หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2568 ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ และหลังจากนายกฯแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า รัฐบาลก็จะมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งนี้ นายอนุทินได้ระบุถึงการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว โดยช่วงที่ผ่านมาก่อนเข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการได้เดินสายพบปะหารือประชุมร่วมกับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคาร นำข้อเสนอต่างๆมาพิจารณา อะไรที่เห็นควรก็จะนำมาเพิ่มเติมในนโยบายขณะที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สำทับว่า นายกฯ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้หารือกับภาคเอกชนต่างๆ เรื่องนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยภาคเอกชนได้ขอให้รัฐบาลดูแลค่าเงินบาท ไม่ให้แข็งหรืออ่อนจนเกินไป ซึ่งส่งผลต่อการนำเข้า–ส่งออก และเสนอให้มีมาตรการด้านภาษีที่จูงใจและเอื้อต่อการลงทุนส่วนนโยบายคนละครึ่ง รัฐบาลมีแนวทางที่จะเพิ่มวงเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มให้ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี รวมถึงกรณีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะพิจารณาเลื่อนจัดเก็บเต็ม อัตราออกไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดิน โดยรัฐบาลจะหาทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่ายสำหรับด้านพลังงาน รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการ “โซลาร์ชุมชน” ภายใน 4 เดือน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชน รวม 1,500 เมกะวัตต์ในระยะเริ่มต้น และนโยบายเฉพาะหน้าจะตรึงราคาพลังงาน รวมถึงการลดราคาพลังงานภายในปีหน้า ซึ่ง รมว.พลังงาน วางแนวทางไว้แล้วทั้งหมดนี้ ถือได้ว่าเป็นแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตามกรอบนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ขณะที่การดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้เหล่านี้ ยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัด เงื่อนไขเวลา 4 เดือน จะต้องยุบสภาตามข้อตกลงที่พรรคภูมิใจไทยทำไว้กับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั้งประเทศดังนั้น หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบาย เสร็จสิ้นจะต้องเร่งผลักดันโครงการต่างๆ โดยเร่งด่วนทันที ไม่เช่นนั้นเวลาเพียงแค่ 4 เดือน อาจไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ กลายเป็นแค่การขายฝันฉากสั้นๆ และหนีไม่พ้นโดนครหา ภารกิจหลักเน้นแค่เข้ามาเร่งปลดล็อกคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว.เท่านั้น.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม