“อิ๊งค์” เข้าสภาฯให้กำลังใจ สส.ถกงบฯปี 69 วันที่สอง บอกศาล รธน.นัดไต่สวนคดีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” 21 ส.ค. ตรงวันเกิดพอดี “วิสุทธิ์-ภูมิธรรม” ประสานเสียงมั่นใจนายกฯเจตนาดี บริสุทธิ์ใจ ใช้วิธีเจรจาส่วนตัวเพื่อปกป้องชีวิตคนไทยในกัมพูชา ย้ำคน พท.กำลังใจดี ไม่ต้องมีแผนสำรองรับมืออุบัติเหตุการเมือง ย้ำไม่มียุบสภา หรือนายกฯชิงไขก๊อก ปชน.แฉคลิปว่อนโซเชียล ตัวแทน “ส.” ผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาล อ่อย 10 ล้านบาท ซื้อเสียงสส.ค่ายสีส้มแลกโหวตงบฯปี 69 กับร่างกฎหมายคอมเพล็กซ์ “ชัชวาล” ปูดทีม สส.เมืองนนท์ถูกทาบนัดเซ็นสัญญาเงินกู้ เบี้ยวโหวตขู่แฉสอบบัญชีทรัพย์สิน “ประธานวิปรัฐบาล” ท้าเปิดชื่อคนดีลซื้องูเห่า อย่ากล่าวหาลอยๆ โอ่เสียงรัฐบาลเกินกว่า 10 เสียงเพียงพอไม่ต้องซื้อเพิ่มพรรคเพื่อไทย (พท.) ตอกย้ำไม่มีความวิตกกังวลและไม่ต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อเตรียมรับอุบัติเหตุการเมือง กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชายืนยันเชื่อมั่นในเจตนาบริสุทธิ์ของนายกฯที่ตั้งใจปกป้องชีวิตคนไทย“อิ๊งค์” ชี้ 21 ส.ค. ศาลนัดวันเกิดพอดีเมื่อเวลา 09.37 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้าสภาฯ เพื่อร่วมรับฟังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่สอง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มีรัฐมนตรีและ สส.ของพรรครอต้อนรับ ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 21 ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาจะเดินทางไปด้วยตัวเองหรือไม่ โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันที่ 21 ส.ค.วันเกิดพอดี เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจกับประชาชนและ สส.ของพรรคได้หรือไม่ว่าจะอยู่จนวินาทีสุดท้าย น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถามดังกล่าวก่อนเดินเข้าไปในอาคารรัฐสภา ต่อมาเวลา 15.37 น. น.ส.แพทองธารเดินทางกลับออกจากสภาฯ ให้รถไปรับที่ชั้นใต้ดิน ไม่ได้ออกทางประตูด้านหน้าอาคารจุดที่สื่อมวลชนดักรอสัมภาษณ์“วิสุทธิ์” ย้ำผู้นำเจตนาดีเซฟชีวิตคนไทยที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา วันที่ 29 ส.ค. ว่า สมาชิกพรรค พท.มองเรื่องนี้กัน 2 มุม สส.ส่วนใหญ่อยากให้มีคำวินิจฉัยออกมาเร็วๆจะได้ทำงานกันเต็มที่ อีกฝั่งรอวันที่ 29 ส.ค. แต่ยืนยันพวกเราไม่ตกใจเชื่อมั่น น.ส.แพทองธารมีเจตนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ขณะเกิดเหตุมีคนไทยนับหมื่นคนอยู่ในกัมพูชา นายกฯอยากให้คนกลับมาก่อน จึงใช้วิธีพูดเจรจาส่วนตัว เพื่อเซฟชีวิตประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชา เชื่อว่าท่านปรารถนาดี ไม่ได้ทำผิด มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม มี สส.หลายคนขึ้นไปพบนายกฯที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายกฯกลับเป็นฝ่ายมาให้กำลังใจพวกเราที่ทำงานกันเต็มที่ ทุกคนบอกว่านายกฯยิ้มแย้มแจ่มใสและให้กำลังใจพวกเรา จึงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เชื่อมั่นว่านายกฯจะผ่านพ้นไปได้ กลับมาทำงานการเมืองได้อีกครั้งย้ำไม่มียุบสภาหรือนายกฯไขก๊อกเมื่อถามว่ามีการพูดถึงกรณีหากคำวินิจฉัยเป็นลบต่อนายกฯหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่มีใครพูดอย่างนั้น เป็นทิศทางบวกตลอด เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของ น.ส.แพทองธาร เราไม่คิดถึงแผนสำรอง ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ หากเกิดนายกฯคนที่ 3 ขึ้นเป็นพรรค พท.อยู่ดี คาดว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทุกคนกำลังใจดี ไม่ได้กังวล ที่กังวลคือองค์ประชุมมากกว่า คาดหวังเชื่อมั่นว่าที่นายกฯชี้แจงไป กระบวนการยุติธรรมต้องให้ความเป็นธรรมกับนายกฯ ยืนยันว่า น.ส.แพทองธารจะไม่ลาออก เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ไม่เห็นท่านว่าสักคำ คนที่ไปพบนายกฯไม่เห็นว่าท่านจะลาออก กำลังใจดีมาก เชื่อมั่นว่าไม่มีการลาออกอยู่แล้ว และหลังงบฯผ่านไม่มีเรื่องยุบสภา จะยุบไปทำไม ปัญหาหลายอย่างรอแก้ไข สิ่งที่ทำได้และทำดีเป็นผลบวกมาเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องยุบสภาในขณะนี้“ภูมิธรรม” เชื่อมั่นนายกฯตั้งใจจริงที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวว่า เราเชื่อมั่นในความตั้งใจจริงของ น.ส.แพทองธาร ดูเนื้อหาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาที่จะนำไปสู่สิ่งนั้น จะอาศัยความตั้งใจจริงของนายกฯแสดงให้ศาลเห็น ที่บอกว่าจะมีปัญหาทำลายความมั่นคงไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ทุกคนกังวลใจ ถ้าไปดูในคลิปเสียงจริงๆเขาต่อรองขอให้เราเปิดด่านหลังเขา 5 ชั่วโมง ไทยยืนยันทำไม่ได้ หลายเรื่องนายกฯเล่าให้ ผบ.เหล่าทัพฟังมีการประชุมร่วมกันมาตลอด ถ้าพิจารณาสิ่งที่เราทำทั้งหมดไม่ได้ทำอะไรเอื้อกัมพูชาเลย ถือว่าเป็นประเทศที่รุกรานเรา สนับสนุนให้รักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศและชีวิตประชาชน ตรงนี้ชัดเจน วันนี้แสดงความจริงใจ ตั้งใจจริงของนายกฯให้ประชาชนเข้าใจ ถ้าอะไรเกิดขึ้นมีกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ต้องเตรียมแผนสำรองหรืออะไรทุกคนเข้มแข็งผู้นำไม่มีคุยลาออกเมื่อถามว่าสภาพจิตใจรัฐบาลและพรรค พท.มีระส่ำบ้างหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ทุกคนเข้มแข็งเรารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากทั้งหมดที่เป็นอยู่ บางเรื่องเราไม่อาจควบคุมหรือกำหนดได้ เรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือทำค วามจริงให้กระจ่างและแสดงความจริงใจ ความตั้งใจจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อถามว่าที่นายกฯเสนอพยาน 5 คน แต่ศาลให้เพียงคนเดียว จะเป็นผลบวกหรือลบ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เป็นไร ศาลรัฐธรรมนูญมุ่งเป้าไปที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีเหตุผล เป็นดุลพินิจของศาล เมื่อถามว่านายกฯ จะไม่ลาออกก่อนวันที่ 29 ส.ค.ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เคยมีคุยเรื่องนี้เขากระโดง–ฮั้ว สว.ต้องสางให้ชัดนายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เรียกร้องให้ติดตามตรวจสอบคดีบริษัทครอบครัว น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษาฯ หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษการขุดบ่อน้ำรุกที่สาธารณะ จ.อุบลราชธานี ที่ค้างมา 6 ปี ไม่ใช่เอาแต่เร่งรัดตรวจสอบคดีที่ดินเขากระโดงและฮั้ว สว.