เพื่อไทยแท็กทีมตะเพิดภูมิใจไทย “อนุสรณ์” ซัดถ้าอยู่เป็นรัฐบาลแล้วไม่มีความสุข ให้ออกไปเป็นฝ่ายค้าน “สุทิน” แซะคำขู่ “เสี่ยหนู” แค่ออกลีลาหวังรักษาเก้าอี้หนุนเดินหน้า ปรับ ครม. ผลักดันผลงานรัฐบาล ประธานวิปรัฐบาล เชื่อไม่มีพรรคใดอยากเป็นฝ่ายค้าน มั่นใจ 2 พรรคยังไม่ถึงจุดแตกหัก “อนุทิน” ยื่นคำขาด ย้ำถูกริบโควตา กระทรวงมหาดไทย ภูมิใจไทยพร้อมนั่งฝ่ายค้าน บอกจับมือทำงานร่วมกับพรรคประชาชนได้ แต่ห้าม แตะมาตรา 112 เด็กพลังประชารัฐจี้รัฐบาลรีบแบ่งเค้ก ครม.ให้ลงตัว หยุดชิงอำนาจ เอาเวลาไปแก้ปัญหา ปากท้องประชาชน “โรม” อ่วมถูกอดีตแพทย์ใหญ่ ฟ้อง 50 ล้านบาท ผลพวงศึกซักฟอกปมชั้น 14การเดินหน้าปรับ ครม.ของพรรคเพื่อไทยที่มุ่งยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย ทวีความเข้มข้นและขัดแย้งมากขึ้น ล่าสุด สส.เพื่อไทยระบุหากพรรคร่วมรัฐบาลใดไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในการปรับ ครม. ให้ออกไปเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันเสียงแข็ง หากพรรคภูมิใจไทยถูกริบโควตา รมว.มหาดไทย ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไล่พรรคร่วมไม่พอใจก็ออกไปเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก วันที่ 23-24 มิ.ย.ออกไป เพื่อรอการปรับ ครม.ให้เสร็จก่อนว่า ไม่มีใครทราบจะปรับ ครม.เสร็จเมื่อใด เป็นอำนาจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนเดียว ขอให้เชื่อมั่นนายกฯหากปรับ ครม. การทำงานรัฐบาลจะดีขึ้น แต่หากไม่ปรับรัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็ทำงานได้ นายกฯไม่ติดยึดจะปรับหรือไม่ปรับ ครม. ส่วนรัฐมนตรีที่จะเข้ามาใหม่ ขอให้พร้อม ความเดือดร้อนประชาชนรอไม่ได้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคมีปัญหาภายในก่อนปรับ ครม.เป็นวิถีแต่ละพรรค ต้องบริหารจัดการแก้ปัญหาในพรรคตัวเองให้ดี อย่าส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ส่วนที่บางพรรคแสดงอาการไม่พอใจ หากถูกปรับเปลี่ยนกระทรวงนั้น หากอยู่เป็นรัฐบาลแล้วไม่มีความสุข ไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนงานรัฐบาลได้ดีขึ้น ก็ตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านได้ เป็นวิถีการเมืองระบอบประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็ทำงานเพื่อประชาชนได้แซะ “อนุทิน” อยากรักษาเก้าอี้นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หากโดนยึดเก้าอี้ รมว.มหาดไทยว่า เป็นความพยายามรักษาสถานะตัวเอง ไม่เพียงแค่นายอนุทิน แต่รวมถึงทุกคนทุกพรรคที่คาดจะถูกปรับออกก็แสดงออกหลายวิธี ทั้งต่อรองขู่ ขอความเห็นใจ สังคมมองออกว่า บุคคลใดใช้วิธีอย่างไร หากเป็นประเทศไม่คุ้นการมีรัฐบาลผสมเป็นเรื่องน่าห่วง แต่ไทยมีประสบการณ์สูงเรื่องรัฐบาลผสม แม้รู้สึกน้อยใจ งอน กระทบกระทั่งบ้าง แต่จะหาจุดลงตัวได้เสมอ มองว่าถึงเวลาปรับ ครม.แล้ว ให้หลายนโยบายเดินหน้า ผลักดันผลงานเพื่อประชาชน การปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ แต่ในบริบทการเมืองขณะนี้ หากไม่เอื้ออำนวยให้ปรับก็น่าห่วง ขึ้นอยู่กับ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะชั่งน้ำหนัก ดูภูมิต้านทานรัฐบาล หากภูมิต้านทานแข็งแรงก็ปรับได้ แต่ถ้าภูมิต้านทานเปราะบางก็ยังไม่เหมาะ เชื่อนายกฯจะตัดสินใจสอดคล้องสถานการณ์ เพราะมีคณะทำงาน ทีมที่ปรึกษามีประสบการณ์มองคำขู่ ภท.แค่เกมต่อรองนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การที่พรรคภูมิใจไทยระบุพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หากถูกยึดกระทรวงมหาดไทยในการปรับ ครม.นั้น เป็นธรรมดาทุกคนต้องพูดอย่างนั้น ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน เป็นเรื่องปกติของการต่อรอง คงไม่ถึงขั้นที่พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน สุดท้ายต้องเจรจากัน การเมืองต้องยอมรับข้อเท็จจริง หัวหน้าพรรคต้องเจรจากัน ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวล ส่วนการวิเคราะห์ หากไม่มีพรรคภูมิใจไทย เสียงรัฐบาลจะน้อยลง เพราะพรรคภูมิใจไทยมี สส.เป็นอันดับ2 ในรัฐบาลนั้นทุกคนมีตัวเลขในมือที่ต้องเจรจา การพูดเช่นนั้น เป็นเทคนิคการเจรจาทางการเมืองเรื่องปกติ ไม่มีอะไรตื่นเต้น หรือน่ากังวล ไม่มีร้ายแรงหรือแตกหักกันไล่ “เสี่ยหนู” อึดอัดให้แยกทางนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนมองทุกวันนี้คือ รัฐบาลทำงานคนละทิศทาง ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยมีให้เห็นหลายครั้งในการพิจารณากฎหมาย การทำงานแต่ละกระทรวงไม่สอดประสานกัน ถ้าเป็นอย่างนี้ประเทศและประชาชนเสียประโยชน์ เมื่ออยู่กันไม่ได้ ควรต่างคนต่างเดิน ไม่ควรทำงานด้วยกันต่อ ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยมีแต่ลุกลามขยายตัว ไม่มีท่าทีกลับมาดีเหมือนเดิม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ขู่พร้อมเป็นฝ่ายค้านถือเป็นเรื่องถูกต้อง นายอนุทินอึดอัดทำงานด้วยกันไม่ได้ ควรแยกกันเดิน ไม่ว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ทำงานให้ประชาชนได้ ควรถือจังหวะสถานการณ์สุกงอมปรับ ครม.“หนู” ยื่นคำขาดริบ มท.พร้อมนั่งฝ่ายค้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมดึงกระทรวงมหาดไทยกลับคืนว่า ยืนยันว่าหากมีการดึงกระทรวงมหาดไทย หรือโควตาพรรคภูมิใจไทยกลับไป พร้อมเป็นฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยไม่เคยต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ ยืนยันตามโควตาข้อตกลงเดิม ตั้งแต่จับมือเข้าร่วมรัฐบาล ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงจ้องดึง เก้าอี้พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยหรือสลับกระทรวงอื่นๆของพรรค ทั้งที่ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก็เห็นเป็นประจักษ์อยู่แล้วว่ามีผลงานให้เห็นมาตลอด รวมถึงการสนับสนุนนายกฯและรัฐบาลอย่างเต็มที่ หากดึงโควตาของพรรคคืนจริง ขอไปเป็นฝ่ายค้านดีกว่าจับมือ ปชน.ได้แต่ห้ามแตะ ม.112นายอนุทินกล่าวว่า ยืนยันสามารถร่วมงานได้ทุกพรรค พร้อมทำงานกับทุกพรรคการเมือง แต่เงื่อนไขเดียวของพรรคภูมิใจไทยคือการไม่แตะ มาตรา 112 เท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถร่วมงานกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า พรรคภูมิใจไทยจับมือและทำงานร่วมกับทุกพรรคได้ ไม่มีปัญหา ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ยังมีงานใหญ่ที่ทำให้ประเทศอยู่ตลอดเวลาภท.ตบปากแมลงหวี่พูดไร้สาระนายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไล่พรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สบายใจการทำงานไปเป็นฝ่ายค้านว่า เอาอำนาจอะไรมาพูด อำนาจปรับ ครม.อยู่ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลรอฟังนายกฯเท่านั้น แต่เสียงแมลงหวี่ แมลงวัน ทำให้รำคาญได้ ในฐานะ สส.