นายกรัฐมนตรีถกกระทรวงการต่างประเทศ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนทวีตยืนยันหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนว ทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตย และดินแดนของกันและกัน รวมทั้งไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ กรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน ด้าน “ภูมิธรรม” บินด่วนเข้าค่ายสุรสิงหนาท จ.สระแก้ว หารือลับกับรองนายกฯกัมพูชาแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชานานกว่าชั่วโมงแล้วแยกย้าย ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ประชุม JBC 14 มิ.ย. ไม่เจรจาพื้นที่พิพาท 4 แห่ง แต่จะเดินหน้ายื่นฟ้องศาลโลก กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชุมนุมเรียกร้อง “ภูมิธรรม” แก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ทบ.เชิญชวนชาวไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาดคนไทยไม่ทนรวมพลบุกกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ใช้กลไก สมช.แก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา อย่าปล่อยให้ทหารเขมรโอหัง รุกล้ำเขตแดนไทยที่บริเวณ ต.ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะที่รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมไทยบินด่วนไปเจรจาลับกับรองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชาและคณะ ที่ จ.สระแก้วนายกฯหารือ กต.สถานการณ์ไทย–กัมพูชาที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 5 มิ.ย. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัด กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 16.00 น. น.ส.แพทองธารทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า ตามที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้หารือร่วมกับ รมว.ต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โทรศัพท์เข้ามารายงานผลการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ที่ จ.อุบลราชธานีอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้านทวีตยืนยันแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีน.ส.แพทองธารทวีตข้อความอีกว่า รัฐบาลไทย ขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน กรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน ขอย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคี ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศภูมิธรรมลงพื้นที่พบไม่มีวางทุ่นระเบิดก่อนหน้านี้ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานีว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงข้อมูลที่ออกไป ผิดจากสิ่งที่เป็นอยู่พอสมควร ยืนยันว่าในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด เป็นภาพเก่าในอดีต ส่วนแนวคิดปิดด่านของแม่ทัพภาค 2 หมายความว่า หากเจรจา JBC ไม่สำเร็จการปิดด่านคือมาตรการต่อไป มีกรรมการบริหารและโฆษกบางพรรคเอาข้อความไปโพสต์ทางกลุ่มไลน์ ซึ่งไม่เป็นผลดี การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จมันมีผล วันนี้เราต้องการความร่วมมือกัน ข้อเสนอแนะสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่เอาข้อมูลอันเป็นเท็จไปร่อนอยู่ในโซเชียลมีเดียรับเขมรล้ำพื้นที่แต่ไม่เกินเขตแดนเมื่อถามถึงการเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้วนายกฯเรียกประชุมวงอื่น ทำให้เหล่าทัพรอเก้อ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง วันที่ 4 มิ.ย. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ไปกับตนวันนั้นได้สั่งประชุม สมช.ชุดเล็กพิจารณาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา หากมีการปิดด่าน สมช.ต้องเป็นผู้พิจารณา เมื่อถามถึงการรุกล้ำ เขตแดนในพื้นที่อ้างสิทธิ 200 เมตร นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ระหว่างใช้กลไก JBC จัดการปัญหาอยู่ในพื้นที่มีจุดที่ทับซ้อนกันอยู่ เรากำหนดเป็นโนแมนแลนด์ ยอมรับว่ามีการล้ำเข้ามาในจุดดังกล่าว แต่ไม่ใช่เกินเข้ามาในเขตแดน ซึ่งละเมิดข้อตกลง JBC ในข้อ 5 เชื่อว่ากลไก JBC จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ พื้นที่โนแมนแลนด์เป็นปัญหาชายแดนที่ยังถกเถียงกันไม่จบ ย้ำว่าใช้กลไกสันติวิธีระหว่างประเทศ ผ่านการเจรจาในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการยอม แต่อย่างใดพร้อมเจรจา JBC ที่พนมเปญ 14 มิ.ย.รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้สั่งให้กองทัพบกเตรียมความพร้อม หากมีการละเมิดข้อตกลงต้องไปเจรจาใน JBC ในวันที่ 14 มิ.ย. ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันมีความพร้อม โดยเฉพาะมีหลักฐานการยื่นประท้วงของกองกำลังสุรนารีทุกครั้ง ย้ำว่าการใช้วิธีเจรจาไม่ได้หมายความว่าเรายอมศิโรราบ เมื่อถามว่าสามารถใช้ความสัมพันธ์พิเศษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ทำให้ปัญหายุติลงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายปฏิบัติการยังทำเต็มที่ ส่วนนายทักษิณจะคุยหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ทุกหน่วยงานที่ดูแลอยู่เคลื่อนไหวกันหมด ตอนนี้ที่เขาบอกว่าจะขึ้นศาลโลก เขาพูดฝ่ายเดียวก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าเราไปบอกว่าโอเคหรือไม่โอเค จะเป็นประเด็น กรณีของศาลโลก ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 เคยมีมติไม่รับอำนาจของศาลโลก ดังนั้น หากเขานำเรื่องขึ้นศาลโลก ต้องได้รับการยอมรับจากเรา ยืนยันว่าจะให้จบที่ JBCบินด่วนเจรจาลับกับ “เตีย เซียฮา”กระทั่งช่วงบ่ายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ/รมว.กลาโหม พร้อมคณะ มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก นั่ง ฮ.กองทัพบกบินด่วนมาลงที่สนามมณทลทหารบกที่ 19 (ค่ายสุรสิงหนาท) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วเข้าไปในอาคารกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 ต่อมาเวลา 14.45 น. มีรถยนต์สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ ขับนำขบวนรถจากประเทศกัมพูชา ส่วนใหญ่เป็นรถหรูทะเบียนกัมพูชาและทะเบียนทหารกัมพูชา รวมกว่า 10 คัน เข้ามาในค่าย ทราบต่อมาเป็นคณะของ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา เดินทางเข้ามาเจรจากับนายภูมิธรรม และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพทำข่าว ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาประชุมหารือกันกว่า 1.30 ชม. แล้วแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่มีใครทราบเนื้อหาของการประชุม คาดว่าเป็นการนัดมาเจรจา ก่อนมีการประชุม สมช.วันที่ 6 มิ.ย.เพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้กัมพูชา ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าอาจมีการสั่งปิดด่านพรมแดนเพื่อตอบโต้กัมพูชากัมพูชาแถลงยันส่งเรื่องศาลโลกขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเผยแพร่แถลงการณ์ มีสาระสำคัญว่า จะไม่นำข้อพิพาทเรื่องพรมแดนช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตากระเบย หรือปราสาทตาควาย ไว้ในวาระการประชุม JBC ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากตัดสินใจส่งเรื่องไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ แล้ว เพื่อให้ได้แนวทางแก้ไขที่ยุติธรรม เป็นกลางและยั่งยืน หวังว่าไทยจะให้ความร่วมมือการส่งต่อกรณีนี้ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศร่วมกัน โดยคำนึงถึงความยุติธรรม การสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพระยะยาวและความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่หากไม่สามารถให้ความร่วมมือได้ กัมพูชาพร้อมที่จะดำเนินการอย่างอิสระ พื้นที่ทั้ง 4 แห่งมีความอ่อนไหวมาเป็นเวลานาน อาจสร้างความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น หากไม่ได้รับการแก้ไข การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากการประชุมร่วมครั้งแรกของรัฐสภาและวุฒิสภากัมพูชาในวันเดียวกันอ้างไทยยิงใส่ก่อนวอน ปชช.จดจำแถลงการณ์ยังระบุว่า การประชุมคณะกรรมา ธิการว่าด้วยการกำหนดเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย (JBC) รัฐบาลกัมพูชายังคงมุ่งมั่นในการเจรจา ดำเนินการทางการทูตและจะยังคงเป็นเจ้าภาพการประชุม JBC ครั้งต่อไปในวันที่ 14 มิ.