วันนี้ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นำทีมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นวันที่สอง หนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่ คุณผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย นำเสนอต่อ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย ในวันที่ไปรับฟังความคิดเห็นจาก สมาคมธนาคารไทย ก่อนร่างนโยบายก็คือ “Reinvent Thailand A Platform for Policy Co– Creation and Execution พลวัตใหม่เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย”Reinvent Thailand เป็นพิมพ์เขียว “การสร้างเศรษฐกิจไทยขึ้นมาใหม่” จากสภาพ “โตช้า แข่งขันไม่ได้ และเหลื่อมล้ำ” ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไปสู่สภาพที่ “โตขึ้นอย่างยั่งยืน แข่งขันได้และเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ” เป็นพิมพ์เขียวการ “สร้างอนาคตประเทศ” ขึ้นมาใหม่ให้พ้นจากสภาพ “โตช้า แข่งขันไม่ได้ และเหลื่อมล้ำ” ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความ “อ่อนแอจากข้างใน” ขณะที่โลกภายนอกมีความท้าทายมากมายรออยู่Reinvent Thailand เป็น “Platform เศรษฐกิจใหม่” ที่ สภาพัฒน์ แบงก์ชาติ กระทรวงการคลัง สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าไทย ร่วมกันออกแบบขึ้นมาใหม่ เพื่อผนึกความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาคการเงิน และภาครัฐ ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเสียใหม่ เพื่อสร้าง “พลวัตใหม่ (แรงขับเคลื่อนใหม่)” สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญของ Reinvent Thailand คือ การขับเคลื่อนนโยบายด้วยข้อมูลที่แม่นยำ (Data–driven Policy) การสร้างแรงจูงใจที่ถูกต้องโดยยึดหลัก “ทำดี ได้ดี” เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการทำงานใหม่ และสร้าง “เข็มทิศ” นำทางในการพัฒนาเศรษฐกิจให้ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลทีก็เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจที ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปไม่ได้ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เพราะจีดีพีโตต่ำ จากที่เคยสูงถึงตัวเลขสองหลัก วันนี้เหลือโตปีละ 2% กว่า และ เงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ก็หดหายเหลือ 0.6% สู้เวียดนามที่ได้ปีละ 1.2% ไม่ได้ ความสามารถในการแข่งขันของคนไทยและประเทศไทยก็ถดถอย ความมั่งคั่งกระจุกอยู่ในมือมหาเศรษฐีไม่กี่คน บริษัทขนาด ใหญ่สุด 5% ครองส่วนแบ่งรายได้ 85% ของธุรกิจในประเทศไทยทั้งหมด ครัวเรือนกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดมีสัดส่วนรายได้สูงถึง 48% ขณะที่กลุ่มรายได้ต่ำมีสัดส่วนรายได้เพียง 6% เท่านั้น ต่างกันฟ้ากับดินภาคที่อ่อนแอที่สุดก็คือ “การศึกษา” ทำให้คุณภาพแรงงานไทยไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ไทยมีการลงทุนด้านการศึกษาปีละ 800,000 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของ GDP ใกล้เคียงกับการลงทุนด้านการศึกษาของ OECD กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว แต่คุณภาพการศึกษาไทยกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง คะแนน PISA (มาตรฐานการวัดคุณภาพการศึกษาสากล) ลดลงต่อเนื่องจนอยู่ในระดับต่ำสุดในทุกวิชาในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน คะแนน ONET (มาตรฐานวัดคุณภาพการศึกษาของไทย) ก็ลดลง ความเหลื่อมล้ำการศึกษาสูง นักเรียนในกรุงเทพฯทำคะแนนสูงกว่าจังหวัดอื่นในทุกวิชา แรงงานไทยไม่สามารถ upskill (เพิ่มทักษะ) หรือ reskill (เพิ่มทักษะใหม่) ได้ทำให้คนเก่งและคนรุ่นใหม่เลือกที่จะย้ายไปต่างประเทศ เกิดภาวะ “สมองไหล” ขณะที่ ระบบดึงดูดคนเก่ง (talent) จากต่างประเทศ ไม่มีกำลังพอทั้งหมดนี้คือ “โซ่ตรวนที่ฉุดรั้งศักยภาพของประเทศไทย” ทำให้ “โตช้า แข่งขันไม่ได้ และเหลื่อมล้ำ” ถ้าไม่ร่วมมือกัน “ปรับโครงสร้างเหล่านี้” อย่างจริงจัง ด้วยการ Reinvent Thailand ประเทศไทยจะตกอยู่ในภาพ “โตช้า แข่งขันไม่ได้ และเหลื่อมล้ำ” ตลอดไปวันนี้ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล มีโอกาสแล้วในฐานะนายกรัฐมนตรี “4 เดือนนี้เร่งสร้าง Platform Reinvent Thailand ให้สำเร็จ” ผมเชื่อว่าด้วยความรู้และประสบการณ์ธุรกิจของ “นายกฯอนุทิน” ย่อมรู้ดีว่า แพลตฟอร์มนี้คืออะไร สำคัญต่ออนาคตประเทศไทยอย่างไร 4 เดือนนี้ ถ้า “นายกฯหนู” ทำสำเร็จ “นายกฯหนู” ก็จะเป็น “ฮีโร่” ที่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม