ทั้งศึกนอก-ศึกในหากบริหารจัดการไม่ดีก็ยุ่งเหมือนกันนะ... จะบอกให้ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับหน้าเสื่อกับปัญหาต่างๆที่รุมเร้าแทบทุกด้าน ยิ่งอ่อนประสบการณ์ไม่เคยเจอมาก่อนจึงต้องลำดับความสำคัญของปัญหาก่อน-หลังให้ดีมิฉะนั้นจะไปไม่รอด!ศึกไทย-กัมพูชานั้นดีขึ้นมานิด หลังจากตั้งหลักปรับทิศปรับทางจนทันเหลี่ยมคูของฝ่ายตรงข้าม ไม่เสียฟอร์มเหมือนตอนแรกๆเมื่อเขารุกมาก็ต้องรุกกลับด้วยมาตรการตอบโต้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ใช่ถอยร่นไม่เป็นขบวนอย่างตอนแรกจากนี้ไปก็ต้องมีเงื่อนไขในลักษณะกดดันให้เขาปฏิบัติตามอย่างเรื่องให้ถอยกำลังทหารไปอยู่ในจุดเดิมไม่ใช่รุกเข้ามาในเขตไทยแน่นอนว่ามิตรประเทศที่ดีสำหรับไทยนั้นดูเหมือนจะเป็นห่วงเป็นใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน มาเลเซีย ที่พยายามให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นควรใช้ “สันติภาพนำการทหาร” ก่อนที่จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ซึ่งไทยได้เน้นย้ำเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่กัมพูชากลับทำตรงข้ามคือพยายามยั่วยุปลุกเร้าประชาชนและทหารให้มองไทยเป็นศัตรูคู่อาฆาตเพื่อบีบให้ไทยยอมรับเงื่อนไขของเขาคือนำข้อขัดแย้งขึ้นสู่ศาลโลก ซึ่งไทยปฏิเสธมาตลอดก็ต้องยืนหยัดในประเด็นนี้ต่อไปว่าโดยรวมแล้วกัมพูชาทำอวดเก่ง แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีน้ำยาอะไรทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ก็สู้ไทยไม่ได้ง่ายๆแค่ปิดด่านทุกด้านก็ไปไม่เป็นแล้ว!ก็ขอให้คนไทยใจเย็นๆ “รักชาติ” ได้ แต่อย่า “คลั่งชาติ” เป็นอันขาดมาว่าถึงการเมืองเรื่องภายในว่าด้วยการปรับ ครม.นั้นคงต้องรอดูการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเอายังไง“ภูมิใจไทย” นั้นถูกจับตามองมากที่สุด เพราะเป็นเป้าหมายที่ “เพื่อไทย” ต้องการจะยึดเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย ซึ่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หวงแหนมากดังนั้นการจะ “หักดิบ” ดื้อๆคงไม่มียอมกันง่ายๆแน่วันนี้ “เสี่ยหนู” ยังยืนยันว่าทุกอย่างเหมือนเดิม เขายังนั่งเก้าอี้ ตัวนี้อยู่ ต้องรอคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจเพียงคนเดียวพูดง่ายๆว่ายังยืนยันเหมือนเดิมคือไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแต่ถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็มี 2 เงื่อนไข1.“ภูมิใจไทย” จะต้องได้คุมรองนายกรัฐมนตรี คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว อีกทั้งจะต้องควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จไม่ให้พรรคอื่นเข้ามายุ่งหรือ!2.รองนายกรัฐมนตรี เกษตรฯ พาณิชย์ ทรัพยากร และดีอี ซึ่งต้องกำกับดูแลเองเช่นกันขอเสนอนี้พรรคจะให้ “อนุทิน” นำไปพูดคุยเจรจาต่อรอง ถ้าไม่ได้ตามนี้ก็จะไม่ยอมให้ปรับกระทรวงมหาดไทยเป็นข้อเสนอที่คิดว่าสมน้ำสมเนื้อที่สุดหากโอเคก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าไม่โอเคก็เหมือนเดิม ไม่มีการปรับนี่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องนำไปพิจารณาว่าจะยอมหรือไม่ เพราะทั้งสูตรนั้นมันเกี่ยวพันทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะ “เพื่อไทย” เท่านั้นนอกจากข้อเสนอนี้แล้วยังนัดกินข้าวกับ “รวมไทยสร้างชาติ” อีกด้วยเมื่อบีบมาก็บีบกลับ“ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มากบารมีที่ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายก็คงคิดหนักเหมือนกัน!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม