พูดถึง “ราชวงศ์นอร์เวย์” ถือเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่มีเสถียรภาพที่สุดในโลก และเป็นราชวงศ์สุดท้ายในยุโรปที่ยังไม่มีการเปลี่ยนกษัตริย์เลย ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองมาจนถึงปัจจุบัน โดย “สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์” พระชนมพรรษา 88 พรรษา ทรงครองราชบัลลังก์มาตั้งแต่ปี 1991 และยังไม่มีแผนสละราชสมบัติ แม้จะมีแรงกดดันเรื่องสุขภาพ แต่พระองค์ก็ได้รับความนิยมสูงจากประชาชนชาวนอร์เวย์ ถึงกับมีกระแสเรียกร้องให้ทรงครองราชย์ไปตลอดพระชนม์ชีพกระนั้น ราชบัลลังก์นอร์เวย์ก็ถูกสั่นคลอนมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะข่าวฉาวล่าสุดที่สร้างความปั่นป่วนให้สังคมโลก เมื่อ “มาริอุส บอร์ก ฮอยบี” พระโอรสเลี้ยงของ มกุฎราชกุมารนอร์เวย์ “เจ้าฟ้าชายโฮกุน” ซึ่งเป็นลูกติดของ “เจ้าหญิงเมตเต–มาริต” ถูกตั้งข้อหาข่มขืน, ล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายในคดีที่มีผู้ต้องสงสัยเป็นจำนวนสองหลัก ขณะนี้ได้รับการประกันตัวออกมาแล้วเพื่อรอการพิจารณาคดีงานนี้ราชวงศ์ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและห่วงใยต่อเหยื่อ พร้อมย้ำว่า “มาริอุส” ไม่ได้เป็นสมาชิกของราชวงศ์และไม่มีบทบาททางราชการใดๆตั้งแต่เด็ก ด้าน “เจ้าหญิงเมตเต-มาริต” ทรงยอมรับกับสื่อว่า นี่เป็นปีที่ยากที่สุดของครอบครัว และราชวงศ์ได้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต“ลิตเติล มาริอุส” วัย 28 ปี ก่อเรื่องอื้อฉาวให้ราชวงศ์นอร์เวย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเสพติดโคเคน ทำให้มีการขุดขุ้ยต่อว่าบิดาแท้ๆ ของเขา “มอร์ตัน บอร์ก” ก็เคยถูกจำคุกในข้อหาเสพยาและก่ออาชญากรรมรุนแรง สมัยเด็กๆเขาเคยอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับมารดาและน้องๆคนละพ่ออย่างอบอุ่น แต่ทุกวันนี้แยกตัวไปใช้ชีวิตตามลำพังอยู่ในบ้านหลังใหญ่บริเวณใกล้เคียงกับพระตำหนักย้อนชีวิตของ “เจ้าหญิงเมตเต–มาริต” มีประวัติไม่ธรรมดาเลย ก่อนจะอภิเษกสมรสเป็นพระวรชายาของ “เจ้าฟ้าชายโฮกุน” ชีวิตวัยรุ่นของเธอห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบมาก เธอเกิดในครอบครัวสามัญชน ที่เมืองคริสเตียนซันน์ ทางตอนใต้ของนอร์เวย์ บิดาเป็นนักข่าว และมารดาเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร เธอได้รู้จักกับ “เจ้าฟ้าชายโฮกุน” ครั้งแรกผ่านทางเพื่อนของทั้งสองฝ่าย ในขณะนั้นเธอเป็นบริกรหญิง ที่มีลูกติดวัย 4 ขวบ จากความสัมพันธ์กับชายคนหนึ่งที่ต้องโทษในคดียาเสพติด และมีข่าวลือสะพัดด้วยว่าที่ผ่านมาเธอเป็นที่รู้จักในนามของนักเต้นออสโล และมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด บางกระแสระบุว่าเธอได้รับการรักษาเพื่อบำบัดสารเสพติด และมีประวัติว่าเป็นนักเที่ยวหนักอย่างไรก็ดี แม้จะค้านสายตาชาวนอร์เวย์ทั้งประเทศ แต่พิธีหมั้นระหว่างเจ้าชายรูปงามกับหญิงสามัญชนก็เกิดขึ้นจนได้ในปี 2000 โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่พระวรชายาองค์ใหม่ “เมตเต-มาริต” กล่าวว่า อดีตที่ผ่านมาในช่วงวัยรุ่นของเธอ ทำให้เธอเข้มแข็งกว่าวัยรุ่นทั่วไป ยังมีดราม่าเกิดขึ้นระหว่างพระราชพิธีอภิเษกสมรสในปี 2021 ทำให้งานต้องล่าช้าไปหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากฝ่ายเจ้าสาวเอาแต่ร่ำไห้ตลอดทั้งพิธี นั่นคือครั้งแรกที่ “เด็กชายมาริอุส” โอรสนอกสมรส ได้ปรากฏตัวขึ้นบริเวณระเบียงของพระราชวัง ท่ามกลางการยิงสลุตแสดงความยินดี ภายหลังคู่รักราชวงศ์นอร์เวย์ได้ให้กำเนิดทายาทด้วยกัน 2 พระองค์ คือ “เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซานดรา” และ “เจ้าชายสแวร์เรอ มักนุส”“เจ้าหญิงเมตเต-มาริต” ทรงใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจประชาชน โดยทุ่มเททำงานหนักเพื่อสาธารณชนตั้งแต่สนับสนุนงานด้านเยาวชน, สิทธิมนุษยชน, วรรณกรรม, การศึกษา และการรณรงค์เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ พระองค์ยังทรงเป็นทูตพิเศษของโครงการ UNAIDS ของสหประชาชาติ ทรงมุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียม และสร้างโอกาสทางสังคมให้คนชายขอบ จนได้รับเสียงชื่นชมในฐานะที่เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลง, การเติบโต และความอดทน ภายใต้แรงกดดันของสาธารณชน กระนั้น ระยะหลังมานี้ทรงต้องลดบทบาทงานสาธารณะลง เนื่องจากป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรังอีกหนึ่งจุดอ่อนของราชวงศ์นอร์เวย์คือ “เจ้าหญิงมาร์ธาหลุยส์” พระราชธิดาองค์โตของ “สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5” โดนเสียงวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการใช้ตำแหน่งเจ้าหญิงในการโปรโมตธุรกิจส่วนตัว ทั้งด้านพลังจิต, จิตบำบัดทางเลือก และคลินิกบำบัดจิตวิญญาณ บีบให้เจ้าหญิงองค์โตต้องยอมสละบทบาทหน้าที่ความเป็นราชวงศ์ในปี 2022 กระนั้น เจ้าหญิงก็ยังสร้างเรื่องไม่หยุด เรียกเสียงฮือฮาเพิ่มจากการเสกสมรสครั้งที่สองกับหมอผีชื่อดัง “ดูเร็ก แวร์เรตต์” เมื่อปี 2024.มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม