“ณัฐพงษ์” นำทีม สส.ชลบุรี เหยียบรังงูเห่าสีส้ม โต้ไม่ใช่ขาลง ปชน. แต่ยอมรับบกพร่องคัดสรรคน ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย จะปรับปรุงกระบวนการสรรหาให้ได้คนที่ดีขึ้น แนะนายกฯเจาะตลาดทุเรียนอินเดีย มองหาตลาดทางเลือกใหม่ๆ “กฤษฎิ์” ยังอยู่ ปชน.จนกว่าจะถูกขับออก “อนุดิษฐ์” จ่อนั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์กล้าธรรม “วิสุทธิ์” ปัด กธ.ไม่ใช่พรรคสาขาเพื่อไทย สว.พันธุ์ใหม่ติดเบรก “สีน้ำเงิน” จิ้มเลือกองค์กรอิสระ ห่วงดันทุรังโหวตอาจถูกร้องโมฆะ พท.บ่นเสียโอกาส “นายใหญ่” วืดพบ “ทรัมป์” ปธน.อินโดนีเซียบินเยือนไทย 19 พ.ค. ผนึกกำลังสู้วิกฤติภาษีสหรัฐฯนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีม สส.ชลบุรีลงพื้นที่ อ.ศรีราชา ถิ่น น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ที่เพิ่งประกาศย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรม สั่งเดินหน้าหาตัวแทนมาลงสมัคร ยอมรับว่าบกพร่องในการสรรหาคน จะปรับปรุงกระบวนการสรรหาให้ได้คนที่ดีขึ้น“ณัฐพงษ์” นำทีม สส.เหยียบรังงูเห่าเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) นำ สส.ชลบุรี พรรค ปชน.ลงพื้นที่เดิมของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ที่ประกาศย้ายไปอยู่พรรค กธ. โดยนายณัฐพงษ์เดินทางมาพบเจ้าของร้านราดหน้าเกี๊ยวทอง ที่เป็นสมาชิกพรรค ปชน. ติดป้ายไว้หน้าร้านว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับ สส.งูกฤษฎิ์ ขายอาหารคน ไม่ขายอาหารงู” ทั้งนี้ เจ้าของร้านเข้ามาจับมือสวมกอดนายณัฐพงษ์ พร้อมเล่าความอัดอั้นถึงเหตุการณ์ สส.งูเห่า แต่ยืนยันจะสนับสนุนพรรคปชน.ต่อไป ต่อมานายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่ามอบหมายให้นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรค ปชน. ดูแลพื้นที่แทน น.ส.กฤษฎิ์ และเริ่มกระบวนการหาตัวแทนลงสมัครแล้ว เมื่อถามว่า น.ส.กฤษฎิ์ออกแถลงการณ์ 3 ข้อยืนยันยังทำงานเหมือนเดิม นายณัฐพงษ์ตอบว่า ประชาชนทราบดีอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้แทนตัวจริงในเขต 6 อยากให้มีคนมาสมัครเข้าอบรมหลักสูตรของพรรคเยอะๆรับบกพร่องคัดสรรคนแต่ไม่ใช่ขาลงผู้สื่อข่าวถามว่า เกมนี้พรรคประชาชนได้รับผลกระทบ เพราะถูกดูด สส.ไปเสริมทัพเพื่อไทยไว้ต่อรองอำนาจกับภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ตอบว่า พรรคประชาชนไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่เป็นห่วงคือประชาชนเขต 6 จะได้รับผลกระทบหรือไม่ วันนี้จึงมายืนยันให้ประชาชนฟังว่าทีมงานพรรคทุกภาคส่วน พร้อมเดินหน้าทำงานต่อ ส่วนการเมืองในภาพรวมเราตอบแทนไม่ได้ว่าแต่ละพรรคมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการดูด สส.ไปสร้างอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ แต่สิ่งที่ตอบได้คือการเมืองที่ใช้วิธีดูดข้ามพรรค อาศัยช่องว่างรัฐธรรมนูญเป็นวิธีไม่เหมาะสม ไม่สวยงาม เชื่อมั่นว่าเพื่อนๆที่เหลืออยู่ไม่มีใครเป็นงูเห่าตามข้อมูลที่ได้รับทราบมา ส่วนรายชื่อที่เขาบอกว่าจะมีกี่คนก็ตามแต่ไม่ยอมประกาศ คิดว่าถ้ามั่นใจในข้อมูลให้เปิดเผยชื่อมา จะแฟร์ที่สุดสำหรับทุกฝ่าย จะได้เห็นใครเป็นใคร เมื่อถามว่าพรรค ปชน.เจอขาลงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่คิดว่าเป็นขาลง แต่ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องยอมรับข้อบกพร่องที่ผ่านมาบางส่วน เราต้องพัฒนาระบบคัดสรรให้ดีขึ้นชี้เป็นเหตุสุดวิสัยกำลังใจยังดีอยู่เมื่อถามว่าวันนี้วันเกิดมีอะไรอยากฝากหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเป็นกำลังใจอวยพรวันเกิด พร้อมเดินหน้าทำงานตามที่ทุกคนส่งความหวังดีมาให้ การมาลงพื้นที่งูเห่าในวันเกิดไม่มีนัยอะไร ในเขต 6 มีปัญหาที่ผ่านมาเรื่องโซ่ข้อกลางของพรรคอาจไม่ได้ทำหน้าที่ดีเท่าที่ควร จึงเป็นหน้าที่ทุกคนมารับฟังปัญหา จากการลงพื้นที่หลายๆจุดทุกคนกำลังใจดีอยู่ เป็นกำลังใจให้พวกเรา เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราต้องกลับมาปรับปรุงในภาพรวม เชื่อมั่นทุกคนเห็นพฤติกรรม น.