"พีช" ย่องกลางดึกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.ลำลูกกา ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาแล้วปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมยึดรถบีเอ็มดับเบิลยูมาตรวจสอบที่โรงพัก ผบ.ตร.สั่งตำรวจไปดูแลผู้บาดเจ็บ ขณะที่กัน จอมพลัง พาลูกลุงป้าคู่กรณีมาเจรจาเยียวยาและรับการขอโทษ จังหวะพีชถือพวงมาลัยนั่งคุกเข่าแต่กลับวืด กันดึงตัวลูกสาวออกระบุทำอย่างนี้ก็มัดมือชก ส่วนพีชน้ำตาคลอยืนยันผิดไปแล้วเรื่องลุกลามถึงพ่อแม่ วอนสังคมหยุดด่าประชาชนยังให้ความสนใจในคดีที่นายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ท-6523 กรุงเทพมหานคร ชนรถกระบะที่นายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี เป็นคนขับ และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ภรรยานั่งข้างได้รับบาดเจ็บที่ถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อมานายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี บิดา พานายสมิท ธิพัฒน์ ลูกชาย และทนายความ เดินทางเข้าพบตำรวจทางหลวง แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นอันตรายกับบุคคลอื่น ใบขับขี่สิ้นอายุ และนำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ นายพีชให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ปรับข้อหาละ 2,000 บาท รวมแล้ว 6,000 บาท ส่วนคดีอาญาอยู่ที่ สภ.ลำลูกกา อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ สภ.ลำลูกกา พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย. นายพีช เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อหาประกอบด้วย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีนายประจักษ์) ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (กรณีนางสมศรี) ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และทำให้เสียทรัพย์ แล้วปล่อยตัวชั่วคราว วันนี้นายพีชส่งรถบีเอ็มดับเบิลยูมาจอดที่โรงพักเพื่อตรวจสอบตามคลิปที่ปรากฏ พบว่ามีรอยขนาดใหญ่ที่บริเวณท้ายรถ ในส่วนหน้ารถที่เป็นจุดชนจุดแรกตำรวจทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนของ สภ.ลำลูกกา เป็นจุดที่สองที่มีรอยเฉี่ยวชนดำเนินการในส่วนนี้ พนักงานสอบสวนดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 17-18 เม.ย.แล้วเพื่อเข้าไปสอบปากคำทั้งนายประจักษ์ นางสมศรีและแพทย์พล.ต.ต.ยุทธนากล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องทะเบียนป้ายแดงเป็นของปลอมหรือไม่นั้น ประสานไปทางขนส่งให้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง รวมถึงในส่วนเรื่องใบขับขี่ด้วย ถ้าตรวจสอบพบความผิดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ขอยืนยันว่า ผบ.ตร.และ ผบช.ภ.1 สั่งการมาอย่างชัดเจนว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไป ตรงมา ส่วนกระเเสข่าวออกมาว่า นายพีชยึกยักไม่ยอม พิมพ์ลายนิ้วมือเดินออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่หน้าโรงพักนั้น ยืนยันว่าพิมพ์ลายนิ้วมือตามปกติเหมือนคนทั่วไป และไม่ได้มีอาการมึนเมา ส่วนจะเข้าข่ายคดีพยายามฆ่าหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พ.ต.ท.รัชพล บุญวิเชียร รอง ผกก.สส.สภ.ลำลูกกา พ.ต.ต.สมโภช สืบวงศกร สว. (สอบสวน) เดินทางไปที่โรงพยาบาลบางประกอกรังสิต 2 เพื่อเยี่ยมอาการและสอบปากคำสองสามีภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีหนุ่มพีชขับรถ BMW แซงปาดหน้าทำให้รถเสียหลักชนแบริเออร์ผบ.ตร.กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก เพื่อแสดงถึงความจริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือหรือเข้าข้างผู้กระทำความผิด สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บถึงโรงพยาบาลโดยไม่ต้องรอให้เดินทางมายังสถานีตำรวจสอบถามแพทย์เจ้าของไข้เบื้องต้น พบว่านายประจักษ์ ดวงใย ถูกนำตัวส่งเข้าห้องผู้ป่วยวิกฤติ มีอาการกระดูกซี่โครงด้านขวาหักถึง 6 ซี่ และมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก ยังรักษาตัวในห้องฉุกเฉินหรือ ICU ไม่สามารถให้ปากคำ ขณะที่ นางสมศรี ดวงใย ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นและให้ปากคำได้แล้ว เจ้าหน้าที่บันทึกคำให้การประกอบสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนพยานและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างรอบคอบ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุและนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไปมีรายงานว่า นายพีช คู่กรณี ประสานจะเข้าเยี่ยมและขอโทษลุงประจักษ์กับป้าสมศรีที่โรงพยาบาล แต่ครอบครัวลุงกับป้าไม่อนุญาตให้คู่กรณีเยี่ยมที่โรงพยาบาล และทางโรงพยาบาลวางมาตรการความปลอดภัย หากคู่กรณีต้องการพบให้ไปพบตำรวจที่ สภ.ลำลูกกา เวลา 15.00 น.ต่อมาเวลา 15.55 น. กัน จอมพลัง พร้อมด้วยน.ส.แสงอรุณ หาญเหมย และนายฉัตรวิวัตร์ ดวงใย ลูกสาวและลูกชายนายประจักษ์กับนางสมศรีคู่กรณีนายพีช เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน มีนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว พร้อมด้วยนายพีช นั่งคอยญาติผู้เสียหายเพื่อกราบขอโทษ ด้านกัน จอมพลังเปิดเผยว่า วันนี้ตนพาครอบครัวและพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาพบตำรวจ เปิดทางให้คู่กรณีที่อยากจะพบคุยกับฝั่งของครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บต่อหน้าทุกคนและเป็นสักขีพยาน ตนในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจช่วยเหลือลุงประจักษ์ ป้าสมศรี จะดูว่าคู่กรณีมีความสำนึกจริงหรือไม่ หรือถูกกดดันถึงออกมาขอโทษน.ส.แสงอรุณเปิดเผยว่า ส่วนตัวคิดว่าการที่คู่กรณีมาในครั้งนี้เป็นการมาขอโทษที่ไม่จริงใจ เพราะกระแสสังคมที่มากดดันให้ออกมา และเพื่ออยากเจอหน้าคู่กรณีเอาไปประกอบคดีในการลดทอนเป็นการช่วยเหลือตนเองหรือไม่ จากวานนี้ไปออกรายการไม่ได้เห็นการขอโทษอย่างจริงใจ ตอนนี้ยังไม่สามารถให้อภัยได้เพราะพ่อแม่ยังอยู่ที่ รพ.กระทั่งเวลา 16.20 น. กัน จอมพลัง พาน.ส.แสงอรุณเดินมาที่หน้าโรงพัก จังหวะนั้นนายพีชเดินถือพวงมาลัย 2 พวงนั่งคุกเข่าจะขอโทษ น.ส.แสงอรุณโน้มตัวลงจะรับพวงมาลัย แต่กัน จอมพลัง ดึงตัว น.ส.แสงอรุณออก พร้อมกับพูดว่า “ทำอย่างนี้ก็มัดมือชกเลย” แล้วรีบเดินจากไป ส่วนนายพีชยังนั่งคุกเข่าพูดเสียงสั่นเครือว่า “ผมตั้งใจมาขอโทษ เรื่องค่าเสียหายทั้งหมด ค่ารถ ค่าพยาบาลจะยินยอมที่จะดูแลทุกอย่าง ส่วนที่ไม่ไปดูแลตั้งแต่วันแรกยอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่มีเจตนาจะหนีไปไหน รู้สึกผิดที่ทำให้คุณลุงคุณป้าเจ็บ ถ้ามองย้อนไปเป็นญาติผมก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ขอโอกาสสังคมหยุดด่าผมได้แล้ว ผมทำอยู่คนเดียวแต่เรื่องกลับลุกลามไปที่พ่อแม่ ผมรู้สึกผิดแล้ว” จากนั้นนายกเบี้ยวรีบดึงลูกชายขึ้นรถกลับ ระหว่างทางนายพีชถือพวงมาลัย 2 พวงและน้ำตาคลอรีบเดินขึ้นรถทันทีขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ตำหนิฝ่ายค้านพยายามโยงเรื่องนี้ให้มีการเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แบบจับแพะชนแกะว่า อาจจะได้ข้อมูลผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน อยากอธิบายให้เข้าใจว่า เคสนี้ประชาชนและสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญว่าคู่กรณีสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะว่าไม่เกิดประโยชน์กับสังคมแต่อย่างใด และที่สำคัญฝ่ายค้านไม่ได้โยงแบบจับแพะชนแกะตามที่เข้าใจ ท่านอาจจะได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ที่สำคัญภาพที่ประชาชนและสังคมเห็นนั้น คู่กรณีมีความสนิทสนมกับนายทักษิณ และผู้ใหญ่คนอื่นๆ คนของท่านพูดเองจนเป็นเหตุให้สังคมหวั่นไหวและให้ความสนใจเป็นใครเป็นคนพูดนั้นรองนายกฯคงหาตัวไม่ยาก เพราะทั้งตำรวจทางหลวง ญาติผู้เสียหาย และโซเชียลมีเดียหาตัวคนพูดไม่ยากอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่