กำลังเข้มข้นมันส์หยดสำหรับความรักแม่ลูกในละคร “แสนรัก” ทางช่อง 3 รวมทั้งพระเอกฮอต “กองทัพ พีค” ผู้รับบทบาท รวี ลูกชายคนกลางที่ตีบทแตก และกำลังมีละครต่อเนื่อง แต่กว่าจะถึงวันนี้เจ้าตัวเผยน้ำตาแตก กองทัพ พีค เผยว่า “ผมรับบท รวี ลูกชายคนกลางของตระกูลตรงพานิชย์ เป็นคนยึดมั่น บูชาความรัก ทั้งม้าและเตี่ยไม่มีใครสนใจ เพราะเค้ามีเหตุผลว่ารวีเป็นคนเก่ง เรียนเก่ง เอาตัวรอดได้ แต่รวีจะมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจตลอดว่าทำไมไม่มีใครสนใจเค้าเลย ส่วนพี่ชายและน้องชายจะเป็นลูกรักของม้าและเตี่ย จะถูกประคบ ประหงมอย่างดี เราเล่นมาตั้งแต่พาร์ตเด็กต้องมีความรักในวัยที่เริ่มหนุ่มขึ้น เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ สักพักเป็นความรักเกี่ยวกับครอบครัว ไม่ใช่ความรักแค่คนสองคนแล้ว เป็นความรักที่มีทั้งภาระ มีความรักที่ครอบครัวใหญ่ มีพี่สะใภ้ น้องสะใภ้เข้ามารวมกัน การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม พีครู้สึกว่าการจะถ่ายทอดความรักตรงนี้ออกมาได้ มันยากแล้วต้องลึกพอสมควร เพราะบางทีรวีเป็นคนที่ฟังแต่ไม่ทำตาม ดื้อเงียบ เพราะเขามีตัวตนที่ชัดเจน การที่พีคจะดึงตรงนี้ออกมาได้ ก็เลยรู้สึกว่าต้องหาตัวรวี ให้มันแตะรวีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับความสัมพันธ์คู่รักจริงๆ ยากตั้งแต่ตอนถ่ายทำ เป็นพาร์ตที่ตั้งแต่เด็กยาวจนถึงตอนโต ผมกับพีพี-ปุญญ์ปรีดี เรามานั่งคุยเรื่องบทกันตลอด ว่าตรงกลางอยู่ตรงไหน เหมือนเป็นพาร์ตที่ต้องคอนโทรลจริงๆว่าอย่าพูดอย่างนี้กับคนอื่น เก็บไว้แค่เราสองคน มันเหมือนจะไปสุด แต่ก็ไปสุดไม่ได้ จะน้อยเกินไปก็ไม่ได้” พูดถึงม้าเหมยที่แสดงโดยพี่ต่าย-เพ็ญพักตร์ ได้ร่วมงานกันแล้วเป็นไง? “พี่ต่ายน่ารัก จริงๆในพาร์ตละครกับในชีวิตจริงไม่เหมือนกัน พี่ต่ายเอเนอร์จีสูงมาก ตอนอยู่ในเซต จะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนกลัวได้ ด้วยใน ตัวบทด้วย มันทำให้เราเชื่อเลยว่าเค้าเป็นม้าเราจริงๆ” กับการอยู่ในวงการที่วันนี้เราดูพูดเก่งพลิ้วขึ้น? “ได้พูดเยอะขึ้นเพราะช่วงแรกๆ ที่เจอกัน คือด้วยร่างกายยังปรับไม่ทันเนื่องจากเราทำงานเยอะไม่ค่อยได้นอน ตอนนี้ก็ได้นอนเยอะ ได้จัดการร่างกายด้วยชีวิตด้วยแล้วมันโอเค ได้อ่านหนังสืออันนี้เราแฮปปี้มากได้ อยู่กับน้องหมา ได้นั่งสมาธิสวดมนต์ด้วยในตอนเช้ารู้สึกมันดึงพลังงานเรากลับมาได้ดี ย้อนกลับไปช่วงแรกก็มีกังวลครับ นับตั้งแต่กลับมาจากเกาหลีเราเป็นคนชอบอยู่บนเวที เราก็รู้สึกว่าการที่เรากลับมาตรงนี้มันโอเคจริงๆใช่มั้ย มันเหมาะกับเราจริงๆหรือเปล่า จนมันสามารถตอบได้ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่มันมีเสน่ห์อีกเสน่ห์หนึ่ง มันทำให้เราแทนที่จะมีอาชีพเดียว เรามีสองอาชีพที่เรามอบความรักให้กับสองอาชีพนี้ได้เต็มที่ก็เป็นความโชคดีของเราด้วยที่มาเล่นละคร แล้วก็สนุกกับความท้าทายกับบทใหม่ๆ ด้วย พูดตรงๆเวิร์กช็อปละครเรื่องแรกเราร้องไห้ใส่ผู้จัด ร้องไห้ใส่คุณครูเลย เหมือนทุกคนนึกภาพตอนเราอยู่บนเวทีเป็นสิ่งที่เรารัก เหมือนเราโดนกระชากออกมามันยังงงๆอยู่ สภาวะช็อกอยู่ เพราะว่าตอนนั้นเราทำงานแบบไม่ได้นอนเลย 6 เดือน แล้วมันยังทำใจไม่ได้ว่า เรายังอยากจะไปตรงนั้นอยู่ แต่พอได้กลับมาได้เวิร์กช็อปได้ผ่อนคลายมากขึ้นอ้าวตรงนี้มันมีเสน่ห์อีกเสน่ห์หนึ่ง มันคือได้เป็นตัวละครได้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เรา อย่างตัวละครเรื่อง แสนรัก ได้เป็น รวี ลูกชายคนจีนคนกลางซึ่งเป็นลูกคนเดียวอย่างนี้ ได้เจออะไรหลายๆอย่างที่ได้หลายมุมมองของชีวิตคน ได้สนุก” แถมยังมีละครต่อเนื่อง? “ขอบคุณทุกโอกาสด้วย เพราะว่าเราก็ได้มีโอกาสได้เล่นละครทีเดียว 4 เรื่องติดเลย ชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสนี้ รู้สึกขอบคุณทางช่อง 3 ด้วย รู้สึกขอบคุณผู้จัดทุกคนด้วยเหมือนกัน ก็ไล่ตั้งแต่ดุจอัปสร แม่เลี้ยง จนมาแสนรัก เดี๋ยวจะจบด้วย ก็รักมันปักใจ ย้อนไปวันนั้นถ้าไม่เอางานสายนี้แล้วจะไปทำอะไรก็คงไม่ใช่เราตอนนี้ ก็จะไปอยู่ไม่รู้จุดไหนด้วยเหมือนกัน ก็คงทำเพลงต่อไปแหละ แต่คราวนี้ ณ จุดตรงนี้เราก็แฮปปี้กับพาร์ตของเราที่เราสามารถเดินทั้งสองอย่างในสิ่งที่เราชอบไปด้วยกัน ด้วยการแต่งเพลงประกอบละครเพราะเราชอบเพลงอยู่แล้ว ได้เจอสิ่งใหม่ เพราะเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกของการแต่งเพลงละครมันเป็นยังไง และเราได้มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้น” ถือเป็นอาชีพหลักของเราเลยมั้ย?“ก็ถือเป็นอาชีพหลักแหละก็ได้แต่งเพลงด้วยแต่งเพลงละครด้วยก็สนุก”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่