ตำรวจนครบาลตามตะครุบหนุ่มไทใหญ่ ฆ่าเจ้าของฟิตเนสวัย 70 คาบ้านย่านเพชรเกษมได้แล้วหลังจนมุมที่ย่านอ่อนนุช ให้การผ่านล่ามอ้างโมโหเมียที่ฟ้องคนตายว่าเวลาเมาชอบทำร้ายร่างกายเลยไม่ได้งาน บุกไปหาถึงบ้านแต่ไม่มีใครมาเปิดเลยปีนเข้าไปพบผู้ตายห้ามไม่ให้เข้าบ้านและใช้ปืนยิงขู่ลงพื้น 2 นัดเลยปรี่เข้าไปกอดรัดและแย่งปืนก่อนลั่นใส่ผู้ตาย จากนั้นคว้ากระเป๋าสะพายและขับรถผู้ตายหนีจนกระทั่งรถดับไม่รู้สาเหตุ ก่อนขึ้นรถเมล์ไปหางานทำย่านอ่อนนุชกระทั่งถูกจับกรณีนายไซ หาน อายุ 23 ปี ชาวไทยใหญ่ ถูกตำรวจ สน.เพชรเกษม ร่วมกับสืบ บก.น.9 และ สืบนครบาล จับกุมได้ที่ย่านอ่อนนุช 65 เมื่อค่ำวันที่ 12 พ.ค. ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 10 พ.ค.68 คดีใช้อาวุธปืนฆ่าผู้อื่นฯ พร้อมของกลางปืนลูกโม่ .38 พร้อมปลอกกระสุนปืน 3 ปลอก กระสุนปืนในรังเพลิงอีก 2 นัด โทรศัพท์ซัมซุง S 24 บัตรประชาชน พร้อมบัตรเครดิตผู้ตาย หลังก่อเหตุยิงนายยุทธโรจน์ สุวรรณสุเมธ อายุ 70 ปี เสี่ยเจ้าของฟิตเนส เสียชีวิตในบ้านผู้ตาย เลขที่ 132 ซอยร่มไทร 12 แยก 13 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เมื่อวันที่ 10 พ.ค. สาเหตุนายไซ หาน โทร.ขู่ฆ่าเมียตัวเองที่กำลัง ท้อง 5 เดือน และทำงานอยู่ในบ้านผู้ตาย และบุกไปหา แต่ถูกผู้ตายห้ามไม่ให้เข้าบ้าน เกิดการยื้อแย่งปืนที่ ผู้ตายนำออกมาขู่และเกิดปืนลั่นใส่ ก่อนชิงปืนและรถเก๋งหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่นำตัวนายไซ หาน ไปสอบปากคำที่ สน.เพชรเกษม ตามที่เสนอข่าวไปนั้นความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม นำตัว น.ส.พอง อายุ 18 ปี ภรรยานายไซ หาน อายุ 23 ปี ที่ถูก ดำเนินคดีลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปส่งที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อกักตัว ชั่วคราวในการสืบพยานจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ ก่อนจะผลักดันกลับประเทศต่อไปส่วนการสอบสวนนายไซ หาน ผ่านล่ามได้ความว่า คบหากับ น.ส.พอง ภรรยา มาได้สักพัก จนภรรยาตั้งท้องได้ 5 เดือน โดยตนมีอาชีพรับจ้างทาสีอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนภรรยามาทำงานที่บ้านเกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เคยมาหาภรรยาเมื่อ วันที่ 8 พ.ค. เพื่อขอเงิน 1 พันบาท สังเกตเห็นนาย ยุทธโรจน์ สุวรรณสุเมธ นายจ้างพกกระเป๋าสะพาย ในกระเป๋ามีรีโมตประตูบ้าน กุญแจรถ และปืนพก นายจ้างบอกให้มาทำงานด้วยกัน ตนจึงกลับไปลาออกจากงานเก่า แต่ภรรยากลับไปพูดกับนายจ้างว่า ตนเมาแล้วชอบทำร้ายร่างกาย ทำให้นายจ้างปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน รู้สึกโกรธภรรยาที่ไปบอกนายจ้าง ก่อนเกิดเหตุจึงเหมารถแท็กซี่มาจาก จ.สมุทรปราการ มาถึงที่เกิดเหตุในราคา 700 บาท เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ยืมโทรศัพท์โชเฟอร์โทร.หาภรรยาให้ออกมาเปิดประตูรั้ว เพื่อขอเงินมาจ่ายค่ารถแท็กซี่ แต่ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ จึงปีนประตูรั้วเข้าไปนายไซ หาน ให้การต่อว่า เมื่อเข้าไปถึงหน้า เรือนไทยกลางน้ำ พบผู้ตายถือปืนออกมาห้ามไม่ให้ เข้าไปหาภรรยาแต่ตนยืนยันจะเข้าไป ผู้ตายใช้ปืนยิง พื้นตรงหน้าขู่ตน 2 นัด คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียเลยกระโดดกอดตัวนายจ้างเพื่อป้องกันตัว เกิดการยื้อแย่ง ปืนจนปืนลั่นใส่นายจ้าง 1 นัด จนแน่นิ่งก่อนเดินเข้าไปตบภรรยาด้วยความโกรธ พร้อมคว้าปืนและกระเป๋าผู้ตายออกมาและขับรถผู้ตายหนีออกไปแบบ ไม่รู้ทิศทาง จนเฉี่ยวชนรถ จยย.บริเวณแยกบ้านแขก และย่านถนนข้าวสาร จนทะเบียนหน้าหลุด ถูกกลุ่ม จยย.ล้อมพยายามเปิดประตูรถแต่หนีรอดมาได้ขับรถไปถึงแฟลตตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีฯ รถดับโดยไม่ทราบเหตุจึงขึ้นรถแท็กซี่ไปที่ตลาดรังสิต เปิดโรงแรมนอน 1 คืน จากนั้นนั่งรถเมล์ไปหา งานทำย่านซอยอ่อนนุช 65 เมื่อได้งานนำโทรศัพท์ผู้ตายไปให้ที่ร้านขายโทรศัพท์ใกล้บ้านเพื่อปลดล็อก แต่เสียค่าใช้จ่าย 500 บาท ตนไม่มีเงินเลยทิ้งโทรศัพท์ ไว้ที่ร้าน กระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่