เขต ลงพื้นที่ตลอด ประชาชนไม่อยากเห็นการปรับ ครม. แต่กังวลเรื่องปากท้องคือ สิ่งที่ควรแก้ไข รวมถึงปัญหาชายแดนที่ลุกลามบานปลาย ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องปรับ ครม. อย่าไปหมกมุ่นมาก ยิ่งวุ่นวาย ภาพลักษณ์ประเทศยิ่งไม่น่าเชื่อถือ ใครอยากมาลงทุน ควรจัดลำดับความสำคัญปัญหา สิ่งที่ต้องจัดการก่อนคือ ปัญหาปากท้อง ปัญหาชายแดน เรื่องปรับ ครม.เพลาๆบ้าง พวกแมลงหวี่ แมลงวันเลิกส่งเสียงได้แล้ว จะได้เห็นข่าวที่เชื่อถือจริงๆ ไม่ใช่มีแต่เสียงหึ่งๆของแมลงวัน หาสาระไม่ได้พปชร.จี้เร่งแบ่งเค้กให้ลงตัวนายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ช่วงสมัยปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่พบพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่ตลาดสดเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีเสียงสะท้อนทิศทางเดียวกันคือ เศรษฐกิจไม่ดี วิงวอนให้รัฐบาลสนใจปัญหาปากท้องประชาชนให้มากกว่านี้ ขอแนะนำให้พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล เร่งเจรจาแบ่งผลประโยชน์กันให้ลงตัวได้แล้ว ตกลงกันให้จบ ใครจะได้กระทรวงไหน อย่ามัวแต่ชิงอำนาจการเมืองกันไปมา ตอนนี้ประชาชนเบื่อพฤติกรรมพวกท่าน ขณะที่ชาวบ้านจะอดตายอยู่แล้ว รีบๆแก้ปัญหาการเมือง แล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านอย่านำมติแพทยสภาโยงศาลฎีกาฯนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีแพทยสภาลงมติยืนยันมติเดิมลงโทษ 3 นายแพทย์ ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า ประเด็นแพทยสภากับประเด็นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีชั้น 14 เป็นคนละประเด็นกัน แม้แพทยสภาลงมติยืนยันลงโทษ 3 นายแพทย์ แต่แพทย์ทั้ง 3 คนยังมี สิทธิเรียกร้อง เพื่อเข้าถึงความเป็นธรรมให้ตัวเอง สามารถสู้ต่อ รวมถึงกระบวนการยื่นศาลปกครองได้ จึงอาจยังไม่จบแค่ชั้นแพทยสภา ยืนยันประเด็นแพทยสภากับประเด็นไต่สวนของศาลฎีกาฯเป็น คนละกรณี ไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่ควรนำมาเชื่อมโยงให้สับสน ฝ่ายกฎหมายนายทักษิณเชื่อมั่นว่า กระบวนการทางราชทัณฑ์จบแล้ว ถือว่านายทักษิณถูกคุมขังเป็นการคุมขังในโรงพยาบาล ครบถ้วนแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล ไม่มีใครก้าวล่วงได้ฟ้อง “โรม” 50 ล้าน ซักฟอกปมชั้น 14วันเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ในกรณีชั้น 14 ปรากฏว่า ได้รับคำฟ้อง โดย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ อดีตแพทย์ใหญ่ที่พัวพันกรณีชั้น 14 ฟ้องต่อศาลแพ่ง ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาท ส่วนตัวไม่กังวลคดีนี้เลย ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรตรวจสอบรัฐบาล และการทุจริตของรัฐบาล ย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า จะต้องมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ในการต่อสู้คดีนี้ ถือเป็นการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรต่อกรณีชั้น 14 ต่อไป เพียงแต่เวทีนี้ไม่ใช่สภา แต่เป็นศาลแพ่งธนบุรี ขอให้ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ สส.ของตน มักเอาคำอภิปรายของตนไปฟ้องร้องดำเนินคดี คงหวังให้หยุดขุดคุ้ย ชะลอในการทำหน้าที่ คงต้องบอกว่า จะไม่มีวันเกิดขึ้น ทุกคำฟ้องล้วนสร้างความมุมานะ อุตสาหะมากขึ้น เพราะถือเป็นการต่อสู้ เพื่อหลักนิติรัฐ จะไม่ให้ใครอยู่เหนือกฎหมายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่