ถือเป็นช่วงสปอตไลต์ส่องมาที่นางเอกสาวสุดฮอต "ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร" กับผลงานหลากหลายบทบาทที่ได้พิสูจน์ฝีมือ ล่าสุดกำลังได้รับกระแสตอบรับดีในโรงภาพยนตร์ตอนนี้ "ญดา" ก้าวสู่จักรวาลตำนานรักบท "แม่นาก" ยุคใหม่ ในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ "นากรักมาก ม๊ากมาก" โดยความร่วมมือของบริษัท แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ “โหน่ง ชะชะช่า” นำแสดงโดย โหน่ง ชะชะช่า, หม่ำ จ๊กมก, เท่ง เถิดเทิง ที่กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 15 ปี โดย “ญดา-นริลญา” รับบท “นาก” ข้ามยุคมาตามหารักแท้ที่กลับชาติมาเกิดเป็น คริส ซุป’ตาร์ขวัญใจมหาชน รับบทโดยพระเอกหนุ่ม “คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์” กองถ่ายหนังผีของหม่ำ เท่ง โหน่ง เลยมีผีจริงร่วมจอ งานนี้หนัง “นากรักมาก ม๊ากมาก” ได้รับกระแสชื่น ชมว่าครบรสทั้งความ ฮา ซึ้ง น้ำตาไหล แก๊ง 3 ช่า “หม่ำ-เท่ง-โหน่ง” คัมแบ็กจัดเต็ม "คริส-ญดา" เคมีดีมาก โดยเฉพาะ “ญดา” ได้รับคำชมว่าถ่ายทอดอารมณ์ความ รู้สึกของแม่นากออกมาได้ดีเยี่ยม ทำเอาเจ้าตัวสุดปลื้มเผยว่า “เรื่องนี้เป็นผีในเวอร์ชันที่หนูไม่เคยเล่น อยู่ในโหมดหนังผีที่เป็นคอมเมดี้ด้วยค่ะ ใครจะคิดว่าจะได้เป็นผีแล้วเล่นคอมเมดี้ด้วย หนูรู้ว่าคนไทยรักแก๊งสามช่าแล้วในพาร์ตของหนูเอง หนูก็ไม่เคยเล่นในโหมดโรแมนติกและคอมเมดี้ ขอบคุณที่ทุกคนเปิดใจให้หนู และขอบคุณสำหรับทุกกระแสติชมค่ะ”เรียกว่าเป็นนางเอกที่มีผลงานให้ได้เซอร์ไพรส์ตลอด ล่าสุดคุณดิว-ปิ่นกมล มาลีนนท์ คว้าตัว "ญดา นริลญา" ประกบคู่น้องใหม่ “แทน ดวงแก้ว” ลงซีรีส์แซฟฟิกเรื่องล่าสุด “Play Park รักไม่คาดฝัน” ของ BEC World Original Series หลายคนก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันที่ญดามาเล่น? "ใช่ค่ะ ที่หนูเคยให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้ว่ามีติดต่อมาแบบเยอะแนวแซฟฟิกแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจรับสักที เพราะว่ารอพี่ดิวนี่แหละค่ะ ขอบคุณพี่ดิวมากๆที่ให้โอกาส เล่นกับแทน-ดวงแก้ว มาเจอกันครั้งแรกก็เซอร์ไพรส์เลย เพราะแทนยังไม่ได้มีผลงานในวงการมาก่อนเลย นี่คือเรื่องแรกของแทนเลย หนูแกะกล่องเค้าเลยสำหรับด้านการแสดง ส่วนสัญญาช่อง สัญญายังไม่หมดเลยค่ะ รักช่อง 3 มากค่ะ (ยิ้ม) ยังอยู่ค่ะ" กับความสำเร็จในการพิสูจน์ฝีมือของญดาสู้มาตลอดจนถึงตอนนี้ รู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำมามันเห็นผลมั้ย? “มองกลับไปตอนเด็กๆเลยตั้งแต่เข้าวงการ เรียนรู้ 13 มองไม่เห็นอะไรเลย แล้วก็ไม่คิดว่าจะไปได้ด้วยในวงการบันเทิง เหมือนเราไม่มีต้นทุนเลย ไม่มีเส้นสายอะไรในวงการบันเทิง มาด้วยการฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง มีโอกาสเข้ามาก็ไป มีการแคสต์อะไรไปตลอด วันนั้นไม่คิดเลยว่ามันจะประสบความสำเร็จได้ ก็ใช้ระยะเวลาอยู่ตั้ง 8 ปีกว่าจะมาแจ้งเกิดหนังเรื่อง “ร่างทรง” แล้วก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นด้วยเพราะว่าตอนนั้นเรียนไปด้วยแล้วก็ทำงานไปด้วย ทำอาชีพนี้เป็นหลักโดยที่ไม่มีอาชีพอื่นสำรองบวกกับการที่สถานการณ์บีบบังคับที่ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุ 13 มันทำให้หนูแกร่งมากแล้วอดทนกับหลายๆอย่าง อดทนกับความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบาก สถานการณ์ต่างๆ ที่มันบีบบังคับ พอมาถึงวันนี้ทำให้รู้สึกว่าบางที เราไม่ต้องกลัวกับการเริ่มต้นใหม่หรือการทำอะไรที่เราไม่เคยทำ มองย้อนกลับไป ณ วันนั้นหนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะมีวันนี้ บางทีมันก็เหมือนกับการเสี่ยงดวงเหมือนกันแต่สิ่งหนึ่งที่หนูชัดเจนมากมันคือการ รักในสิ่งที่หนูทำ อยากให้กำลังใจคนที่ยังไม่มีเป้าหมายหรือยังไม่มีความฝันเหมือนกันเพราะว่าวันนั้นหนูก็เป็นคนที่ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรในชีวิตที่มันใหญ่มากเลย แค่ต้องเอาชีวิตรอดไปวันๆในวันนั้นมันยังทำให้หนูมีวันนี้ได้เลย หนูก็เลยรู้สึกว่าจุดเริ่มต้นมันต้องมาจากสิ่งที่เรามีแพชชัน สิ่งที่เรารักอยากทำ วันนั้นหนูไม่มีความรู้เลยค่ะ หนูไม่ได้เก่งเรื่องการแสดงเลย แต่หนูมาฝึกฝนพัฒนา ปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะมากแล้วสุดท้ายวันที่เราประสบความสำเร็จมันก็มาถึง เราไม่รู้ว่ามันจะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำเลยมันไม่มีทางสำเร็จ อย่างน้อยต้องลงมือทำไปก่อนแล้วก็เสี่ยงดวงเอาว่ามันจะดีไม่ดี หนูมีสิ่งที่ยึดเอาไว้คือหนูรักในการแสดง วันหนึ่งเราต้องประสบความสำเร็จเพราะเราไม่ยอมแพ้ มีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้าง แต่ระหว่างทางเราก็ดูดวงมาเรื่อยๆ คือได้กำลังใจจากหมอดูนะคะ ขอบคุณหมอดูทุกคนที่ได้ชี้แนะแนวทาง โชคดีที่หนูไม่เจอที่ให้ไปมูที่นั่นทำอะไรที่นี่ หมอดูที่หนูดูมาตั้งแต่ตอนเด็กก็จะบอกแค่ว่าอนาคตจะมีชื่อเสียงนะ บอกในวันที่ไม่มีอะไรเลย ยังไม่ได้งานในวงการสักงานเดียว หนูไม่รู้ว่าตอนนี้หมอคนนี้เค้าหายไปไหนแล้ว จำได้ค่าดูตอนนั้นน่าจะ 199 บาท จริงๆหนูดูหลายท่าน หนูมีพระที่เคารพนับถือที่ต่างจังหวัด ท่านก็ดูดวงให้บอกกับหนูว่าหนูจะมีชื่อเสียงตอนหนูอายุ 24 จะเริ่มมีตั้งแต่ 22 เป็นต้นมา ตอนนั้นคือหนูดูตอนอายุ 10 กว่าขวบ ตอนร่างทรงคืออายุ 22 ปีที่แล้วหนูอายุ 24 ก็มีขวัญฤทัย สืบสันดาน ก็แจ้งเกิด จริงๆก็คงเพราะหนูทำงานหนักมาก ส่วนที่ท่านบอกว่าหนูจะมีชื่อเสียงแล้วก็บอกว่าให้ทำ หนูก็เลยมีความเชื่อมั่นในตอนนั้น พัฒนาฝีมือตัวเองมาถึงวันนี้” โฟกัสการทำงานแบบนี้มีเวลาที่จะมองสิ่งรอบตัวมั้ย อย่างเรื่องหัวใจ?“ตอนนี้นะคะ สิ่งที่มองเลยคือพาร์ตของวงการบันเทิง และไปมองหาในธุรกิจอีกคือตอนนี้สิ่งที่คิดในหัวทุกวันก็คือทำอะไรดี ดีลอะไรดี เป็นคนที่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่าทุกวันนี้ดีลช่างหน้าผมเสื้อผ้าเองจริงๆ หนูอยากได้คนที่เหมาะกับงานจริงๆ ส่วนเรื่องหัวใจนี่มันเป็นเรื่องที่พูดยากมากเพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรามันขึ้นอยู่กับคนอีกคนด้วย หนูรู้สึกว่าความรักก็เป็นดวงเหมือนกันนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะได้เจอใคร เรื่องความรักเราไม่สามารถที่จะเดินไปจิ้มได้เลยว่าชอบคนนี้เอาคนนี้ มันเป็นปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือการคอนโทรลจากเรา มันจะโชคดีถ้าเกิดเราได้เจอคนที่ดี เจอคนที่เค้ารักเราแล้วเรารักเค้าซึ่งมันเป็นเรื่องที่หนูรู้สึกว่าหนูจะรู้สึกให้คุณค่ากับสิ่งนี้มากถ้าหนูเจอแล้ว” ถ้าเจอที่ใช่ช่วงนี้ไม่ปิดกั้นใช่มั้ย? “คือจริงๆหนูเป็นเด็กที่ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าตัวเองจะ โรแมนติกเลยแต่พอเริ่มโตขึ้นมา เริ่มได้เรียนรู้ว่าเราเป็นคนที่โรแมนติกนะ เราเป็นคนที่ให้คุณค่าในเรื่องของความ รู้สึกและความสำคัญ สังเกตได้จากคนในครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ หนูรู้สึกว่าหนูเป็นคนทุ่มเทให้กับความรักคล้ายๆ กับเวลาทุ่มเทให้กับการทำงาน จากพื้นฐานที่เป็นคนที่ใส่สุดในทุกเรื่อง ก็เลยรู้สึกว่าถ้ามีความรักอะสุดแน่นอนหนูจะทุ่มเทค่ะ (ยิ้ม) จะให้ใจกับคนที่หนูรักมาก ถ้าเกิดเจอคนที่รักก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักครั้งนี้มันแบบประสบความสำเร็จเหมือนงานที่หนูทำทุกอย่างเพื่อให้มันประสบความสำเร็จ ถ้ารักก็รักไปสุด ถ้ามีเราจะมาเปิดตัวนะคะ”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่