เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำบนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเคยมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากว่า ขณะนี้ กทม. ร่วมกับกรมทางหลวงปรับปรุงระบบระบายน้ำ โดยดึงน้ำจากถนนลงสู่คลองเปรมประชากร พร้อมใช้พื้นที่ภายใน มทบ.11 เป็นแก้มลิงรองรับน้ำและส่งต่อไปยังคลองบางตลาด อีกทั้งยังมีการปรับปรุงสถานีสูบน้ำและก่อสร้างเขื่อนเสริม ทำให้ระยะเวลาในการระบายน้ำลดลงอย่างชัดเจน จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 5-6 ชั่วโมง หลังฝนหยุดเหลือเพียง 1-1.30 ชั่วโมง ส่งผลให้ถนนแห้งเร็วขึ้น ลดผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า แม้จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายจุด แต่ยังมีพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ซึ่งยังคงต้องพึ่งระบบระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร และโครงการขยายท่อยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้การระบายน้ำยังล่าช้า ซึ่งในส่วนนี้ เราก็มีแผนบรรเทาและป้องกันในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยการวางระบบบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนและเป็นขั้นตอน ทำให้ กทม.สามารถรับมือกับฝนตกหนักแบบเฉียบพลันได้ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าปรับปรุงจุดอ่อนอย่างต่อเนื่องนายพรชัย ศิลารมย์ ผอ.แขวงทางหลวงกรุงเทพ เปิดเผยว่า โครงการระบบฟลัดเวย์ (Flood Way) ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทในการระบายน้ำจากถนนแจ้งวัฒนะสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีแผนแล้วเสร็จภายในปี 2571 อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะสาธารณูปโภคใต้ดินที่ต้องเคลื่อนย้าย และการขยายท่อระบายน้ำบนถนนสายหลักที่อาจกระทบต่อการจราจร จึงต้องใช้แนวทางเสริมควบคู่กันไป เช่น การเพิ่มจุดสูบน้ำ ปรับปรุงคลองสายหลัก และใช้พื้นที่รองรับน้ำชั่วคราวหรือแก้มลิงเพิ่มเติม.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่