ส่งสัญญาณอย่างนี้การันตีได้ว่าการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่แต่ ณ วันนี้มั่นใจได้ “มีแน่”“ทักษิณ ชินวัตร” แม้จะออกตัวก่อนว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” แต่ถ้าถอดรหัสออกมาคงไม่ต่างไปจากแนวนี้“ทักษิณ” บอกว่าต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพียงแต่ทุกคนเอาเรื่องของการเมืองและการบริหาร โดยเฉพาะงานบางอย่างที่ไม่ค่อยออก หากติดขัดอะไรต้องคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังคิดและพิจารณาว่าจะต้องทำแค่ไหนการปรับ ครม.จะทำในส่วนของเพื่อไทยที่สามารถทำได้ก่อนไหนๆจะปรับก็ต้องปรับทีเดียว แต่ไม่เคยคิดว่าจะปรับให้ “ภูมิใจไทย” ออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดอย่างนั้น“ทักษิณ” กล่าวยํ้า!หากนำความเห็นของ “พ่อนายกรัฐมนตรี” มาตีความแล้วพบว่าแนวทางการปรับ ครม.นั้นจะปรับใหญ่หลายตำแหน่ง โดยรัฐมนตรีของ “เพื่อไทย” เป็นหลัก รวมถึงพรรคอื่นๆบางตำแหน่งเพื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาได้แต่ของ “ภูมิใจไทย” นั้นคงไม่ไปแตะต้อง ให้เป็นเรื่องของเขา ว่าจะปรับหรือไม่ปรับ เพราะถ้าไปแตะหรือยึดกระทรวงคืนคงไม่ยอมแน่ดีไม่ดีอาจจะถอนตัวจากรัฐบาลที่จะก่อปัญหายุ่งยากได้เพราะ “เพื่อไทย” ยังต้องการเป็นรัฐบาลต่อไป โดยยังคงมีพรรคร่วมรัฐบาลแบบเดิมและไม่มีแนวคิดเอาพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาล เพราะเวลานี้เสียงสนับสนุนก็มากพอแล้วเมื่อสัญญาณออกมาแบบนี้บรรดารัฐมนตรีก็เตรียมตัวเตรียมใจได้เลย อย่างที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นเรื่องของ “อนิจจัง” ใดๆในโลกนี้นั่นเป็นปัญหาของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องไปจัดการและตัดสินใจ เพราะต้องรู้ดีว่าตรงไหนมีปัญหาที่จะต้องเปลี่ยน “คน” เปลี่ยน “ตำแหน่ง” เพื่อให้งานออกมาให้ได้นํ้าหนักน่าจะอยู่ที่กระทรวงเศรษฐกิจเป็นหลักที่ผูกโยงด้วยการแลกเปลี่ยนกับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง “คน” และ “งาน” เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันอย่างปัญหาปากท้องของประชาชนที่เกี่ยวกับราคาสินค้าและราคาตกตํ่าของสินค้าเกษตรที่แยกความรับผิดชอบ 2 พรรคคือ “เพื่อไทย” กับ “กล้าธรรม” ที่จะต้องประสานให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพราะถ้าแยกแบบนี้เดินหน้าไปไม่ได้ที่สำคัญพอจะพูดคุยได้ ไม่น่ามีปัญหา!แต่ประเด็นหลักคือภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนงานของกระทรวงการคลังที่จะต้องเปลี่ยนรัฐมนตรี เพราะคนปัจจุบันดูท่าไม่อยากทำต่อเพราะงานค่อนข้างยากจึงต้องหาคนใหม่ที่เชี่ยวชาญจริงๆแต่ก็อีกแหละ วันนี้ไม่ว่าใครจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อยากเข้ามา เพราะปัญหามันหนักแก้ไขยาก ลำพังปัญหาเดิมก็ยากอยู่แล้วมาเจอ “ทรัมป์” ป่วนโลกที่ขึ้นภาษีจนวุ่นไปหมดมันก็เลยหนักเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า!แต่ในความเป็นรัฐบาลที่ต้องการสร้างผลงานก็ต้องใช้ความสามารถเพื่อหาคนมาทำงานให้ได้ มิฉะนั้นก็เสียชื่อหมดตำแหน่งใหญ่และสำคัญอย่างนี้จึงท้าทายความสามารถ เพราะถ้าทำสำเร็จชื่อเสียงก็ฟุ้งกระจายไปอีกนานแต่ถ้าไม่สำเร็จก็แค่บอกว่าปัจจัยไม่เอื้ออำนวยโลกแห่งความเป็นจริงมันก็แค่นี้เอง!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม