สุดสะเทือนใจ สองตายายชาวสระแก้วขี่รถพ่วงข้างหนีภัยสงครามตามแนวชายแดนหวังไปหลบภัยศูนย์อพยพ ระหว่างทางถูกรถฟอร์จูนเนอร์ขนแรงงานต่างด้าวพุ่งชนดับอนาถ 2 ศพ คู่กรณีกลัวความผิดเร่งเครื่องหนี แต่สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจสกัดจับแจ้งข้อหาหนัก เผยลูกชายคนโตเหยื่อเป็นทหารพราน ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ต้องเผชิญ ข่าวร้ายสูญเสียพ่อและแม่ในคราวเดียว แต่ต้องปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง ประชาชนร่วมให้กำลังใจและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งสองตายายขี่รถ จยย.พ่วงข้างหนีภัยสงครามถูกรถขนต่างด้าวชนดับคู่ เปิดเผยเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.อ.สุนทร จันทร์คล้าย รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองหมากฝ้าย จ.สระแก้ว รับแจ้งเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 3395 บ้านเขาน้อยพรมสุวรรณ์ หมู่ 6 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.วัฒนานคร และหน่วยกู้ภัยที่เกิดเหตุพบรถ จยย.พ่วงข้าง ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กช 9791 ชัยภูมิ ตกอยู่ไหล่ทางสภาพถูกชนพังยับ ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายประสิทธิ์ บุตรพันธ์ อายุ 70 ปี คนขับ อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ 4 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และนางดา บุตรพันธ์ อายุ 68 ปี ภรรยา ส่วนรถคู่กรณีขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พบเพียงป้ายทะเบียน ขน 8735 ระยอง ตกอยู่เก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่สกัดจับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง เป็นรถคู่กรณีมีร่องรอยเฉี่ยวชนตรงกับหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยมีนายสิริพงษ์ รอดพันธุ์ อายุ 46 ปี เป็นคนขับ และพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 6 คน ควบคุมตัวไปดำเนินคดีพ.ต.อ.ศุภชัย ใจการ ผกก.สภ.หนองหมากฝ้าย เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตายายผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ อ.ตาพระยา ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 16 กิโลเมตร มีความวิตกกังวลจากสถานการณ์สู้รบถือโอกาสขี่รถ จยย.พ่วงข้างเพื่อไปเยี่ยมญาติและหลบภัยสงครามที่ศูนย์อพยพ บริเวณอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกรถคู่กรณีขนแรงงานต่างด้าวพุ่งชนเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายสิริพงษ์ คนขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวและผู้ที่ได้รับทราบเรื่องราวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต กำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารพรานประจำฐานที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ เพื่อดูแลความมั่นคงและสู้รบกับฝ่ายกัมพูชามีการปะทะกันตามแนวชายแดน ต้องเผชิญกับข่าวร้ายสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปพร้อมกันในคราวเดียว ขณะที่ยังต้องรับภารกิจปกป้องประเทศชาติอย่างเข้มข้น โดยประชาชนรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเพื่อนทหาร ต่างให้กำลังใจร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ขณะเดียวกันบรรดาญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า จะนำศพทั้งคู่ไปตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดกุดเวียน ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้วอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่