ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่คบหากันฉันมิตร ย่อมมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอด เพื่อนำพาสู่ความเจริญก้าวหน้าร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นำโดย เอกอัครราชทูตออร์นา ซากิฟ นำคณะเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยม “มูลนิธิบ้านครูบุญชู” เพื่อเด็กพิเศษ ที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังจากก่อนหน้านั้นอิสราเอลได้จัดสรรงบประมาณให้ เพื่อซ่อมแซมปรับปรุงและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาในร่มที่ผุพัง ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนใหม่บ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษเริ่มต้นขึ้นในปี 2559 นางบุญชู ไหมม่วงทอง หรือครูบุญชู ได้มอบบ้านของตัวเองเพื่อใช้เป็นสถานที่ดูแลเด็กพิเศษภายใต้การบริหารของมูลนิธิ ดูแล อุปการะ และจัดการศึกษาแก่เด็กพิเศษมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเด็กพิเศษที่อยู่ในการดูแลของครูบุญชูจำนวน 250 คน โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรการกุศลต่างๆ และการบริจาคของชุมชนสอดคล้องกับภารกิจสำคัญของสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ที่ต้องการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาของเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต การสนับสนุนบ้านครูบุญชูยังถือเป็นอีกหนึ่งโครงการภาคสังคมที่ประสบผลสำเร็จในปีนี้ของอิสราเอล ต่อจากโครงการสนับสนุนโรงเรียนบ้านดอนทอง ในจังหวัดนครปฐม อีกทั้งสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ยังเข้าร่วมสนับสนุนโครงการด้วยการมอบหนังสือสำหรับเด็กเป็นจำนวนมากระหว่างการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่บ้านครูบุญชู ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอล ยังกล่าวว่า “เด็กแต่ละคนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และเมื่อมาอยู่รวมกันก็จะกลายเป็นสวนดอกไม้ที่งดงาม เด็กพิเศษจะเบ่งบานในเวลาของเขา ด้วยวิถีของแต่ละคน สมควรได้รับความเข้าใจ ความรัก และโลกที่มองเห็นคุณค่าของพวกเขา อิสราเอลมีความชำนาญอย่างถ่องแท้ด้านการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ”รู้สึกภูมิใจที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในโครงการดีๆเช่นนี้.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม
