะมีศักยภาพแค่ไหนทั้งด้านอำนาจและการเลือกตัวบุคคล!ถ้าไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องต้องการทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆก็ง่ายหน่อย แต่ถ้ามีความต้องการแฝงก็ยากหน่อยอีกประเด็นก็คือต้องเป็นความต้องการของผู้รับและผู้เสนอหากสอดคล้องกันก็ไปด้วยกันได้ด้วยความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายพูดง่ายๆมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน!ผู้เสนอก็ต้องเห็นว่าผู้รับต้องมีความรู้ความสามารถและประชาชนยอมรับผู้สนองก็ต้องเชื่อใจว่าผู้ให้นั้นต้องการอะไร ถ้าตรงกันไม่ยากยิ่งไปกว่านั้นต้องเชื่อใจด้วยว่าจะให้อำนาจในการทำงานได้อย่างสบายใจหรือไม่ไม่ใช่ต้องรับคำสั่งลูกเดียว หรือให้ไปแสวงหาประโยชน์ให้เขาเพราะที่ผ่านมาที่เห็นและเป็นอยู่บุคคลที่มีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์สุจริตต่างก็ปฏิเสธ เพราะไม่ต้องการเป็นทาสนักการเมืองที่ทำระยำเอาไว้เนื่องจากเคยเห็นคนที่เจ็บปวดเพราะถูกนักการเมืองหลอกใช้มานักต่อนักแล้วอีกพวกก็ยินยอมพร้อมใจเพราะได้ผลประโยชน์ด้วยวันนี้ “อนุทิน” โชคดีได้คนดีคนเก่งเข้ามาร่วมงานด้วย!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม