มอบตัวแล้วมือปืนวัย 28 ยิงคู่กรณีวัย 50 ปี สาหัสกลางร้านอาหารดังย่านบางเขน อ้างคนเจ็บชักปืนจะยิงพ่อก่อนเลยต้องใช้ปืนที่พกมาป้องกันตัวและช่วยพ่อ ส่วนพ่อมือปืนวัย 68 เผยเบื้องหลัง ฝั่งคนเจ็บนัดมาคุยขอแบ่งเงินกรณีที่ประมูลโครงการรื้อถอนอาคารสร้างตึกสรรพากร สุขุมวิท 11 ได้ แต่ตกลงไม่ได้ คนเจ็บเลยปรี่เข้าล็อกคอ และชักปืนจะทำร้าย ลูกชายเลยใช้ปืนยิงช่วยพ่อ และยังถูกกลุ่มคนเจ็บรุมทำร้ายอีก หลังสอบสวนเสร็จ ตร.คุมตัวฝากขัง เจ้าตัวยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อม หลักทรัพย์ 2 แสนบาท ศาลอนุญาตตามคำร้องจากเหตุยิงสนั่นในร้านอาหารบางบัว บางเขน หลังกลุ่มผู้ประมูลงานรื้อถอนตึกสรรพากร ซ.สุขุมวิท 11 ร่วม 100 คน นัดคุยงานมื้อเที่ยงในห้องจัดเลี้ยง ก่อนที่นายภิเษก หรือโอ สำเภาเงิน อายุ 28 ปี ชักปืน 9 มม.ยิงนายพรชัย โหรสกุล อายุ 50 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าหน้าอกซ้ายใต้ราวนมบาดเจ็บสาหัส รีบนำตัวส่ง รพ.เปาโล เกษตร แฉรอดตายเหลือเชื่อเพราะกระสุนถูกเหรียญพระหลวงพ่อดี วัดสุวรรณาราม จ.นครปฐม ปี 2516 ที่ห้อยไว้จนบิดเบี้ยว ส่วนสาเหตุตำรวจ สน.บางเขน คาดปมแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.ล่าสุดมือปืนหนุ่มมอบตัวพร้อมเผยปมยิงแล้ว โดยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่ห้องสืบสวน สน.บางเขน นายภิเษก หรือโอ สำเภาเงิน อายุ 28 ปี พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก. สน.บางเขน พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 เพื่อรับทราบข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีและพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ พร้อมปืน 9 มม. กระสุนปืน 1 นัด ซองพกปืนสีดำ 1 ซอง และกระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบสอบสวนนายภิเษกให้การรับสารภาพ สาเหตุจากการพูดคุยเรื่องการประมูลรื้อถอนอาคารระหว่างพ่อของตนกับนายพรชัยไม่ลงตัว เกิดการทะเลาะวิวาท เห็นนายพรชัยนำปืนปรี่เข้ามาหาพ่อ ตัดสินใจใช้ปืนที่พกมายิงใส่นายพรชัย 2 นัด ก่อนหลบหนีและปรึกษาทนายความนำปืนที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัว เบื้องต้นชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ก่อนนำตัวไปฝากขังศาลอาญา ช่วงเวลา 09.00 น. ในข้อหาพยายามฆ่า และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่วนปืนของกลาง เป็นปืนมีทะเบียน ผู้ครอบครองเป็นญาตินายภิเษกด้านนายณัฐภัส สำเภาเงิน อายุ 68 ปี พ่อนายภิเษกหรือนายโอ กล่าวว่า ตนเป็นผู้เข้าร่วมประมูลรับซื้อของเก่าและของมือสองตามโครงการของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานราชการต่างๆ โดยการประมูลโครงการรื้อถอนตึกสรรพากรตนสามารถประมูลได้แต่ขอสงวนรายละเอียด กระทั่งวันเกิดเหตุกลุ่มผู้บาดเจ็บนัดมาทานอาหารที่ร้าน และขอแบ่งเงินค่าประมูลโครงการกับตนและลูกชาย เพราะไม่สามารถประมูลได้ จึงมีปากเสียงกัน ผู้บาดเจ็บยืนขึ้นโต๊ะไล่ผู้ร่วมงานทั้งหมดออกจากห้องอาหารขอพูดคุยกันกับตน ได้บอกผู้บาดเจ็บใจเย็นและออกไปคุยกันข้างนอกแต่ยังตกลงกันไม่ได้ กลับเข้าไปคุยกันข้างในห้องอาหารอีกครั้ง คราวนี้ถูกผู้บาดเจ็บโชว์ปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวและเข้ามาล็อกคอตนมีบาดแผลรอยแดงที่คอ ไม่เท่านั้นยังชักปืนจะยิงตน ลูกชายตัดสินใจใช้ปืนที่พกมายิงใส่เพราะต้องการปกป้องตน ก่อนที่ลูกชายจะถูกกลุ่มผู้บาดเจ็บรุมกระทืบทำร้ายร่างกายนายณัฐภัสกล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ลูกชายเป็นคนใจเย็นมาก มีสัมมาคารวะเจอหน้าใครไหว้หมด เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ตนจะถูกทำร้าย คนเป็นลูกเลยต้องปกป้องพ่อ นอกจากนี้พฤติการณ์กลุ่มผู้บาดเจ็บมีพฤติการณ์ฮั้วประมูลข่มขู่ผู้ร่วมประมูลในโครงการต่างๆ ปรากฏคลิปเหตุการณ์การรุมทำร้ายตำรวจและผู้ประมูลที่ไม่ยอมเข้าร่วมใน จ.ระยอง ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนต่อมาเวลา 12.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน นำนายภิเษก ฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ระหว่างควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขัง ผู้สื่อข่าวสอบถามนายภิเษกอีกครั้งว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากอะไร มีเรื่องฮั้วประมูลหรือไม่ และทำไมถึงพกพาอาวุธปืน แต่นายภิเษกไม่ตอบคำถามมีท่าทีสีหน้าที่เรียบเฉย ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถเดินทางออกไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงที่ใช้อาวุธปืน อย่างไรก็ตามหลังศาลอนุญาตให้ฝากขังแล้ว นายภิเษกยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 2 แสนบาท ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตตามคำร้องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่