กองปราบฯรวบป้ามหาภัยตีเนียน ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท ทำทีซื้อของจ่ายแบงก์พันแล้วสร้าง ความสับสนให้พนักงานขายจนมึน จากนั้นฉวยจังหวะทำแบงก์ 500 ที่พนักงานทอนมาตก แล้วโวยวายว่าทอนไม่ครบ พนักงานตามเหลี่ยมไม่ทันทอนให้อีก 500 ก่อนป้ามหาภัยจะยกเลิกซื้อของขอเงินคืน แล้วก้มเก็บแบงก์ 500 ด้วยความไวหนีออกจากร้าน แฉตระเวนก่อเหตุหลายพื้นที่ใน 3 จังหวัด สารภาพเลือก เหยื่อเป็นพนักงานวัยรุ่นเพราะจิตอ่อน ส่วนเงินที่ได้ นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน-ฝากธนาคารเหลี่ยมมิจฉาชีพวัยป้าครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เรืองวิทย์ ดวงจินดา สว.กก.1 บก.ป. จับกุม น.ส.น้ำผึ้ง เนตร์ทิพย์ อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ลงวันที่ 9 มิ.ย. 68 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ได้ที่ห้องเช่า ภายในซอยสุขุมวิท 76 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการสืบเนื่องจากช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.น้ำผึ้งแต่งกายอำพรางปิดบังใบหน้า หลอกลวงพนักงานในร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆหลายพื้นที่ ทำทีเลือกซื้อสินค้าที่มีราคา 49 บาท และใช้แบงก์ 1,000 นำมา จ่ายที่เคาน์เตอร์ หลังจากพนักงานทอนเงินให้ 951 บาท เป็นธนบัตร 500 บาท 1 ฉบับ ธนบัตร 100 บาท 4 ฉบับ และเหรียญ น.ส.น้ำผึ้งจะปัดธนบัตร 500 บาท ตกลงมาแล้วใช้ช่วงเอวทับเงินไว้กับเคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นจะโวยวายใส่พนักงานว่าทอนเงินไม่ครบจนพนักงานคิดว่าเป็นจริงต้องนำเงินมาคืนให้อีก 500 บาท จากนั้นผู้ต้องหายังต่อว่าสินค้าราคาสูงขึ้นจากที่เคยซื้อ ขอยกเลิกการซื้อและขอคืนเงินทำให้พนักงานขายสับสนคืนธนบัตร 1,000 บาทให้ จากนั้นผู้ต้องหาจะก้มตัวลงเพื่อให้แบงก์ 500 บาท ที่ทับไว้ตกลงมาที่พื้นแล้วก้มเก็บก่อนรีบเดินออกจากร้านไปจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.น้ำผึ้งตระเวนก่อเหตุกับร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท ในหลายท้องที่ในหลายจังหวัด เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพฯ จนมีการโพสต์เตือนภัยในสื่อสังคมออนไลน์ถึงพฤติกรรมผู้ต้องหา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. เห็นการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนสน.มีนบุรี ขอศาลออกหมายจับ กระทั่งจับกุมได้พร้อมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ขณะที่ก่อเหตุสอบสวน น.ส.น้ำผึ้งรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง แต่ละวันจะออกเดินทางจากห้องพักประมาณเที่ยงนั่งรถประจำทางบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง ตระเวนหาร้านค้าที่มีพนักงานเป็นวัยรุ่นอายุน้อยๆ เพราะเป็นเหยื่อที่หลอกลวงง่าย เงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและฝากเข้าบัญชีธนาคาร นำตัวส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่