ว่า ดีเอสไอคงทำทุกเรื่อง ยอมรับเรื่องฮั้ว สว.ถ้าเป็นจริงตามนั้น ถือเป็นการทำลายระบอบกฎเกณฑ์ระบอบประชาธิปไตย มองได้เป็นเรื่องใหญ่ สาธารณชนสนใจ เขากระโดงเป็นอีกเรื่องที่ใหญ่ ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินไปแล้ว เรื่องที่ดินกว่า 5 พันไร่ ที่คั่งค้างมานานช้ามาเป็น 10 ปีแล้ว จะบอกว่าเร่งรีบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องสางให้เกิดความชัดเจน จะเอา 6 ปีมาเปรียบเทียบกว่า 10 ปี ต้องดูความใหญ่ เชื่อว่าคนทั้งประเทศสนใจเขากระโดงมากกว่า เรื่องอื่นว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย การเพิกถอนที่ดินเขากระโดง รอโปรดเกล้าฯอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เข้ามาจะทำหน้าที่ทันทีปชน.แฉเทงบฯ อ.ต.ก.ลงแต่ จ.พะเยาเมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯนัดพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯปี 2569 วาระ 2-3 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เริ่มพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรฯ วงเงิน 62,960,111,400 บาท นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่างบฯองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) มี 2 โครงการไม่ตอบโจทย์ เสี่ยงล้มเหลว ได้แก่ โครงการตลาดกลาง จ.พะเยา งบปี 69 อ.ต.ก.ของบ 84,623,500 บาท แต่งบ 41,321,500 บาทถูกเทไปพื้นที่เดียวคือ จ.พะเยา กระจุกอยู่จังหวัดเดียว มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร จ.พะเยาไปลาวต่ำกว่า จ.เชียงรายและน่าน 3 เท่า เป็นเหตุผลด้านเศรษฐกิจหรือการเมือง ส่วนโครงการล้งแห่งชาติ อ.ต.ก.ตั้งงบ 11,612,000 บาท ศึกษาต้นแบบสร้างล้งแห่งชาติ เสี่ยงล้มเหลวแต่ต้น รัฐวิสาหกิจมีขั้นตอนอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างล่าช้า เจ้าหน้าที่รัฐส่วนใหญ่ไม่มีทักษะเชิงพาณิชย์ซัดงบ 3.8 พัน ล. ทำพันธุ์ข้าวไม่กี่ร้อยล้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า งบกรมการข้าว 3.8 พันล้านบาท ก้อนใหญ่อยู่ที่แผนยุทธศาสตร์การเกษตรสร้าง 3.3 พันล้านบาท เป็นโครงการพัฒนาพันธุ์ข้าวเกือบ 2 พันล้านบาท และโครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวเกือบ 1.7 พันล้านบาท น่าแปลกใจที่รายละเอียดงบฯส่วนใหญ่เป็นงบครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เหลือเนื้องานทำเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่กี่ร้อยล้านบาท หลังสมาชิกอภิปรายครบถ้วนที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 14 ด้วยคะแนน 251 ต่อ 135 งดออกเสียง 44 ไม่ลงคะแนน 4ลากไส้ตึกใหม่ คค.เว่อร์วัง 3.8 พันล้านนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรค ปชน. อภิปรายถึงงบก่อสร้างตึกสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ ที่สถานีกลางบางซื่อว่า ใช้งบก่อสร้าง 3,832 ล้านบาทเป็นงบผูกพัน 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2569-71 เป็นอาคาร 22 ชั้น พื้นที่ 115,196 ตารางเมตร บนที่ดิน 18.5 ไร่ มีฟังก์ชันเว่อร์ ทั้งห้องฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด ห้องประชุมขนาดใหญ่ ห้องแถลงข่าว ห้องอบรม ห้องปฏิบัติธรรมและโซนดูวิวกระทรวง แต่มีหน่วยงานที่จะมาอยู่ 5 หน่วยคือ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม 3.กรมขนส่งทางราง 4.สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง 5.สำนักงานบริหารทรัพย์สินของรถไฟ มีเจ้าหน้าที่ย้ายมาแค่ 1,018 คน อีก 17 หน่วยงานที่เหลือ ไม่มีหน่วยใดมา ตึกมีเจ้าหน้าที่ 1 พันคน แต่มีที่จอดรถ 1,100 คัน หรือ 1 คน ต่อ 1 คัน ล้างผลาญถึงที่สุด เหตุใด กมธ.งบรายจ่ายปี 69 ชุดใหญ่ ปรับลดงบแค่ 10% แล้วให้ผ่าน หรือมีธงอยู่แล้ว ควรใช้งบแค่ 1,200 ล้านบาท แต่พรรค เพื่อไทยไปช่วยแบกตึก จนเสียเงินเพิ่ม 2,600 ล้านบาทยัดไส้ซื้อโต๊ะห้องสมุดตัวละ 2 แสนนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.อภิปรายว่า ตึกนี้ยังยัดไส้เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะเก้าอี้แพงเว่อร์ เช่น โต๊ะราคาตัวละ 2 แสนบาท 2 ตัว ในห้องสมุด เก้าอี้ 2 ชุด ราคา 111,000 บาท หากเป็นกระทรวงอื่นไม่มีรัฐมนตรีหนุนหลัง ตั้งงบมาแบบนี้อดแน่ ขอให้กลับไปออกแบบมาใหม่ด้วยราคาเหมาะสม จะผลาญงบฯเพื่อใครนายพัฒนา สัพโส กมธ.งบฯปี 69 ชี้แจงว่างบสร้างตึกนี้ราคาแพง เพราะต้องออกแบบเผื่อการ บริหารจัดการคนในอนาคต และก่อสร้างตามมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานที่ได้รับรองจากสหรัฐฯ จึงมีราคาสูง การที่ กมธ.ปรับลดงบลง 10% สูงแล้ว หลังสมาชิกอภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 15ฝ่ายค้านขู่ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมกระทั่งเวลา 15.20 น. ระหว่างที่กำลังเข้าสู่การพิจารณามาตรา 16 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. หารือที่ประชุมว่าการพิจารณามาตรา 15 ช่วงแสดงตนเป็นองค์ประชุมฝั่งรัฐบาลเหลืออยู่แค่ 248 คน ถ้าหายไปอีก 1-2 คน ไม่รู้จะแบกต่อได้หรือไม่ ขอให้รัฐบาลดูแลองค์ประชุมดีๆ บอกว่าไม่ต้องยืมจมูกฝ่ายค้านหายใจ ถึงเวลาอาจต้องอ้อนวอนให้ฝ่ายค้านช่วยต่อลมหายใจ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ตอบโต้ทันทีว่ารัฐบาลรับผิดชอบองค์ประชุม มีจมูกหายใจไม่จำเป็นต้องพึ่งจมูกใคร นายปกรณ์วุฒิโต้กลับว่าขอบคุณที่ยืนยันจะได้รู้ว่าอยู่ด้วยตนเองได้ ฝ่ายค้านจะได้ไม่แสดงตนให้ ทำให้มีเสียงโห่ขึ้นกลางห้องประชุม จนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานที่ประชุม ขอร้องทุกคนให้ความร่วมมือกันและตัดบทเข้าสู่การพิจารณามาตรา 16 ต่อไป ช่วงเย็นเข้าสู่การอภิปรายมาตรา 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ วงเงิน 17,912,719,700 บาท บรรยากาศราบรื่น สส.อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ก่อนลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าวฉะ พณ.ไร้แนวทางรับมือภาษีทรัมป์ต่อมาเวลา 19.00 น. เข้าสู่มาตรา 19 งบฯ กระทรวงพาณิชย์ วงเงิน 4,624,472,300 บาท สส.อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แสดงความเป็นห่วงแนวทางการรับมือภาษีการค้าสหรัฐอเมริกา 19% ที่กระทรวงพาณิชย์จะเป็นหน่วยงานสำคัญช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นกระทรวงพาณิชย์มีแนวทางรับมือถึงสินค้าเกษตรกรรมและผลผลิตที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ งบฯปี 69 ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาดังกล่าว หลัง สส.อภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมเห็นชอบมาตราดังกล่าวกมธ.