(แฟ้มภาพ)บุกจับพ่อโหดกระทืบลูกชายวัย 2 เดือน ปางตายหวังประชดเมียเจ้าตัวสารภาพชนวนเหตุจากเมายาเสพติดแล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน ไล่เตะเมียจนต้องหอบลูกติดวัย 4 ขวบ เผ่นหนีออกจากบ้าน ยังไม่หายแค้นเลยไประบายอารมณ์กับลูกน้อย ตาผู้ก่อเหตุยอมรับหลานชายกับหลานสะใภ้เสพยาด้วยกันแล้วทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ ไม่คิดว่าจะไปลงไม้ลงมือกับลูกตัวเอง ล่าสุดอาการเด็กยังโคม่ามีเลือดออกภายในร่างกาย แพทย์ตรวจพบบาดแผลทั้งใหม่และเก่าคาดถูกทำร้ายเป็นประจำกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” ประสานไปยัง พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีผัวเมียเสพยาด้วยกันแล้วมีปากเสียงทะเลาะวิวาท เมียถูกผัวทำร้ายด้วยการเตะชายโครง 1 ครั้งจนต้องวิ่งหนีออกมาจากบ้าน ระหว่างนั้นฝ่ายผัวยังไม่หายแค้น ลงมือกระทืบลูกชายวัย 2 เดือนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หวังประชดเมีย เด็กน้อยถูกนำส่ง รพ.ศูนย์นครปฐม เบื้องต้นอาการอยู่ในขั้นวิกฤติยังไม่พ้นขีดอันตราย มีเลือดออกภายในร่างกายยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู แพทย์ตรวจพบบาดแผลทั้งใหม่และเก่า คาดว่าไม่ใช่การใช้ความรุนแรงกับเด็กครั้งแรก อีกทั้งลูกเลี้ยงเป็นเด็กชายอายุ 4 ขวบลูกติดของแม่เด็กก็เคยถูกสามีทำร้ายร่างกายเช่นกันต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี นำกำลังตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ได้ที่บ้านเกิดเหตุ ควบคุมตัวไปสอบสวน เบื้องต้นนายเอให้การรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายลูกชายจริง เนื่องจากติดยาเสพติด และมีปากเสียงทะเลาะกับเมีย ตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.นครชัยศรี ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย. เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ พม. ได้พานางบี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แม่ของเด็กมาให้ปากคำกับ พ.ต.ต.ธนาคม จันทร์ชาวนา สว. (สอบสวน) สภ.นครชัยศรี ส่วนนายเอ พ่อเด็กถูกแจ้งข้อหาความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และเสพยาเสพติด หลังสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะนำตัวส่งฝากขังตามขั้นตอนต่อไปต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุพบนายใหญ่ (นามสมมติ) อายุ 71 ปี ตาของนายเอ ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ที่บ้านหลานชายอยู่กับภรรยา ลูกชายวัย 2 เดือน และลูกติดภรรยาอายุ 4 ขวบ ยอมรับว่าหลานชายเป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด ส่วนภรรยาของหลานก็เสพยาเช่นกัน วันเกิดเหตุ 14 ก.ย. ตนนอนอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงหลานชายกับภรรยาทะเลาะกันอยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้ออกมาดูเพราะทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นประจำ สักพักเห็นหลานสะใภ้ออกจากบ้านไปกับลูกติดวัย 4 ขวบ ส่วนหลานชายอยู่ในบ้านกับลูกชายวัย 2 เดือน กระทั่งวันที่ 15 ก.ย. เห็นหลานชายนอนกอดลูกอยู่ในบ้าน ป้อนนมผงปกติ ต่อมาช่วง 10-11 โมงเด็กร้องผิดปกติ กระทั่งช่วงเที่ยงหลานชายก็ขี่รถ จยย.พาลูกไปส่งโรงพยาบาล มาทราบภายหลังว่าหลานชายลงมือทำร้ายลูกตัวเองจนบาดเจ็บสาหัสรู้สึกตกใจและเสียใจมากนายกฤษณะ ภุมมา หัวหน้า รพ.สต.บางพระ พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด รพ.หลวงพ่อเปิ่น ในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ดูแลนายเอ พ่อเด็กผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด เข้าเยี่ยมตาของนายเอที่บ้าน เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า นายเอเป็นผู้ป่วยบำบัดยาเสพติดอยู่ในกลุ่มผู้ติดยาเสพติดขั้นต้น ยังไม่ใช่ภาวะจิตเวช อยู่กลุ่มที่ถูกสิ่งกระตุ้นก็มักจะมีอารมณ์รุนแรง ได้รับการบำบัดแบบไม่ต้องใช้ยา เน้นการพูดคุยดูแลจิตใจเพราะยังสื่อสารและประกอบอาชีพได้ จากการพูดคุยกับแม่เด็กบอกว่าสาเหตุที่ทะเลาะกันเพราะตัวเองต้องการไปเยี่ยมลูกชายคนโตที่ประสบอุบัติเหตุนอนโรงพยาบาล แต่สามีไม่ให้ไป ก่อนที่แม่เด็กจะทิ้งลูกคนเล็กวัย 2 เดือนไว้กับนายเอ จนเป็นแรงกระตุ้นให้ลงมือทำร้ายลูกตัวเองอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่