ล่ากระชั้น แก๊งโจรปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ของกลางในท่าเรือคลองเตย พฤติกรรมโหดขับรถตู้ชนเจ้าหน้าที่ รปภ.ดับสยองระหว่างหลบหนี ชุดสืบสวนนครบาลล่ากระชั้นรวบได้ทันควัน 1 คน อยู่ระหว่างขยายผลตามหาอีก 5 คน พบรถตู้ที่ใช้ก่อเหตุแล้วหลังกลุ่มคนร้ายเอาไปฝากไว้กับพรรคพวกใกล้วัดปริวาสราชสงคราม พระราม 3 เจอบุหรี่ไฟฟ้าของกลางบางส่วนประมาณ 1 พันชิ้น เร่งสอบพยานขออำนาจศาลออกหมายจับข้อหาฉกรรจ์ร่วมกันฆ่าคนตาย และร่วมกันปล้นทรัพย์ สงสัยเกลือเป็นหนอนชี้เป้าว่าบุหรี่ไฟฟ้าของกลางอยู่ตู้คอนเทนเนอร์ไหนโจรกรุงเหิมบุกปล้นของกลางที่ถูกอายัดไว้ในท่าเรือคลองเตยครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น. วันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.ต.ตนิษฐ์ กองวิบูลศิริ สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายขับรถตู้ชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณประตูทางเข้าโกดังสเตเดียม การท่าเรือแห่งประเทศไทย ถนนเกษมราษฎร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวรภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุบนถนนประตูทางเข้าโกดังสเตเดียมพบศพนายบุญนาค สวัสสุข อายุ 58 ปี รปภ.ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมชุด รปภ.สีเขียวเข้ม ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกรถเฉี่ยวชนและทับตามร่างกาย จนกระดูกหักและบอบช้ำภายในหลายแห่ง ใกล้กันพบซากรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดงดำ ทะเบียน ลค 486 กรุงเทพมหานคร ของผู้เสียชีวิตสภาพพังยับ จากการถูกเฉี่ยวชนและถอยกลับมาทับสอบสวนนายชลประชา ประชุมชิต อายุ 50 ปี รปภ.เพื่อนร่วมงาน เผยด้วยท่าทางตื่นตระหนกว่า ขณะเข้าเวรทำงานตรวจตราความเรียบร้อยภายในท่าเรือปกติ เห็นรถตู้โตโยต้า สีขาว ไม่ทราบรุ่น แต่จำหมายเลขทะเบียนได้ว่า นข 3973 ตาก ขับเข้ามาในบริเวณโกดังการท่าเรือฯ ที่มีตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงรายอยู่ หลังจากนั้นมีชายฉกรรจ์ 4-5 คน ลงมาใช้ชะแลงงัดเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ที่ภายในมีบุหรี่ไฟฟ้าและหัวน้ำยาของกลางที่กรมศุลกากรตรวจยึดอายัดไว้ดำเนินคดีขนขึ้นรถ“นายบุญนาคขี่รถ จยย.ตรวจมาเห็นเหตุการณ์พอดีจึงร้องเอะอะโวยวายขึ้น คนร้ายวิ่งหนีไปขึ้นรถตู้ขับหนีออกไปทางหน้าประตูโกดังสเตเดียมด้านถนนเกษมราษฎร์ จอดรับคนร้าย 3 คน ที่คาดว่าวิ่งหนีออกมารอขึ้นรถ ช่วงเวลาเดียวกันนายบุญนาคขี่รถ จยย.ไล่ตามออกมาทันพอดี ถูกคนร้ายขับรถตู้ถอยหลังชนรถ จยย.ล้มลง แล้วยังถอยมาทับซ้ำที่ร่างและรถ จยย.จนพังยับ นอกจากนี้รถตู้ของคนร้ายยังไปเฉี่ยวชนรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 5 ฒพ 4081 กรุงเทพมหานคร ของชาวบ้านที่วิ่งผ่านมาประสบเหตุเสียหายอีกคัน ก่อนขับหนีมุ่งหน้าแยกกรมศุลกากร” นายชลประชากล่าวหลังรับแจ้งเหตุอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก่อน นายบุญนาคยังไม่เสียชีวิตหายใจรวยริน แต่ไม่มีสติถามตอบไม่รู้เรื่อง ประสานขอเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.เลิดสิน เข้าทำซีพีอาร์ แต่ยื้อไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณเกิดเหตุและใกล้เคียงพอทราบกลุ่มคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว กรมศุลกากรเช่าพื้นที่ไว้เพื่อเก็บของกลางที่ตรวจยึดมาได้และอยู่ระหว่างดำเนินคดีด้าน พ.ต.อ.ปณิธิ ชาอุ่น ผกก.สน.ท่าเรือ เผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า คดีนี้มีคนร้าย 5 คน หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนนำผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน 1 คนยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ อยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานเอาผิด รวมทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือด้วย จะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปต่อมาเวลา 11.30 น. ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายจิระศักดิ์ เกษจินดา อายุ 40 ปี ลูกชาย และ น.ส.หนึ่งฤทัย บุญเผือก อายุ 30 ปี หลานสาวของนายบุญนาค สวัสสุข อายุ 58 ปี รปภ.การท่าเรือฯที่ถูกคนร้ายขับรถชนจนเสียชีวิต พร้อมญาติเดินทางมาเพื่อติดต่อรับศพน.ส.หนึ่งฤทัยเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตนว่าเป็นความจงใจของกลุ่มคนร้ายที่จะถอยชนนายบุญนาคให้เสียชีวิต เนื่องจากรถตู้คันดังกล่าวขับออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่เมื่อเห็นว่านายบุญนาคพยายามขี่รถ จยย.