ย. ที่กรุงพนมเปญ เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนติดตามประเด็นนี้ด้วยความสงบ ยับยั้งชั่งใจ อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกทางชาติพันธุ์ หรือชาตินิยม เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ในระดับปกติกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้า การท่องเที่ยวและความร่วมมือในวงกว้าง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของเรา ขอให้ระลึกไว้ว่า ช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค.2568 เวลาประมาณ 05.30 น. ที่เกิดเหตุการณ์ทหารกองทัพไทยเปิดฉากยิงใส่จุดที่กองทัพกัมพูชาประจำการที่หมู่บ้าน Techo Morokot จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับมานานว่าเป็นฐานทัพของกัมพูชา การปะทะกันครั้งนี้ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้าใจไทยออกแถลงการณ์โต้ไม่ยอมรับ ICJอย่างไรก็ตาม ไทยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. โต้กลับ ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 29 พ.ค.2568 ทั้งนี้ตามที่กัมพูชาแสดงความตั้งใจที่จะใช้กลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น ประเทศไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของ ICJ มาตั้งแต่ พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายมีกลไกทวิภาคีในการจัดการประเด็นปัญหาชายแดนอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรกต้องแก้ไขปัญหาที่กระทบกระทั่งกันแถลงการณ์ระบุด้วยว่า สิ่งที่สำคัญคือทั้งสองฝ่ายต้องแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป จะสร้างความซับซ้อนของปัญหามากขึ้น ไทยไม่ต้องการเห็นฝ่ายใดได้รับความสูญเสียใดๆ ไทยกับกัมพูชามีกลไกเรื่องเขตแดนอยู่แล้ว โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ในช่วง 26 ปีที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในหลายพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด เช่น ในกรณีของสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว-และบ้านสตึงบท ต.ปอยเปต อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย) และการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ไทย-กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี กับบ้านปรม จ.ไพลิน กัมพูชา ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงถึงความปรารถนาเช่นเดียวกัน ในการร่วมมือกับไทยในลักษณะที่สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมกันของเราในสันติภาพ เสถียรภาพและการเคารพซึ่งกันและกันทร.พร้อมลุย-เขมรซ้อมรบใกล้เกาะกูดขณะที่ พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้บัญชาการหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน หน่วยซีล เมื่อเช้าวันที่ 5 มิ.ย.ได้ไปตรวจเยี่ยมกำลังพล ซึ่งมีความพร้อมปฏิบัติภารกิจ เรามีกองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล อาวุธสงคราม ที่จะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการเจรจาเพื่อสันติภาพ ส่วนการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกัมพูชา อยู่ใกล้กับเกาะกูดของไทยมากน้อยแค่ไหน ได้รวบรวมข้อมูลข่าวกรอง ทราบว่าไม่ใช่การฝึกประเทศเดียว กองทัพเรือกัมพูชามีการซ้อมรบ เราก็มีการฝึกตั้งแต่ต้นปี ฝึกร่วมกับต่างประเทศ เช่น การฝึกคอบร้าโกลด์ การฝึกร่วมกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้และสิงคโปร์ ทำให้เรามีประสบการณ์และพร้อม ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เราฝึกให้กำลังพลมีความกล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย ให้รู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน เป็นทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขอให้มั่นใจได้ร.ร.ชายแดนฝึกนักเรียนซ้อมหลบภัยที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา ได้มีการเตรียมความพร้อมหากเกิดการสู้รบ โดยวันเดียวกันนี้ น.ส.อรพรินทร์ กมลชิด ผอ.โรงเรียนบ้านโคกกะชาย ต.โคกกะชาย อ.บ้านกรวด นำนักเรียนมาซักซ้อมการอพยพและหลบภัย เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุการณ์สู้รบที่อาจมีความรุนแรง ตามมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ด้านนางสุภาพ วงศาจันทร์ รักษาการหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสายโท 9 อ.บ้านกรวด กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการเชื่อมโยงกันทางโซเชียลกับชุมชนถึงหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงผู้ปกครองเด็ก ให้ศึกษาเส้นทางการอพยพล่วงหน้า มีการวางแผนชัดเจนว่าแต่ละหมู่บ้านจะต้องวิ่งเส้นทางอพยพไปทางไหน เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนหรือไปกระจุกรวมกันเกินไปเหมือนครั้งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ากลัวเพราะอาวุธปัจจุบันทันสมัยมากขึ้น“คปท.” ชุมนุมให้ “ภูมิธรรม” ใช้กลไก สมช.อีกด้านตอนสายวันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทยหรือ คปท. นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. เดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม แสดงจุดยืนและเรียกร้องให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เร่งแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเสนอให้ใช้กลไกสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. มีบทบาทขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาให้มากกว่านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นายภูมิธรรมอาจเกรงใจความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างสองครอบครัวและระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร กับสมเด็จฮุน เซนหรือไม่ สถานการณ์ชายแดนวันนี้ ไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ครอบครัว แต่เป็นความขัดแย้งที่อาจบานปลาย ไทยต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนมากกว่านี้ปัดกดดันขอ รมว.กลาโหมอย่าอ่อนนายพิชิตกล่าวอีกว่า การรวมพลไม่ได้ออกมากดดันกองทัพ แต่ต้องการสื่อสารไปยัง รมว.กลาโหม ที่ขณะนี้มีท่าทีตกเป็นรองทางการเมืองฝ่ายกัมพูชา รวมทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยแสดงท่าทีตอบโต้อย่างชัดเจน กรณีที่ฝ่ายกัมพูชาปลุกระดมอ้างสิทธิ์ในพื้นที่เขตแดนที่ยังตกลงกันไม่ได้ จึงมองว่าแม้ทิศทางทางการเมืองตอนนี้จะตกเป็นรองกัมพูชาแต่ทิศทางด้านความมั่นคงต้องไม่ตกเป็นรอง และจะจับตาการประชุม JBC ไทยกัมพูชาที่กรุงพนมเปญวันที่ 14 มิ.ย. โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ช่องบกจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่ม คปท.ยังเรียกร้อง ให้ รมว.กลาโหมให้อำนาจกองทัพตัดสินใจในพื้นที่ชายแดนมากกว่านี้ หลังการยื่นหนังสือกลุ่ม คปท.ได้เคลื่อนไปแสดงจุดยืนที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ราชดำเนิน ให้กำลังใจ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ที่ดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาดช่วงเย็นวันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กกองทัพบก Royal Thai Army โพสต์ข้อความเชิญชวนคนไทยติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารเราในการปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทยไทยไม่รับอำนาจ Aต่อจากหน้า 15ปชน.ชง 3 แนวทางคลี่คลายไทย-เขมรกระทั่งเวลา 18.30 น. พรรคประชาชน (ปชน.) เผยเเพร่แถลงการณ์ต่อรัฐบาล กรณีความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา ตามมาตรการ ดังนี้ 1.นอกจากใช้เวทีทวิภาคีเจรจา และการแสดงออกถึงความพร้อมทางการทหาร รัฐบาลควรพิจารณาใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ ตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาอย่างได้สัดส่วนและเหมาะสมกับสถานการณ์ 2.ควรดำเนินมาตรการทางการทูตเชิงรุกควบคู่ไปกับการเจรจาทวิภาคี 3.ต้องสื่อสารกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ พรรค ปชน.เสนอรัฐบาลจัดตั้งวอร์รูมสื่อสาร แถลงความคืบหน้าโดยเฉพาะมาตรการของรัฐบาล ให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงรายวัน รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ในวันที่ 28 พ.ค. เป็นฐานสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่ารัฐบาลไทยไม่ใช่ผู้รุกราน หรือผู้กระทำ ความขัดแย้งครั้งนี้จะคลี่คลายลงได้ด้วยการบริหารที่เป็นเอกภาพของรัฐบาล มียุทธศาสตร์และมาตรการที่ชัดเจนและทันต่อสถานการณ์อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่