ส.กฤษฎิ์แล้ว รู้ใครผิดใครถูก ไม่กังวลใจส่วนนี้ จะปรับปรุงกระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคให้ดีขึ้น ทุกคนเห็นแล้วว่ามันเกิดเหตุสุวิสัยจริงๆแนะนายกฯให้มองหาตลาดใหม่ๆนายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงกรณีนายกฯลงพื้นที่ไลฟ์สดขายทุเรียนที่ จ.จันทบุรี ว่า ทุเรียนผู้นำเข้าหลักคือจีน มีคู่แข่งสำคัญคือเวียดนาม ถ้าดูสิ่งที่รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนเกษตรกรเขา พยายามอุดหนุนเงินให้เกษตรกรตามชนิดพืชที่ปลูกให้มีมูลค่ามากขึ้น พูดง่ายๆคือเปลี่ยนให้ไปปลูกทุเรียนมาแข่งกับไทย บริบทที่ประเทศไทย ทุเรียนเป็นผลไม้มีมูลค่า แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นการช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร เกษตรกรอยู่รอดด้วยตัวเอง เพราะคนจีนชอบบริโภค ถ้าจะให้เสนอแนะสิ่งที่รัฐบาลควรทำมากกว่าการไลฟ์สดช่วยขยายตลาดในจีน คือเปิดตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ที่มีประชากรเยอะ บริโภคผลไม้รสจัด หาทางเลือกใหม่ๆได้หรือไม่ อย่าพึ่งจีนประเทศเดียว ต้องช่วยลดต้นทุนเกษตรกร เพิ่มผลผลิตต่อไร่ และขยายตลาดไปพื้นที่ใหม่“งูเห่าสีส้ม” อยู่ ปชน.จนกว่าขับออกด้าน น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน (ปชน.) ที่ประกาศจะย้ายไปร่วมงานกับพรรค กธ. ได้โพสต์คำแถลงการณ์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า “ยังคงดำรงตำแหน่งตามหน้าที่ปกติ รับเรื่องร้องเรียนและปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม เมื่อพรรคยังไม่ขับออก สถานะก็ยังเป็น สส. พรรค ปชน. จนกว่าพรรคจะขับออก”“อนุดิษฐ์” เตรียมนั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคกล้าธรรม (กธ.) ว่า หลัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย เปิดตัวเข้าร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม หลังเข้าพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค กธ. ล่าสุดในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ทั้ง 2 คน จะเข้าไปเขียนใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค กธ. เวลา 15.00 น. ที่พรรค กธ. โดยพรรคเตรียมมอบหมายให้ น.อ.อนุดิษฐ์ ทำหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค กธ.“เทพไท” ซัดตรงกล้าธรรมดูดแรงนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “กล้าธรรม-เพื่อไทย เป็นอะไรกัน? ช่วงนี้มีหลายฝ่ายจับตาพรรคกล้าธรรม ที่กำลังเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างร้อนแรง และเป็นที่สนใจของบรรดานักการเมือง นักเลือกตั้ง มีกระแสการดูด สส.เข้าพรรคอย่างคึกคัก มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การก่อเกิดพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องการเป็นพรรคการเมืองที่เสียบแทนหรือสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แทนบางพรรคที่อาจถูกปรับออกหรือไม่ หรือเป็นพรรคสาขา พรรคนอมินี ให้กับพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ มีแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาปฏิเสธว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดจัดตั้งพรรคสาขา และพรรคกล้าธรรมก็ไม่ใช่สาขาของเพื่อไทย ขณะเดียวกันแกนนำผู้บริหารพรรคกล้าธรรมหลายคน ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ต่างออกมาปฏิเสธว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคสาขาของใคร แต่ขณะเดียวกันสังคมสงสัยการตอบคำถามของ ร.อ.ธรรมนัส เมื่อถูกถามถึงการดึง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กับนายการุณ โหสกุล เข้าร่วมพรรคว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณมาก่อนแล้ว ก่อนเปิดตัว น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ มีคำถามว่าที่บอกว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ทำไมต้องไปบอกคุณทักษิณก่อน เป็นเหตุผลที่ย้อนแย้งมาก”พท.ฟัง สส.ทบทวนแจกเงินหมื่นเฟส 3ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะขอทบทวนโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจกระทบกับความเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล เพราะเป็นนโยบายที่เคยหาเสียงกับประชาชนไว้ว่า เป็นนโยบายที่พรรคหาเสียงกับประชาชน และยืนยันมาตลอด แต่เรื่องที่นายพิชัยไปพูดเช่นนั้น ในพรรคยังไม่มีใครทราบว่าพูดเรื่องอะไร และทำอย่างไรยังไม่ได้ประชุมหารือภายในพรรค อาจเป็นความคิดของนายพิชัยหรือไม่ ช่วงเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวันที่ 28 พ.ค. ที่ สส.จะมาร่วมประชุมคงทราบหลายเรื่องว่าแต่ละคนคิดอย่างไร ได้ยินหลายกระแสว่ามีหลายคนอยากให้ทบทวน เราก็ฟังอยู่ เมื่อถามว่าหากมีการยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จริง ประชาชนจะเข้าใจหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ต้องฟังว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ รัฐมนตรีพูดจริงหรือไม่ ถ้าเป็นข้อเท็จจริงเราค่อยมาวิพากษ์ วิจารณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ วันที่ 26 พ.ค.จะประชุมวิปรัฐบาล และวันที่ 27 พ.ค.จะประชุม สส.เพื่อไทย ส่วนวันที่ 21 พ.ค.จะประชุมร่วมกับวิปฝ่ายค้าน เพื่อหารือเรื่องการแบ่งเวลาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569ปัดกล้าธรรมไม่ใช่สาขาของเพื่อไทยนายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคกล้าธรรมถูกมองว่าเป็นสาขาของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่จริง พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่สาขาพรรคเพื่อไทย พรรคกล้าธรรมคือพรรคกล้าธรรม พรรคเพื่อไทยคือพรรคเพื่อไทย เป็นพันธมิตรกัน ไม่ใช่เป็นตัวแทนหรือเป็นสาขา เมื่อถามว่าการดูดสส.มาร่วมงาน จะกระทบเสถียรภาพรัฐบาลเรื่องการแบ่งโควตารัฐมนตรีให้พรรคกล้าธรรมเพิ่มหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ไม่วิจารณ์พรรคอื่นจะไปทำอะไร เพราะไม่ใช่สาขาพรรคเพื่อไทย เขาจะทำอะไรเป็นสิทธิ์ของพรรคเขา ไม่วิจารณ์พรรคร่วมรัฐบาล เป็นมารยาทของนักการเมือง ส่วนจะมาต่อรองอะไรหรือไม่ เป็นอำนาจของนายกฯในการปรับ ครม. นายกฯเป็นคนตัดสินใจ เชื่อว่านายกฯจะตัดสินใจในเรื่องถูกต้อง ไม่มีใครไปกดดันได้ว่ามี สส.มาเพิ่มหรืออย่างไร และในพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีการพูดคุยประเด็นอย่างนี้เด็ดขาดเบรก “สว.น้ำเงิน” จิ้มองค์กรอิสระวันเดียวกัน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงการเข้าชื่อ สว. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยขอให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนการเลือกองค์กรอิสระว่า อยู่ระหว่างยกร่างคำร้องยื่นต่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าวันที่ 19 พ.ค. จะดำเนินการเสร็จ และส่งให้ สว.อิสระพิจารณาร่วมลงชื่อจำนวน 1 ใน 10 หรือ 20 คน สาระสำคัญของคำร้องคือ ขอให้ สว.ทั้ง 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระทั้งกระบวนการ เช่น การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม การลงมติ เป็นต้น เหตุผลที่ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนนี้ เพื่อให้เกิดความเสมอภาค ไม่ลักลั่น เพราะ สว.จำนวนมากถูกตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชื่อว่าจะมี สว.เกินกึ่งหนึ่งน่าจะถูกยื่นข้อกล่าวหา แสดงว่าที่มา สว. ไม่ชัดเจนว่ามาโดยถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ หากไปเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระจะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะเมื่อ สว.เห็นชอบองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบที่มา สว. จึงมีลักษณะต่างตอบแทน ไม่ใช่การตรวจสอบที่สุจริตห่วงดันทุรังโหวตอาจถูกร้องโมฆะน.ส.นันทนากล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันหากให้กระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระเดินหน้า อาจกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ถูกร้องเป็นโมฆะได้ ถ้า สว.ที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระถูกชี้ว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ เมื่อมีความไม่ชัดเจน อยากให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วน ดีกว่าดันทุรังให้ความเห็นชอบ กระบวนการยื่นคำร้องจะทำให้เร็วที่สุด ให้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาก่อนที่วุฒิสภาจะนัดช่วงเปิดประชุมสมัยวิสามัญ วันที่ 29 พ.ค. มั่นใจจะมี สว.ร่วมสนับสนุนเกินจำนวนที่กำหนด เมื่อถามว่านอกจากให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วน จะมีเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ด้วยหรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สำคัญ เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 พิจารณาแล้วเห็นว่าตามกฎหมายงบประมาณ สว.ไม่มีอำนาจมาก ไม่สามารถจัด เพิ่ม หรือแก้ไขได้ มีเพียงอย่างเดียวคือการลงมติ บทบาท สว.ในการพิจารณางบประมาณไม่มาก อีกทั้งเรื่องงบปะมาณเป็นเรื่องสำคัญ ชะลอไม่ได้เตือนพรรคร่วมอย่าริฆ่าตัวตายนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นการฮั้ว สว. สังคมจับตามองอยู่จะออกมารูปแบบใด ในทางการเมืองมีความกังวลว่าประเด็นนี้จะนำไปสู่จุดแตกหักระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ส่งผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่ จะงัดเกมการเมืองการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 มาต่อรองหรือไม่ เมื่อดูวาระรัฐบาลที่เหลือ 2 ปี กับปัญหาประชาชนที่รอการแก้ไขเร่งด่วน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ภาษีสหรัฐฯกับไทย เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ส่วนประเด็น สว.ฮั้วกันหรือไม่ เป็นเรื่องผู้ถูกกล่าวหาต้องไปพิสูจน์กับองค์กรอิสระ หน่วยงานตรวจสอบต้องทำงานตรงไปตรงมา ไม่ปล่อยให้การเมืองแทรกแซง ยังไม่เชื่อคดีฮั้ว สว.จะนำไปสู่การที่บางพรรคจะไม่โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่มีใครเอาเรื่องนี้เป็นเกมต่อรองการเมือง ทำเช่นนั้นเท่ากับฆ่าตัวตายทางการเมือง หากจ้องแต่เล่นเกมการเมืองประชาชนจะจดจำไปลงโทษผ่านการเลือกตั้ง เวลาที่เหลืออยู่ทุกพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกลางคัน อยากอยู่ครบเทอม สิ่งที่ทุกพรรคต้องทำเร่งด่วนคือแก้ปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ดีกว่ามุ่งทำลายล้างกันทางการเมืองพท.