ไล่ตามมีการขับถอยหลังมาชน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน เป็นผู้ชาย พวกตนพาพยานในที่เกิดเหตุ 3 คนไปชี้ตัว เพื่อยืนยันว่าเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่มีหลักฐานชัดเจนดำเนินคดี ทำให้รู้สึกไม่สบายใจในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะผู้ต้องสงสัยคือคนในพื้นที่ เชื่อว่ามีเบื้องหลังเป็นกลุ่มคนมีสีที่อาจรู้จักกับตำรวจ เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลทั่วไปจะรู้ว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์ไหนเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง นอกจากเจ้าหน้าที่“ฉันรู้สึกกังวลกลัวว่านายบุญนาคจะตายฟรี และไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากขอร้องเรียนวิงวอนผ่านสื่อมวลชนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และร้องขอความยุติธรรมให้กับครอบครัว เพราะนายบุญนาคเป็นเสาหลักของครอบครัว ถือเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงที่ไม่อาจทดแทนได้ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีใครมาดูแลย่า ครอบครัวจะนำร่างนายบุญนาคไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยนอก เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป” น.ส.หนึ่งฤทัยกล่าวที่ สน.ท่าเรือ เวลา 15.30 น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.5 เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.วิทวัฒน์เผยว่า คนร้ายมี 6 คนเข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของกรมศุลกากร ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าไปห้ามและตามคนร้ายถูกถอยรถมาชนเสียชีวิต จากการสืบสวนของทั้งชุดสืบสวน บชน.กก.สส.บก.น.5 และ สน.ท่าเรือ กำลังตรวจสอบกล้องและเส้นทางหลบหนี อยู่ระหว่างขอศาลอนุมัติหมายจับ คาดว่าเร็วๆนี้จะได้ตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน บางคนมีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 6 มีความผิดข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันปล้นทรัพย์ หากมีความผิดอื่นจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป“นอกจากนี้ตำรวจยังติดตามรถของกลางที่ใช้ก่อเหตุขนของและชน รปภ.เสียชีวิต ได้ที่วัดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 เขตยานนาวา ส่วนสถานที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าที่กรมศุลกากรเช่าพื้นที่การท่าเรือเก็บของกลาง มีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 55 ตู้ใช้สำหรับเก็บของกลางทั้งเอกสารและสินค้าต่างๆ แต่เมื่อคืนผู้ก่อเหตุเข้ามาขโมยมีการตัดกุญแจตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 5 ตู้ แบ่งเป็นตู้เอกสาร 2 ตู้ ตู้สินค้าอื่น 2 ตู้ และตู้บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตู้ เก็บบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 2 แสนชิ้น เป็นของกลางจากหลายพื้นที่ที่กวาดล้างมาเก็บรวมไว้เป็นหลักฐานระหว่างการพิจารณาคดี” ผบก.น.5 กล่าวนายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผอ.ส่วนของกลาง กองสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร เผยว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่เช่าพื้นที่ท่าเรือเก็บไว้ไม่ได้แปะป้ายบ่งบอกว่าภายในตู้เป็นสินค้าอะไร เพื่อป้องกันการขโมย แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ตู้คอนเทนเนอร์มีประมาณ 200,000 ชิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการชี้เป้าจากคนที่รู้หรือไม่ นายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงคือ ผู้ก่อเหตุสุ่มเปิดตู้คอนเทนเนอร์ 5 ตู้ แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจว่าจะ เป็นไปได้หรือไม่ กรมศุลกากรขอแสดงความเสียใจที่ จนท.รปภ.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ต่อมาเวลา 16.00 น. ชุดสืบสวน บก.สส.บชน. กก.สส.บก.น.5 และ สน.ท่าเรือ ตามไปยึดรถตู้คันก่อเหตุได้ที่ข้างวัดปริวาสราชสงคราม ซอยพระรามสาม 39 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา เป็นรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีฟ้า ทะเบียน นข 3973 ตาก สภาพกระจกด้านซ้ายแตกเป็นรูปกระบองหลังถูก รปภ.ผู้เสียชีวิตขี่รถ จยย.ตามใช้กระบองทุบกระจก นอกจากนี้ยังตามไปตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าของกลางได้ 2 กล่องกับ 1 ถุงประมาณ 1 พันชิ้น ที่บ้านนายดิสรณ์ หรือเจ ยังคงวิรัชพร บริเวณข้างวัด ตรวจค้นในรถยังพบคีมตัดเหล็ก 1 อัน นำตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนที่ สน.ท่าเรือ และประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ พฐ.มาตรวจสอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ให้ครบถ้วน เบื้องต้น นายดิสรณ์อ้างว่าไม่รู้ว่าเพื่อนไปเอาบุหรี่ไฟฟ้ามาจากไหน แต่เอามาฝากไว้กับตนพร้อมรถตู้