ขวางตัดงบฯอุดหนุน อบต.จากนั้นเวลา 20.15 น. เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย วงเงิน 238,267,386,600 บาท นายอนุรักษ์ จุรีมาศ กรรมาธิการฯ อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ กมธ.ปรับลดงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในส่วนงบอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่ อบต. 5,259 แห่ง ทั้งในส่วนของไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนคอนกรีต ระบบน้ำประปาดื่มได้ เพราะนายก อบต.ไม่สามารถมาชี้แจงความจำเป็นต่อ กมธ.ได้ อีกทั้งโครงการต่างๆ ล้วนแต่ผ่านการประชาคมของประชาชนในพื้นที่มาแล้ว จึงไม่เป็นธรรมที่จะไปตัดงบอุดหนุน อบต.คลิปว่อนซื้อเสียง สส.สีส้มโหวตงบฯผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค ปชน.หลังจาก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ออกมาเปิดเผยถึงการซื้อโหวต สส.พรรค ปชน.ให้ลงมติผ่านร่างกฎหมายของรัฐบาล โดยนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรค ปชน.โพสต์ข้อความยอมรับว่ามีการขอซื้อโหวตจริง เป็นเงินสด 10 กิโลกรัม แลกกับการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 และร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาว่อนอินเตอร์เน็ต เป็นเสียงบทสนทนาของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโน้มน้าว สส.ผู้ชายรายหนึ่ง ให้ยกมือโหวตผ่านกฎหมาย ยืนยันเฮดไม่ใช่ธรรมนัส ลุงป้อม หรือลุงตู่ ถ้าเรียกมาแล้วจบ เกิน 10 โลขึ้นไป เฉพาะยกมือไม่เกี่ยวกับย้าย ยกมือตามที่มีเอกสารให้ที่มีใบสั่งมา จะแบ่งจ่ายเป็น 3 ครั้ง 10 กิโลกรัม ยกให้เพียง 2 เรื่อง นอกจากนี้ สส.ฝ่ายชายถามจี้ว่าได้ชวนคนอื่นในพรรค ปชน.หรือไม่ ฝ่ายหญิงตอบว่า ไม่ได้ชวน หากโหวตไปแล้วทุกอย่างจะจบลงภายใน 2 วันจะเงียบ ฝ่ายหญิงยังได้ชวนไปพบกันที่ปั๊มน้ำมัน เนื่องจากไม่มีกล้อง แต่ฝ่ายชายตอบว่าเป็น สส. ถ้าไปจะซวยเงิน “ส.” ฟากรัฐบาลแต่เหนือกว่า รบ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาบทสนทนาในคลิปฝ่ายหญิงยังพูดว่าเงินส่วนนี้มาจากฟากรัฐบาลที่เหนือรัฐบาลอีก พรรคสีต่างๆก็ได้เงินก้อนนี้มาเพื่อจัดตั้งพรรค ตอนนี้พรรคต่างๆจะมีบางพรรคที่ล่มสลายไป บางพรรคหลุดไป นี่คือวาระความเป็นจริงของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ามีอันไหนยุบ อันไหนหลุด ยังมีเรือชูชีพ เขาไม่ได้บอกว่าคุณต้องสละเรือคุณ แล้วมาลงเรือชูชีพ เป็นแค่การยกมือ เราไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เพื่อไทย แต่เราแค่ไม่รับ ลองกลับไปคิดดู ลองเรียกเงินมา การเมืองมันเป็นตลาดแบบนี้ เป็นใบสั่งจากผู้ชาย ไม่ยืนยันว่าเป็นพรรค พท.แต่สูงกว่า บุคคลตัวย่อ ส. อย่าเดาเลย เดาก็ไม่ถูก ช่วงท้าย สส.ฝ่ายชายถามว่าใช่ ภท.หรือไม่ แต่ฝ่ายหญิงตอบว่า “โนเวย์ค่ะ”“ชัชวาล” ปูดล่อซื้อ สส.นนท์เซ็นสัญญากู้ต่อมาเวลา 15.20 น. นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรค ปชน.ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เสียงผู้ชายในคลิปเสียงซื้อโหวตงบฯ 10 ล้านบาท ที่ว่อนอินเตอร์เน็ตขณะนี้เป็นเสียงตน ได้รับการติดต่อจากหญิงคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร โทร.ผ่านเเอปพลิเคชันเมสเซ็นเจอร์ของเฟซบุ๊ก ขอนัดเจอตัวเพื่อให้ไปคุยกับผู้ใหญ่จะเป็นใน กทม.