น.1 แย้มคดีตึก สตง.ถล่ม อาจ มีบริษัทเหล็กและข้าราชการ สตง.ต้องถูกดำเนินคดี อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับ มั่นใจหลักฐานที่มีในมือ เพราะส่วนใหญ่มาจากผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่สาเหตุอาคารถล่มดูจาก 3 ส่วนคือ 1.แบบถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ 2.ควบคุมงานตามมาตรฐานตามแบบหรือไม่ และ 3.วัสดุก่อสร้างถูกต้องได้มาตรฐานหรือไม่ พนักงานสอบสวนแจง ส่งผู้ต้องหาฝากขังแค่ 14 จาก 15 คน อีกคนเป็นพี่สาวนายเปรมชัย แต่ถูกดำเนินคดีในฐานะนิติบุคคลเท่านั้นจึงไม่มีอำนาจควบคุม “ราชทัณฑ์” แถลงผู้ต้องหาทั้ง 14 คนอยู่เรือนจำคืนแรกไม่มีใครน่าเป็นห่วง ไม่มีใครร้องขออะไรเป็นพิเศษ นอกจากพานายเปรมชัยและผู้สูงอายุอีกคนมาดูแลเป็นพิเศษเพราะมีโรคประจำตัว แต่ยังไม่ได้ส่งเข้า รพ.ราชทัณฑ์กรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. การรื้อซากเพิ่งเสร็จสิ้น ขณะที่การสืบสวนสาเหตุการถล่มโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะพนักงานสอบสวน บช.น.ขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวม 17 คน เข้ามอบตัวที่ สน.บางซื่อ แล้ว 15 คน ฝากขังศาลอาญาโดยตำรวจค้านประกันตัว ปรากฏว่าศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว ส่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าเรือนจำรวมทั้งนายเปรมชัย กรรณสูต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เผยความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีอาคาร สตง.ถล่มว่า คดีนี้ออกหมายจับผู้ต้องหา 17 ราย เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ 15 ราย และพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 14 รายและนิติบุคคล 1 รายผัดฟ้องฝากขังที่ศาลตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ถูกนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร“ส่วนอีก 2 คนได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่า จะเข้ามามอบตัวเร็วๆนี้ ส่วนรายละเอียดสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บก.สส.บช.น.) โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. ติดตามเพื่อป้องกันการหลบหนี” ผบช.น.กล่าวพล.ต.ท.สยามเผยอีกว่า ส่วนการสืบสวนสาเหตุทำให้อาคารถล่มเราดูเป็นส่วน ส่วนแรกแบบถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ ได้ประชุมกับผู้เชี่ยวชาญการออกแบบว่าตัวอาคารสามารถต้านแรงลมได้เท่าไหร่ กรณีเกิดแผ่นดินไหวสามารถรองรับได้เท่าไหร่ มีค่ามาตรฐานอยู่เป็นมาตรฐานทางวิชาการ ส่วนที่ 2 เป็นการออกหมายในส่วนผู้ควบคุมงานว่า ควบคุมงานตามมาตรฐานตามแบบหรือไม่ ส่วนที่ 3 ผู้รับจ้างก่อสร้าง และอีกส่วนเป็นการส่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นปูนมีความมั่นคงแข็งแรงตามสเปกหรือไม่ เหล็กเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ มีครบถ้วนตามแบบหรือไม่ การแจ้งข้อหาเป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ ศาลจึงออกหมายจับ“ในส่วนบริษัทเหล็กต้องสืบสวนสอบสวนต่อว่า มีความผิดร่วมด้วยหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการไม่ถูกต้อง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันมีพยานหลักฐานมากพอที่จะดำเนินคดี ส่วนใหญ่พยานหลักฐานที่ได้มาเป็นพยานหลักฐานที่ได้มาจากผู้เชี่ยวชาญ จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สตง.หรือบริษัทเหล็ก ถ้ามีหลักฐานกระทำความผิด” ผบช.น.กล่าวต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สราวุธ บุตรดี ผกก.กลุ่มงาน (สอบสวน) บก.สส.บช.น. หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวน บช.น. ทำคดีตึก สตง.ถล่ม เผยว่า นำกลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัว 15 จาก 17 รายที่ถูกออกหมายจับไปผัดฟ้องฝากขังเมื่อ วันที่ 16 พ.ค. มีผู้ต้องหา 1 รายคือ นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 73 ปี ผู้ต้องหาลำดับที่ 13 พี่สาวของนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 71 ปี ผู้ต้องหาลำดับที่ 12 มีความผิดเป็นตัวแทนในนามนิติบุคคลแห่งหนึ่ง จึงแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.บางซื่อแล้วปล่อยตัวไปเพราะไม่มีสิทธิควบคุมตัว เนื่องจากเป็นนิติบุคคล จึงควบคุมผู้ต้องหาไปฝากขังแค่ 14 คน มีทั้งความผิดส่วนตัวอย่างเดียว บางคนมีทั้งความผิดส่วนตัวและความผิดเป็นตัวแทนในนามนิติบุคคล และผัดฟ้อง อีก 1 สำนวนมีความผิดในนามนิติบุคคลรายดังกล่าวที่กรมราชทัณฑ์ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เมื่อคืนวัน 16 พ.ค.เวลาประมาณ 20.00 น. เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครรับตัวนายเปรมชัย และพวกรวม 14 คน จากศาลอาญารัชดาภิเษก เรือนจำดำเนินการรับตัวตามระเบียบ และพยาบาลเรือนจำเข้าตรวจประเมินสุขภาพทันทีภายหลังรับตัวเข้าเรือนจำ ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรคในแดนแรกรับ เนื่องจากผู้ต้องขังมีจำนวนมากจึงแบ่งออกเป็น 2 ห้องแยกกักห้องละ 6 คน“ส่วนของผู้ต้องขังสูงอายุ 2 คนคือ นายพิมล เจริญยิ่ง และนายเปรมชัย กรรณสูต พยาบาลเรือนจำประเมินแล้วเป็นผู้ต้องขังสูงอายุมีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบาก จึงแยกกักโรคเพื่อเฝ้าดูอาการที่สถานพยาบาล และจัดให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำเป็นอดีตแพทย์เป็นผู้ดูแล โดยเรือนจำอนุญาตให้นำยารักษาโรคประจำตัวติดมาด้วย และรอพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการต่อไป”รองโฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าว นางกนกวรรณกล่าวด้วยว่า สำหรับการส่งตัวออกไปรักษาต่อที่ รพ.ราชทัณฑ์นั้น ให้เป็นไปตามความเห็นแพทย์ ขณะนี้ไม่มีการส่งรักษาภายนอกเรือนจำ ทุกรายให้ความร่วมมือกับเรือนจำดี ไม่ได้แสดงอาการเครียดชัดเจน อยู่ระหว่างการปรับตัว กรณีนายเปรมชัยสามารถรับประทานอาหารได้ เมื่อเช้าทานโจ๊กและวันนี้ญาตินำยารักษาโรคกับใบรับรองแพทย์มาฝาก ส่วนนายชวน หลิน จาง ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสาร เนื่องจากพูดภาษาอังกฤษได้ ทุกคนไม่มีใครร้องขออะไรเป็นพิเศษอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่