ลุ้นระทึกพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” เคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามแล้ว คาดอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ จ.น่าน ช่วงเย็นวันที่ 26 ส.ค. ฝนถล่มหนักเส้นทางพายุ 13 จังหวัดเหนือ-อีสานตอนบน ปภ.แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงทั่วไทย 45 จังหวัด พร้อมจัดส่งชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำการจุดระดมทรัพยากร ปภ.เขต 9 พิษณุโลกรอรับมือเต็มพิกัด ประสานกองทัพบกจัดเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยช่วยผู้ประสบภัยพื้นที่เข้าถึงยาก รัฐบาลกำชับ ผวจ.ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.เฝ้าจับตาสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” (KAJIKI) หลังเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือ กรมอุตุนิยม วิทยาประกาศเรื่องพายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 12 ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ยได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวิญตอนล่าง ประเทศเวียดนามแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม.ต่อ ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม.ต่อ ชม. คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันตามลำดับเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ของประเทศไทย ในช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค.พายุนี้มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือบริเวณ จ.น่าน ในช่วงเย็นวันที่ 26 ส.ค. ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย และลำปาง สำหรับภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากพายุ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า ปภ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 26 ส.ค. ส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงในช่วงวันที่ 25-27 ส.ค. ปภ.แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 45 จังหวัดให้ทราบก่อนหน้านี้แล้วอธิบดี ปภ.เผยต่อไปว่า ปภ.ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงแล้ว พร้อมสั่งการให้ศูนย์ ปภ.เขตที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้สามารถออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม. ขณะนี้เครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ ปภ.เขตต่างๆเดินทางถึงศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดระดมทรัพยากร (Staging Area) ของ ปภ.แล้ว เช่นเดียวกับศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย นำเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนปฏิบัติการในพื้นที่ จ.น่าน นอกจากนี้ ปภ.ยังร่วมกับกองทัพบกเตรียมความพร้อมเฮลิคอปเตอร์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมช่างประจำอากาศยานหรือ “The Guardian Team” เตรียมพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เข้าถึงยากนายเชษฐากล่าวด้วยว่า ปภ.เตรียมพร้อมทั้งทีมเผชิญเหตุและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็นรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือยนต์ เรือท้องแบน จะต้องมีความพร้อมออกช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม. เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไปน.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปภ.ได้แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยจากอิทธิพลของพายุคาจิกิ ช่วงวันที่ 24-27 ส.ค. อาจทำให้หลายพื้นที่เผชิญน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม รวมถึงคลื่นลมแรงในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุก จังหวัดปฏิบัติตามข้อสั่งการกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัด ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า พร้อมกำลังพล เครื่องจักรกลสาธารณภัย และชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าให้การช่วยเหลือได้ทันทีสำหรับวันที่ 26-27 ส.ค. มีพื้นที่เสี่ยง ดังนี้ ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี ชัยนาท นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังคลื่นลมแรงในพื้นที่ชายฝั่ง เช่น ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา โดยเน้นพื้นที่อำเภอติดทะเล เกาะ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่อาจได้รับผลกระทบนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์พายุคาจิกิว่า ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ดูแลสวัสดิภาพของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษาทั่วประเทศ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และศูนย์การศึกษาพิเศษทุกแห่ง ดูแลให้การช่วยเหลือนักเรียน ครู โรงเรียนในสังกัด รวมถึงทรัพย์สินทางราชการ ตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอุทกภัย นอกจากนี้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดจัดเตรียมสถานที่พักพิงชั่วคราวสำหรับนักเรียนและครูที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงเสบียงอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ขอให้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานด้านการป้องกันภัยพิบัติในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่