หรือต่างจังหวัดก็ได้ และยังได้นัดไปพูดคุยกันที่ร้านกาแฟแต่ปฏิเสธไป ตั้งแต่เป็น สส.มาไม่เคยไปกินกาแฟกับผู้หญิง 2 ต่อ 2 ทราบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวนี้ได้ติดต่อทาบทาม สส.ขอนแก่น พรรค ปชน.อีกคนด้วย เพื่อยื่นข้อเสนอลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีอีก 1 คลิปเสียงที่หญิงคนดังกล่าว ประสานขอให้โหวตผ่านงบฯปี 69 อย่างเดียวโดยเฉพาะ ได้มอบคลิปวิดีโอนี้ให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน.ไปแล้ว เท่าที่คุยกับ สส.ในพรรค ยังมี สส.นนทบุรีอีกหลายรายถูกทาบทามลักษณะนี้ด้วย สส.นนทบุรี ลองไปตามนัดดูมาเเล้ว ทราบว่าฝ่ายที่นัดเจอ จะให้เซ็นหนังสือสัญญาลักษณะหนังสือกู้ยืมเงิน ถ้ารับเงินเเล้วไม่โหวตให้หนังสือสัญญาจะถูกนำไปใช้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเเละหนี้สินต่อไป แต่ สส.นนทบุรี ไม่ได้ตอบตกลงอะไร เพราะตั้งใจจะไปดูเฉยๆ“วิสุทธิ์” ท้า “ไหม” เปิดชื่อคนซื้องูเห่าที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ปชน.ออกมาระบุมีพรรครัฐบาลมาซื้อเสียงโหวตจากพรรค ปชน. ว่า อยากให้ น.ส.ศิริกัญญาเปิดเผยรายชื่อ เห็นว่ามีคลิปเสียงเปิดเผยออกมา อย่าไปปิดบัง ตนเป็นคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯจะได้สอบสวน หากรู้ว่าคนไม่ดีทำผิดจริยธรรม หรือทำในสิ่งไม่ถูกต้อง ต้องเปิดเผยให้สังคมรับรู้เป็นใครพรรคไหน เราเป็นฝ่ายการเมืองมีการกล่าวหากันบ้างแต่ไม่ใช่ศัตรูกัน ทำงานร่วมกันตรวจสอบกันเป็นปกติ เมื่อถามว่าเสียงรัฐบาลเกินมา 10 เสียง แสดงว่าไม่ต้องซื้อเพิ่มแล้วใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่ต้องซื้อแล้ว เห็นว่าเสียงราคา 10 กว่าล้านแพงไป เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ฝ่ายรัฐบาลอยู่กันครบ เสียงเกินพออยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการซื้อเสียง หากมีแจ้งมาที่ตนได้ ไม่ควรเอามากล่าวลอยๆคลุมเครือแบบนี้ไม่เหมาะป.ป.ช.ฟัน พณ.จังหวัดรวยผิดปกติ 81 ล้านวันเดียวกัน นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือนายวัทธิกร หรือ มังกร ใสงาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพาณิชย์ จ.อุบล ราชธานี และพาณิชย์ จ.สุรินทร์ ร่ำรวยผิดปกติ รวม มูลค่า 81,424,952 บาท ไต่สวนพบว่าระหว่างปี 54-58 นายวัทธิกรเป็นพาณิชย์ จ.อุบลราชธานีและสุรินทร์ นำห้างหุ้นส่วนของตนที่ใช้ชื่อญาติและลูกจ้างมาเป็นคู่สัญญากับพาณิชย์ จ.อุบลราชธานี 26 โครงการ และสำนักงานพาณิชย์ สุรินทร์ 7 โครงการ หลังห้างหุ้นส่วนได้รับเงินค่าจ้างแล้ว จะโอนหรือฝากเข้าบัญชีนายวัทธิกร ใสงาม ปี 54-58 นายวัทธิกรและคู่สมรส มีรายได้ตามแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 7,264,160 บาท แต่มีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องรายได้ และไม่สามารถชี้แจงที่มาทรัพย์สินได้ รวมเป็นเงิน 81,424,952 บาท ได้แก่ 1.เงินฝากธนาคารของนายวัทธิกร 5 บัญชี 74,224,952 บาท 2.ที่ดิน ต.อิสาณ อ.เมือง บุรีรัมย์ 1 แปลง มูลค่า 6.2 ล้านบาท 3.รถยนต์ HONDA แบบ HR-V15 1 คัน มูลค่า 1 ล้านบาท ป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลความผิดนายวัทธิกรร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่