บ่น “นายใหญ่” วืดพบ “ทรัมป์”นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังพยายามเจรจาสหรัฐฯเพื่อพูดคุยเรื่องกำแพงภาษี น่าเสียดายที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ควรจะได้ไปร่วมทักทายพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ประเทศกาตาร์ด้วย จะเป็นผลดีกับประเทศไทย นายทักษิณมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ มาก่อนเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่นายทักษิณขอไปเจอประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นเรื่องจริง ไม่คิดหนีออกนอกประเทศ นายทักษิณมีศักยภาพ มีความสามารถ ความรู้ มีคอนเนกชันกับต่างประเทศ เต็มใจช่วยประเทศ แต่เสียดายไม่ได้ใช้ศักยภาพของนายทักษิณ ประเทศไทยยังติดกับดักเรื่องเดิมๆ ไม่ยอมก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีต วันนี้ขอให้ทุกฝ่ายมองข้ามความขัดแย้งในอดีต ก้าวข้ามวิกฤติชาติ จับมือสามัคคี เพื่อแก้วิกฤติประเทศให้ผ่านไปด้วยดีปธน.อินโดนีเซียเยือนไทย 19 พ.ค.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 19 พ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะให้การต้อนรับนายปราโบโว ซูบียันโต ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย- อินโดนีเซีย โดยผู้นำทั้งสองจะร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานต่างๆ การหารือจะครอบคลุมทั้งความมั่นคง-การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ด้านเศรษฐกิจ การจัดตั้ง Halal Task Force เพื่อประสานมาตรฐานอาหารฮาลาลระหว่าง 2 ประเทศ การผลักดันการเปิดตลาดสินค้าเกษตร-ประมง รวมถึงการท่องเที่ยว และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ผลักดันการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลกทสท.จี้รัฐเร่งสกัดนายหน้าต่างชาติอีกเรื่องนายเบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานและควบคุมการประกอบอาชีพนายหน้าในประเทศไทย เพราะเกิดปัญหาจากการเพิ่มขึ้นของนายหน้าต่างชาติที่ทำงานผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง เพราะช่องโหว่ทางกฎหมายเปิดโอกาสให้กลุ่มผลประโยชน์ต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ปราศจากการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ มีนายหน้าต่างชาติจำนวนมากเข้ามาดำเนินการซื้อขายหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์กันเอง ไม่ผ่านกระบวนการกฎหมายไทย บางกรณีการซื้อขายยังใช้ช่องชำระเงินที่อยู่นอกการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้เม็ดเงินไม่ได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย เข้าข่ายการแย่งอาชีพสงวนของคนไทย ทำให้นายหน้าชาวไทยสูญเสียโอกาสและรายได้จากตลาดนี้ ระบบเศรษฐกิจไทยไม่ได้รับประโยชน์จากการหมุนเวียนของเงินลงทุน ที่สำคัญอาจเกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงส่อง “บ้านใหญ่” อิทธิพลครอบท้องถิ่นขณะที่สวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ จำนวน 1,104 คน เรื่อง “ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในสายตาประชาชน” ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค. เรื่องที่อยากให้นายกเทศมนตรีคนใหม่ดำเนินการมากที่สุด ส่วนใหญ่ร้อยละ 57.25 คือ ปราบปรามอบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รองลงมา แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ ปัญหาฝุ่น พัฒนาถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปาให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.80 เห็นด้วยว่า “บ้านใหญ่” ยังมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่ เหตุผลสำคัญคือการเข้าถึงประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น งานบุญ งานศพ งานประเพณี เมื่อถามว่าหากกลุ่มการเมืองท้องถิ่นไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองระดับชาติจะมีผลต่อการบริหารและพัฒนาพื้นที่หรือไม่ ร้อยละ 37.50 ตอบว่าส่งผลกระทบอยู่บ้าง แต่ยังพอบริหารจัดการภายในพื้นที่ได้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่