สุดท้ายเจ็บทั้งคู่ทั้งไทยและกัมพูชา...แต่คนเอาหัวน้ำหวานไปกินกลายเป็น “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา แม้จะมาทีหลังแต่ก็ดักว่าด้วยการยื่นหมัดเหล็กให้ปฏิบัติตามมิฉะนั้นจะไม่เจรจาเรื่องกำแพงภาษีซึ่งอยู่ในระหว่างเจรจาทำให้ไทยต้องพะวักพะวงไม่น้อย เพราะทั้ง 2 เรื่องล้วนมีความสำคัญต่อความเป็นไปของประเทศ เพราะมันเกี่ยวกับความมั่นคงและการค้าสุดท้ายทั้งไทยและกัมพูชาจึงต้องยอมเจรจาโดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพอำนวยความสะดวกในการให้ใช้พื้นที่ สหรัฐฯและจีนส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยก็ต้องดูว่าผลการเจรจาจะลงเอยอย่างไร?แต่ด้วยแรงกดดันของประเทศมหาอำนาจคงทำให้ทั้งสองฝ่ายน่าจะหาทางที่ดีที่สุดได้ เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาลุกลามไปมากกว่านี้ที่แน่ๆ สหรัฐฯได้ไปหลายอย่างโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลยกลายเป็นว่าเหตุการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สหรัฐฯแทรกตัวเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคนี้อีกครั้งหลังจากที่ถอยห่างมานานแล้วความจริงสหรัฐฯนั้นต้องการที่จะเข้ามานานแล้วแต่กำลังหาวิธีการเข้ามาอย่างเนียนๆไม่ให้เกิดความแตกตื่นโกลาหลเพราะอาเซียนนั้นทางภูมิรัฐศาสตร์ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับสหรัฐฯที่จะต้องเข้ามามีอิทธิพลเพื่อถ่วงดุลกับจีนหลังจากที่จีนได้มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับพูดง่ายๆว่าเกือบจะคุมได้ทั้งภูมิภาคด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะความช่วยเหลือในฐานะ “พี่ใหญ่” ด้านเศรษฐกิจที่เห็นชัดเจนก็คือกัมพูชา ลาว เมียนมา รวมทั้งไทยด้วย“สหรัฐฯ” นั้นจ้องมองอยู่ห่างๆคอยจังหวะที่จะเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ด้วย เพราะมิฉะนั้นพื้นที่อินโดจีนจะเป็นของจีนทั้งหมดในอีกไม่ช้าไม่นานนี้สหรัฐฯใช้จุดแข็งที่เหนือกว่าคือการจัดระเบียบการค้าโลกใหม่ไม่ว่าประเทศไหนก็ต้องดำเนินการตามกติกาที่สหรัฐฯกำหนดทำให้วุ่นวายไปทั้งโลกในปัจจุบันนี้!เน้นย้ำไปที่การทำไม่ให้จีนเติบใหญ่ไปมากกว่านี้นั่นคือการ “แช่แข็ง” จีนด้านเศรษฐกิจ!นี่จึงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุด เพราะการที่สหรัฐฯสั่งให้ไทย-กัมพูชาหยุดยิงโดยใช้เงื่อนไขด้านภาษีมากำกับทำให้ทั้ง 2 ประเทศต้องยอมรับเงื่อนไขนั่นเท่ากับว่าเป็นการลดบทบาท “จีน” ไปโดยปริยาย เพราะแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯมีบทบาทที่เหนือกว่าสามารถทำให้ทั้ง 2 ประเทศยอมรับข้อเสนอโดยที่ “จีน” ไม่สามารถทำได้ เพราะจีนได้แค่ขอร้องให้หยุดยิงเท่านั้น แต่ไม่มีมาตรการหรือเงื่อนไขที่จะทำให้ปฏิบัติตามนั่นเพราะจีนมีความผูกพันกับไทยและกัมพูชาค่อนข้างลึกซึ้งจะตัดไมตรีประเทศหนึ่งประเทศใดไม่ได้ต้องรักษาเอาไว้ทั้ง 2 ประเทศสุดท้ายไทยปะทะกับกัมพูชาแทบเป็นแทบตายกลับไม่ได้อะไรเลยมีแต่สูญเสียทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าชีวิตคนหรือบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้รับความทุกข์จากความหวาดหวั่นต่อสงครามพูดภาษาชาวบ้านก็คือ “หมาเอาไปแดก”...ว่างั้นเถอะ!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม