“นายกฯ อิ๊งค์” มอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหวลอตแรกที่มีเอกสารครบถ้วน 32 ราย รวมเงิน 9,600,000 บาท ด้านทีมกู้ภัยทุกหน่วยเร่งเคลียร์อุปกรณ์หนักออกจากพื้นที่ตึก สตง.ถล่มให้ทัน กทม.ประกาศคืนพื้นที่วันที่ 15 พ.ค. ท่ามกลางฝนตกต่อเนื่อง นิติเวชระบุเหลือผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างติดตามอีก 4 ราย กมธ. ป.ป.ช.ชี้ปมตึก สตง. ส่อทุจริต ลดราคางาน 300 ล้าน ย้ำบริษัทต่างชาติมีประวัติสร้างงานไม่มั่นคง จ่อเรียกอดีตผู้ว่าการ สตง.แจงภายหลัง กทม.ทำบุญใหญ่นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ 109 รูป ทำพิธีสวดบำเพ็ญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นการยุติภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยอย่างเป็นทางการ หลังดำเนินการค้นหามา 48 วัน ในงานมีนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. ร่วมพิธีทำบุญด้วย ยันไม่เคยหนีความรับผิดชอบยึดตามกฎหมายและระเบียบตามหลักมาตรฐานวิศวกรรม ส่วนกฎแห่งกรรมใครทำอะไรไว้ต้องรับผลของการกระทำตามที่เสนอข่าวไปแล้วล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. บรรยากาศที่พื้นที่โครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่และพื้นที่โดยรอบไม่มีเจ้าหน้าที่หรือการปฏิบัติงานใดๆ นอกจากเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยจากหน่วยงานต่างๆ เก็บสัมภาระและอุปกรณ์กลับที่ตั้งหน่วยงานกันหมดแล้ว เหลือเจ้าหน้าที่สำนักโยธา กทม. และพนักงานของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด จำนวนหนึ่งรับผิดชอบขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์และรถแบ็กโฮที่อยู่ระหว่างขนย้ายอุปกรณ์กู้ภัย-รื้อซากและเครื่องจักรหนักออกจากพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม เพื่อให้ทันต่อการส่งมอบพื้นที่คืนในวันที่ 15 พ.ค. โดยตำรวจจะเข้าอายัดต่อ ท่ามกลางสายฝนที่ตกและเป็นอุปสรรคต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้งนี้ ตำรวจ สน.บางซื่อ แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนกำแพงเพชร 2 ในช่วง 14-15 พ.ค. เพราะจะมีการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์และเครื่องจักรหนักออกจากพื้นที่จะทำให้การสัญจรไม่สะดวกนอกจากนี้ สน.บางซื่อ จะปิดประกาศอายัดสถานที่ สตง. พื้นที่อาคารที่ถล่มในวันที่ 15 พ.ค. ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. อีกแห่งคือกองซากปูนที่ขนย้ายซากไปกองไว้หลังศาลเยาวชนฯ บางซื่อ จนถึงวันที่ 20 พ.ค. ทันทีที่ กทม.ประกาศยกเลิกเขตพื้นที่ภัยพิบัติและคืนพื้นที่ให้ สตง. เพื่อให้ฝ่ายเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบวันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รายงานผลการปฏิบัติการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตและสูญหายกรณีอาคาร สตง.ถล่ม ว่า นับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. จนถึงเวลา 17.00 น. วันที่ 11 พ.ค.68 สถาบันนิติเวชวิทยารับร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ที่เข้าระบบการตรวจพิสูจน์ทั้งหมด เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 80 ราย เป็นชิ้นส่วนอวัยวะ 313 ชิ้น ตรวจพิสูจน์ยืนยันข้อมูลผู้เสียชีวิตได้แล้ว 92 ราย ในจำนวนนี้เป็นร่างสมบูรณ์ 80 ราย และเป็นชิ้นส่วนอวัยวะที่ตรวจพิสูจน์แล้วตรงกันเป็นผู้เสียชีวิต 12 ราย พิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตได้ 85 ราย สามารถส่งมอบร่างให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลได้แล้ว 65 ราย ยังเหลือผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างติดตาม 4 รายต่อมาเวลา 15.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเหตุแผ่นดินไหวจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมอบให้ทายาทและผู้แทนผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต 32 ราย รายละ 300,000 บาท รวม 9,600,000 บาท มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมน.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในนามรัฐบาลขอแสดงความเสียใจด้วยอย่างสุดซึ้ง เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด รู้สึกเห็นใจและพร้อมสนับสนุนให้เต็มที่เท่าที่รัฐบาลจะทำได้ ผู้เสียชีวิตทุกท่านบางท่านเป็นสามี เป็นพ่อ เป็นลูก เป็นคนที่เรารักไม่ว่าจำนวนเงินเท่าไหร่คงไม่สามารถแทนคนที่เรารักได้ ดิฉันขอส่งความปรารถนาดีไปให้ในรูปแบบเงินเยียวยาและความจริงใจให้กับทุกท่าน ขอให้ต่อจากนี้ให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง และมีแรง มีกำลังในการสู้ต่อ วันนี้อาจจะหนักหน่อยแต่เชื่อว่าทุกท่านจะกลับมายืนได้อย่างเข้มแข็ง เบื้องต้นเราเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต 32 ราย จำนวน 9,600,000 บาท เป็นลอตแรกที่เอกสารครบถ้วน ถ้ามีการเตรียมเอกสารครบถ้วนอีก เรื่องเยียวยายังไปต่อให้กับคนอื่นๆอีก จากนั้นนายกฯเดินให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตมีญาติบางส่วนร้องไห้ด้วยความตื้นตันอีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 09.50 น. ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ต่อเนื่อง จากครั้งก่อน วันนี้ได้เชิญตัวแทนกรมบัญชีกลางมีหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างว่าถูกต้องและเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นการฮั้ว และเชิญตัวแทนกรมสรรพากรมาชี้แจงเกี่ยวกับการต่อภาษีของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งนายพิมล เจริญยิ่ง ผู้รับรองแบบอาคาร สตง. ที่มีอายุ 85 ปี และวิศวกรผู้ควบคุมงาน กมธ.จะหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะทราบจากเจ้าหน้าที่ สตง. ว่าคนเหล่านี้ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม ส่วนเรื่องเหล็กเป็นกระบวนการตรวจสอบของกระทรวงอุตสาหกรรมนายฉลาดกล่าวต่อว่า เบื้องต้นนำเหล็กและปูนไปทดสอบ ขณะทดสอบผ่านแน่นอนเพราะเอาวัสดุที่มีคุณภาพไปตรวจสอบ แต่ขณะก่อสร้างจริงไม่แน่ใจว่าเอาเหล็กกลุ่มที่ผ่านการทดสอบไปก่อสร้างหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ส่อว่ามีการลดราคางาน 300 ล้านบาท, มีการควบคุมงานและเอาจริงเอาจังหรือไม่, การควบคุมคุณภาพการประกอบมีคุณภาพหรือไม่ ซึ่งความเชื่อถือของบริษัทที่ก่อสร้างมีข่าวจากต่างประเทศว่าการก่อสร้างไม่มั่นคง ไม่น่าเชื่อถือต่อต่างชาติ ฉะนั้นคนไทยจะเชื่อถือได้อย่างไร เป็นสิ่งที่น่าห่วง ผู้ว่าการ สตง. คนปัจจุบันบังเอิญเป็น ผู้มารับช่วงต่อหลังจากที่ประกวดราคาแล้ว แต่ผู้ว่าการ สตง.ที่ทำการประกวดราคายังไม่พูดเรื่องนี้สักคำ เพราะเป็นผู้มีหน้าที่บริหารสัญญาเป็นงวดๆ ให้เขาเบิกเงินไปได้อย่างไร มีการควบคุมเป็นไปตามหลักวิชาการหรือไม่ และมีการรับรองจากวิศวกรที่ควบคุมงานหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ กมธ.จึงกำลังติดต่อให้มาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่